Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2821

สรุปบท ตอนที่ 2821 ใกล้กำหนดกลับ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2821 ใกล้กำหนดกลับ – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2821 ใกล้กำหนดกลับ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2821 ใกล้กำหนดกลับ

อาหารเต็มโต๊ะวางอยู่ตรงหน้าซย่าจื้อ

นางกินอาหารบนโต๊ะอย่างจริงจังและจดจ่อเหมือนแต่ก่อน

ห่างไปไม่ไกลหลินสวินกำลังย่างเนื้อ น่องสัตว์มหึมาเหลืองเกรียมมันเยิ้มย่างด้วยเพลิงเทพแดงสด ส่งเสียงปะทุละเอียดบางเบา กลิ่นหอมเย้ายวนแผ่อบอวล

ภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี สถานที่ห่างไกลเงียบเหงาอย่างยอดเขานี้มีกลิ่นควันเพิ่มขึ้นมา

หลินสวินเงยหน้ามองไปทางซย่าจื้อเป็นครั้งคราว นัยน์ตาระบายยิ้ม มุมปากก็ยกยิ้ม ทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ละอายต่อตัวเอง

สูญเสียแล้วได้กลับคืนมา

คล้ายสถานการณ์พลิกผัน พบเจอแสงสว่าง

บนโลกนี้ไม่มีเรื่องไหนน่ายินดีกว่านี้แล้ว

ในตำหนักที่ห่างไปไม่ไกล เฉินหลินคงกับสือซานมองภาพนี้เงียบๆ สีหน้าทั้งสองก็ระบายยิ้มเช่นกัน

“นายหญิงตัดสินใจถูกแล้ว แม้ว่าความทรงจำและมรรควิถีในอดีตจะถูกผนึก แต่ขอแค่ก้าวออกจากความมืด กลับสู่แสงสว่าง ภายหน้าก็ไม่ใช่คนไร้บ้านอีก…”

สือซานเอ่ยเสียงเบา “ข้ารู้ว่านี่คือความปรารถนายิ่งใหญ่ของนายหญิง”

“ผู้ครอบครองกฎเกณฑ์โชคชะตาย่อมไม่ยอมถูกโชคชะตาเล่นตลกเป็นธรรมดา สำหรับนาง การตัดสินใจนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นชีวิตใหม่ ภายหน้าความสำเร็จบนมหามรรคไม่มีทางด้อยกว่าอดีตแน่”

เฉินหลินคงเอ่ยปากเนิบช้า

หลังจากซย่าจื้ออิ่มท้องก็นอนหลับ

เดิมหลินสวินคิดพูดคุยความในใจกับนาง แต่เมื่อเห็นดังนี้ นอกจากอึ้งงันแล้วยังรู้สึกผ่อนคลายและดีใจจนพูดไม่ออกอย่างอดไม่ได้

นี่ถึงเป็นซย่าจื้อที่เขาคุ้นเคยที่สุด ยามกินก็กิน ยามนอนก็นอน ไม่ว่าโลกภายนอกเปลี่ยนไปอย่างไร นางแค่อยู่ในโลกของนาง

ส่วนโลกของนางก็มีตนอยู่!

แต่หลินสวินรู้ว่าสภาวะจิตของตนเปลี่ยนไปแล้ว

สักวันหนึ่งเขาจะแต่งซย่าจื้อเข้ามาอย่างผ่าเผยมีหน้ามีตา!

บางทีด้วยนิสัยของซย่าจื้อคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้แต่แรก แต่นี่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเขาแค่อยากทำอะไรเพื่อนางบ้าง

เป็นอย่างที่จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์กล่าวก่อนหน้านี้ ในอดีตเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับความรู้สึกนี้อย่างแท้จริง

แต่ภายหน้าจะไม่เป็นเช่นนี้อีกแล้ว

“รู้สึกอย่างไรบ้าง”

เฉินหลินคงมาหาหลินสวิน ยิ้มพลางเอ่ยถาม

“อดีตเหมือนอยู่ในภวังค์ ปัจจุบันยามตื่นแล้วฉายแสงสดใส”

หลินสวินทอดถอนใจอยู่บ้าง

เฉินหลินคงกล่าว “เช่นนั้นตอนนี้เจ้าคิดว่าภูมิหลังและความเป็นมาของแม่นางซย่าจื้อยังสำคัญอยู่หรือไม่”

หลินสวินส่ายหัวกล่าว “ล้วนไม่สำคัญแล้ว”

