Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2740

ตอนที่ 2740 เคราะห์มาเยือน

“แม่นางเสวียนเยวี่ย ไม่ได้เจอกันนานเลย”

ที่ยอดเขาที่เก้า หลินสวินยิ้มเอ่ยเสียงกังวาน

ได้พบกับจินเทียนเสวียนเยวี่ยในเวลาเช่นนี้ทำให้เขาดีใจอย่างเหนือคาด

ผู้คนบริเวณนั้นต่างมองไปยังจินเทียนเสวียนเยวี่ยอย่างอดไม่อยู่

ไม่ต้องสงสัย จินเทียนเสวียนเยวี่ยงดงามเป็นที่สุด ชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ งามกระจ่างผิดธรรมดาประหนึ่งนางเซียนผู้สันโดษ ทำให้ผู้คนไม่น้อยตาเป็นประกาย

“ศิษย์น้องหลินสวิน การแจ้งมรรคกำลังใกล้เข้ามาเจ้ากลับวอกแวกเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง นี่เป็นข้อห้ามใหญ่นะ”

ไกลออกไปฉีหลิงเจิ้นยิ้มเอ่ยปาก

ไม่เพียงแต่เขาที่มาแล้ว จงหลีหรัน กู้เซ่าอิ้นและฟู่เจาเซิงก็มากันหมด

“สำหรับศิษย์พี่จึงจะเป็นข้อห้ามใหญ่”

หลินสวินชำเลืองพวกฉีหลิงเจิ้นปราดหนึ่ง สีหน้าเรียบเฉย สุขุมเยือกเย็น

“คุณชาย ท่านจดจ่อกับการแจ้งมรรคก็พอ อย่าถูกรบกวน”

ตอนนี้จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็รับรู้ได้ว่าไม่ใช่เวลามารำลึกความหลังกับหลินสวิน ในใจทั้งละอายและกระวนกระวาย ลอบตำหนิตัวเองว่าก่อนหน้านี้หุนหันพลันแล่นเกินไป

หลินสวินยิ้มให้ เอ่ยว่า “รอแจ้งมรรคค่อยไปร่ำสุราสนทนากับพวกเจ้า”

ทันใดนั้นในที่นั้นมีคนหัวเราะหยันระคายหูขึ้นมา ดึงดูดความสนใจคนไม่น้อย เป็นผู้ดูแลหอแรกมายาซวีเหวิน

ครั้งแรกที่หลินสวินไปรับเบี้ยประจำเดือนที่เรือนสมบัติสวรรค์ ซวีเหวินเคยปรากฏตัว หมายจะใช้ฐานะผู้ดูแลมากดข่มหลินสวิน พาเขาไปรับโทษที่หอแรกนภา แต่สุดท้ายก็ถูกเจี่ยงเยี่ยขวางไว้

“ใครหัวเราะอยู่”

เสวียนจิ่วอิ้นถลึงตาจ้องไป “หลินสวินกำลังจะแจ้งมรรค นี่เจ้าอยากรบกวนจิตมรรคของเขาหรือ ช่างใจชั่วต่ำช้าที่สุด! ถ้ายังหัวเราะอีกก็กลับไปหัวเราะที่บ้านไป!”

ถูกเสวียนจิ่วอิ้นด่าทอใส่หน้า ซวีเหวินโกรธจนหน้าเขียวทันที

แต่ทั่วบริเวณล้วนฮือฮาไม่หยุด

ละแวกยอดเขาที่เก้าตอนนี้มีคนใหญ่คนโตของสามหอเก้ายอดเขารวมตัวกันอยู่มากมาย แต่เสวียนจิ่วอิ้นกลับเหิมเกริมไม่หวั่นเกรง กำเริบเสิบสานหาใดเทียบ ด่าซวีเหวินสาดเสียเทเสีย!

“ลื่อของข้าคนนี้แม้จะพูดจาหยาบกระด้างไปบ้าง แต่ก็มีเหตุผล”

กลับพบว่าเสวียนเฟยหลิงเอ่ยเสียงเรียบ “วันนี้หลินสวินแจ้งมรรค สำคัญขนาดไหน ถ้าใครกล้าพูดอะไรที่ส่งผลเสียกับการแจ้งมรรคของหลินสวิน ทำเรื่องไม่เป็นผลดีกับการแจ้งมรรคของเขา ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยคนผู้นั้นไว้!”

เสียงดังกระจายไปทั่วบริเวณ สะท้านสะเทือนใจคน

คนใหญ่คนโตอย่างพวกฝูเหวินหลี ฉีเซียวอวิ๋น ชือเวินสีหน้าต่างอึมครึมไปบ้าง พวกเขาจะฟังไม่ออกได้อย่างไรว่านี่เสวียนเฟยหลิงกำลังถือโอกาสเตือนพวกเขา

“ที่พี่เสวียนพูดถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง วันนี้หลินสวินแจ้งมรรค ดึงดูดสายตาทั้งสำนัก ทั้งเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นับแต่นี้ไปไม่ว่าใครก็ห้ามโวยวายโดยพลการ ถ้ารบกวนการแจ้งมรรคของหลินสวิน ทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างที่เขาแจ้งมรรคอยู่ ข้าก็จะไม่ปล่อยคนผู้นั้นไปเช่นกัน!”