ก่อนหน้านี้ตอนมาแหล่งสถานศุภโชค สาเหตุที่อยากสืบหาภูมิหลังในอดีตของซย่าจื้อก็แค่เพื่อตัดสินใจเท่านั้น

ตอนนี้ซย่าจื้อหลอมรวมกับร่างเดิมของนางแล้ว ภูมิหลังในอดีตของนางก็ไม่สำคัญแล้ว

“จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์เป็นสตรีที่ยอดเยี่ยม หลังจากหลอมรวมวิญญาณ เดิมทีนางสามารถหยั่งรู้นัยเร้นลับของต้นกำเนิดศุภโชคในเมืองเทพศุภโชคนี้ ไปสลายเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพนั้นให้ตนทะลวงระดับได้อย่างแท้จริง”

เฉินหลินคงกล่าว “แต่สุดท้ายนางไม่ได้ทำเช่นนั้น หากแต่ผนึกประสบการณ์และมรรควิถีในอดีตไว้ อาศัยสิ่งนี้มาทำให้แม่นางซย่าจื้อสมปรารถนา ความอาจหาญเช่นนี้ทำให้บุรุษในใต้หล้าต้องชื่นชม”

ใจหลินสวินกระเพื่อมไหวเช่นกัน

ในสายตาของจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ บางทีมหามรรคทั้งร่างคงไม่อาจต้านคำว่า ‘มีบ้านให้กลับ’ ได้กระมัง

“สหายน้อย มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าต้องรู้”

“ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ”

“ตอนนี้แม่นางซย่าจื้อไม่ใช่วิญญาณเสี้ยวหนึ่งอีก หากแต่ครอบครองกายมรรคของร่างต้นนางแล้ว ทว่าจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ผนึกมรรควิถีและความทรงจำทั้งตัวไว้ นี่ก็หมายความว่าพลังที่แม่นางซย่าจื้อครอบครองตอนนี้ยังเป็นมรรควิถีของนางเหมือนเมื่อก่อน”

เฉินหลินคงกล่าว “และสมบัติทั้งสามอย่างเกี้ยวโชคชะตา ไม้เท้ากฎกรรม หยกกาลเวลา กลายเป็นสมบัติบริสุทธิ์และถูกผนึกไว้แล้ว ในตอนนี้ด้วยมรรควิถีของนางยังไม่อาจใช้งานได้”

เขาเว้นช่วงไปก่อนกล่าวต่อ “แต่ภายหน้าเมื่อมรรควิถีของแม่นางซย่าจื้อยกระดับ พลังที่จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ผนึกไว้จะถูกกำจัดไปอย่างต่อเนื่อง”

“หรือพูดได้ว่าทุกครั้งที่พลังปราณของแม่นางซย่าจื้อยกระดับขึ้นก็สามารถเปิดผนึกออกชั้นหนึ่ง ได้รับพลังของจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ที่คู่ควรกับระดับนั้น”

“แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ซย่าจื้อไม่มีทางได้รับผลกระทบจากจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ กล่าวกันถึงที่สุดแล้ว ภายหน้าบนโลกนี้จะไม่มีบุคคลอย่างจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์อีก”

กล่าวถึงตอนท้ายเฉินหลินคงพลันถอนใจ

บุคคลที่มีความสามารถสลายเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพได้โดยสิ้นเชิง กลับยอมตัดขาดมรรควิถีในอดีต เพียงเพื่อก้าวออกจากความมืดและมีบ้านให้กลับ ถ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น… จะยอมสละหรือ

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ”

หลินสวินกล่าว ในใจเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งที่มีต่อจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์

“ความจริงแล้วเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์บอกข้า ข้าแค่นำมาถ่ายทอดให้เจ้าเท่านั้น”

เฉินหลินคงกล่าว “หรือพูดได้ว่าตั้งแต่นางตื่นขึ้นมาจากโลงนิรันดร์ก็ตัดสินใจไว้แล้ว สาเหตุที่วางท่าเช่นนั้นกับเจ้า ก็แค่อยากดูว่าเจ้าเป็นคนเช่นไรกันแน่ คู่ควรให้แม่นางซย่าจื้อฝากชีวิตไว้หรือไม่”

หลินสวินนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้แล้วในใจพลันม้วนซัด

ฟุ่บ!