ที่เหนือความคาดหมายคือฝูเหวินหลีเอ่ยปากด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทำให้คนอื่นเดาไม่ออกว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

“เช่นนั้นก็ดี”

เสวียนเฟยหลิงจ้องมองฝูเหวินหลีอย่างลุ่มลึก ฝ่ายหลังยิ้มน้อยๆ ให้ สุขุมเยือกเย็น

ไม่มีใครจะโง่งมจนไปสร้างเรื่องไม่เหมาะสมระหว่างที่หลินสวินแจ้งมรรคอีก

สำหรับพวกฝูเหวินหลี ฉีเซียวอวิ๋นแล้ว เรื่องที่ควรทำก็ทำไปก่อนวันนี้แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่ผลลัพธ์เท่านั้น

หลินสวินเห็นทุกอย่างนี้ แต่ไม่ได้พูดมากอะไร

สายตาของเขามองไปที่ฉินอู๋อวี้ที่อยู่ข้างกาย เอ่ยเสียงเบาว่า “ผู้นำยอดเขา ขอให้ท่านพาคนออกไปจากที่นี่ด้วย”

ฉินอู๋อวี้ใจกระตุก รู้ว่าหลินสวินกำลังจะเริ่มแจ้งมรรคบรรลุระดับ จึงไม่กล้าร่ำไร พาพวกโม่หลันซาน ฉินรั่วหลิงออกไปจากบริเวณยอดเขานี้ทันที

ไม่นานนักท่ามกลางทะเลเมฆของยอดเขาก็เหลือหลินสวินเพียงลำพัง

บัดนี้สายตาทุกคู่ต่างรวมอยู่ที่เงาร่างสูงโปร่งนั้นของเขา

ความรู้สึกของผู้คนมากมายซับซ้อนนัก

อย่างพวกตงหวงเซ่าเหวิน ฉีชิงซือ มู่จุนอู๋

พวกเขาเข้าลัทธิแรกกำเนิดมาพร้อมหลินสวิน แต่ตอนนี้หลินสวินมีจุดเปลี่ยนแจ้งมรรคอมตะแล้ว ทั้งยังดึงดูดให้ทั้งลัทธิแรกกำเนิดจับตามอง!

ส่วนพวกเขาตอนนี้กลับเป็นได้แค่ผู้ชม…

และมีหลายคนตั้งตาคอยด้วยใจมุ่งร้าย

อย่างผู้อาวุโสหอแรกพิสุทธิ์ตงหวงชิง ผู้นำยอดเขาที่สองอวิ๋นเทียนหมิง ผู้นำยอดเขาที่สามหนานป๋อหง ผู้นำยอดเขาที่สี่มู่อวิ๋นเจิง

เจ็ดเดือนมานี้พวกเขาทำไปหลายเรื่องแล้ว แต่ละเรื่องนั้นอาจไม่สามารถสั่นสะคลอนจิตวิญญาณของหลินสวินได้จริงๆ แต่เมื่อรวมกันมากเข้าก็เพียงพอทำให้สภาวะจิตหลินสวินปั่นป่วน

อย่างเมื่อคืน หลินสวินที่เผยไอสังหารกับความแค้นอย่างเสียการควบคุมก็ถูกพวกเขาล่ววรู้ชัดแจ้ง

ในใจแต่ละคนต่างมีความคิดต่างๆ กัน บ้างคิดดี บ้างคิดร้าย

ไมว่าจะคิดเช่นไร ทุกคนต่างรู้ดีว่าสถานการณ์ของหลินสวินในวันนี้ไม่ดีนัก

ถ้าแจ้งมรรคล้มเหลว จะสร้างแรงสะเทือนหนักหน่วงหาใดเทียบให้คีรีดวงกมล และสำหรับคนของลัทธิแรกกำเนิดที่หวังจะยืมมือหลินสวินมากำจัดปัญหาเรื้อรังและภัยร้ายในสำนักแล้ว ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน

ในส่วนของตัวเขาเอง ก็เท่ากับทุกอย่างพังทลาย

แต่สำหรับศัตรูพวกนั้น นี่เป็นเรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัย

และต่อให้เขาแจ้งมรรคสำเร็จ แต่สิ่งที่ต้องเผชิญต่อไปก็ยังเป็นเคราะห์สังหารที่ไม่อาจหลบพ้นได้เช่นเดิม

มิหนำซ้ำเคราะห์สังหารนี้เขายังหามาให้ตัวเองเสียด้วย

เพราะถ้าไปฝืนปะทะตรงๆ เป็นไปได้สูงยิ่งว่ายามด่านเคราะห์มาเยือนจริงๆ จะถูกพลังสะท้อนกลับ!

แต่เมื่อถอยหลังไป ความขมขื่นก็ผุดขึ้นในใจพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ นี่เป็นมหาเคราะห์อมตะของหลินสวิน แต่พวกเขาที่เป็นผู้ชมกลับถอยหนีไปทันที เทียบกันเช่นนี้ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าระยะห่างของพวกเขากับหลินสวินห่างกันชัดเจนเพียงไหน

คนใหญ่คนโตเหล่านั้นต่างก็ไม่อาจสงบได้เช่นกัน แต่ละคนเผยสีหน้าแปลกใจสงสัย

พวกเขาต่างเป็นคนที่เคยทะลวงผ่านเคราะห์มรรคอมตะว เคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเมื่อนานมาแล้ว ผ่านพ้นจุดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายยิ่งและรอดมาจากด่านเคราะห์ได้

แต่ตอนนี้พวกเขากลับสัมผัสได้อย่างฉับไวว่าด่านเคราะห์ที่ตนทะลวงตอนนั้น แตกต่างกับด่านเคราะห์ที่หลินสวินกำลังจะได้เผชิญในตอนนี้!

กลิ่นอายไม่เหมือนกัน!

ถ้าบอกว่าด่านเคราะห์ที่พวกเขาทะลวงผ่านเป็นดั่งสายธารทะเลสาบ เช่นนั้นสิ่งที่หลินสวินกำลังเผชิญ ก็เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นคลื่นมหาสมุทร!

กลิ่นอายด่านเคราะห์น่าสะพรึงกลัวเช่นนั้น ทำเอาพวกเขายังอกสั่นขวัญหาย

“เจ้าหมอนี่สมเป็นผู้สืบทอดที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลตั้งตาคอยมาเนิ่นนาน เกรงว่ามรรคาอมตะสายนี้ของเขา… สิ่งที่ต้องเผชิญก็คือด่านเคราะห์เย้ยฟ้าที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์!”

พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างฟางเต้าผิง ตู๋กูยง เสวียนเฟยหลิงสบตากัน ต่างมองเห็นแววตกตะลึงในดวงตาของกันและกัน

ครั้นหันมองดูพวกฝูเหวินหลี ฉีเซียวอวิ๋น ชือเวิน แต่ละคนสีหน้าอึมครึม หว่างคิ้วเต็มไปด้วยแววเย็นชา

ในฐานะศัตรูของคีรีดวงกมล พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลินสวินแบกรับความหวังอันยิ่งใหญ่ของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลเอาไว้

และจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเส้นทางที่หลินสวินก้าวเดินเป็น ‘ยอดหนทางสู่อมตะ’ ที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น

หากไม่เป็นเช่นนี้ เหตุใดหลายปีมานี้พวกเขาจึงต้องอยากจัดการหลินสวินไว้ก่อนระดับอมตะ

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหลินสวินกำลังจะฝ่าด่านเคราะห์ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายด่านเคราะห์ที่ผิดจากธรรมดานั้น ในใจพวกเขาก็ไม่สบอารมณ์นัก ไอสังหาร ความแค้น และความโกรธพลุ่งพล่านปนเปกันไป

หากไม่ได้อยู่ในลัทธิแรกกำเนิด พวกเขาคงฆ่าหลินสวินไปนานแล้ว ไม่มีทางให้โอกาสเขาได้แจ้งมรรคอมตะ!

‘เส้นทางนี้ไม่เคยมีใครเดินมาก่อน เศษเดนคีรีดวงกมลอย่างเจ้า… ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!’

ฝูเหวินหลีหัวเราะหยันในใจ

ก็ในตอนนี้เอง…

ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย ด่านเคราะห์ยังไม่มาเยือน เงาร่างของหลินสวินกลับลอยสูงในอากาศมาถึงใต้เมฆาเคราะห์หนาทึบเหมือนน้ำหมึกนั้น

ผมสีดำดกหนาของเขาปลิวไปตามลม บนใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความสงบ แววตาราบเรียบไม่ไหวหวั่น มีเพียงเสื้อผ้าไหวกระพือ สง่างามดุจเซียนบนฟ้า

ทุกคนล้วนกลั้นหายใจจดจ่อ ตายังไม่กะพริบ กลัวแต่จะพลาดรายละเอียดอะไรไป

ก็พบว่าหลินสวินชูแขนขวาขึ้นลวกๆ ท่าทางคล้ายชี้นิ้วขึ้นฟ้า นิ้วมือเขาวาดไปพลางเอ่ยเสียเบาว่า

“เคราะห์มาเยือน”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์