เฉินหลินคงยกมือโบก โลงนิรันดร์ปรากฏกลางอากาศ เพียงแต่รูปลักษณ์เปลี่ยนไปแล้ว ราวกับเรือสำริดเล็กลำหนึ่ง อบอวลด้วยกลิ่นอายยิ่งใหญ่หนาแน่น

“สมบัตินี้ถูกจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์กำจัดตราประทับแล้ว บอกว่าต้องการมอบให้สหายน้อย หวังว่าเจ้าจะช่วยเก็บไว้ ภายหน้ายามแม่นางซย่าจื้อฝึกปราณก็ให้นางอยู่ในสมบัตินี้ได้ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการหยั่งรู้มรรคโชคชะตา กาลเวลา กฎกรรมของนาง”

เฉินหลินคงกล่าว

เฉินหลินคงกล่าว

หลินสวินอึ้งงัน กล่าวอย่างงุนงง “ที่แท้ผู้อาวุโสก็ติดต่อกับพวกผู้อาวุโสอู๋ยางมาก่อน”

ขณะกล่าวเขานำกาหลอมจิตออกมาและส่งให้เฉินหลินคงแล้ว

เฉินหลินคงกล่าว “ยังจำเรื่องที่ข้าบอกเจ้าก่อนหน้านี้ได้ไหม ปัจจุบันเจ้าเป็นเจ้าเมืองนี้แล้ว มีเพียงผู้มากสามารถซึ่งได้รับ ‘การยอมรับ’ จากเจ้า ถึงเข้ามาในเมืองนี้ได้โดยไม่ถูกพลังกฎระเบียบของเมืองนี้กำราบ”

หลินสวินพยักหน้า

เฉินหลินคงกล่าว “ตอนนี้เจ้าสามารถควบรวมประทับกฎระเบียบหลอมเข้าไปในกาหลอมจิต”

หลินสวินไม่คิดมากความ ในใจปรากฏภาพเมืองเทพศุภโชคที่สมบูรณ์ เมื่อสองมือของเขาทำมุทรา มีพลังกฎระเบียบไร้รูปถูกชักนำมาทันที ห้อมล้อมตรงปลายนิ้วเขา ควบรวมเป็นประทับมรรคลึกลับอัศจรรย์

ประทับมรรคนี้ก็เหมือนกุญแจดอกหนึ่ง เมื่อได้รับพลังจากมัน ไม่ว่าพลังปราณสูงแค่ไหนก็เข้าออกเมืองเทพศุภโชคนี้ได้ตามใจชอบ

วู้ม!

เมื่อหลินสวินเพิ่มพลังประทับมรรคนี้เข้าไปในกาหลอมจิต คลื่นประหลาดระลอกหนึ่งเปลี่ยนเป็นคลื่นแผ่กระจายออกมาทันที เหมือนว่ากฎระเบียบฟ้าดินแถบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเงียบๆ

“สหายยุทธ์ทุกท่าน เชิญปรากฏตัวให้เห็นหน่อย”

ขณะเดียวกันเฉินหลินคงโยนกาหลอมจิตไปกลางอากาศ เอ่ยปากเสียงเบา

ตูม!

กาหลอมจิตส่องประกาย รุ้งเทพแจ่มจรัสสะดุดตาพุ่งยิงออกมาเป็นสายๆ ควบรวมเป็นเงาร่างมากมายกลางอากาศ มีกันถึงยี่สิบกว่าคน

ทุกเงาร่างล้วนแผ่อานุภาพชวนประหวั่นไร้ขอบเขตดุจเหวนรก ครอบฟ้าคลุมดินราวกับเทพยืนตระหง่านบนนภาคราม!

“ฮ่าๆๆ ตั้งกี่ปีมาแล้ว ในที่สุดก็ได้เข้ามาในเมืองเทพนี้ ขอบคุณพี่เฉินที่ช่วยเหลือ!”

เสียงกึกก้องราวฟ้าคำรามดังขึ้น

คนพูดคือต้นไม้เทพที่มีความสูงถึงหมื่นจั้ง บนกิ่งไม้กลับแขวนดวงดาวอยู่มากมาย ใบไม้ม้วนตัวราวกับธารดาราสายหนึ่งไหลเวียน พรั่งพรูประกายดวงดาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ต้นไม้เทพหมื่นดารา!

นัยน์ตาหลินสวินหดรัด นี่เป็นถึงสิ่งมีชีวิตในตำนาน มีพลังแห่งหมื่นดารา สามารถวิวัฒน์เป็นฟ้าดาราแห่งหนึ่ง คงอยู่ชั่วนิรันดร์

“ไม่ใช่สิ ควรขอบคุณสหายน้อยหลินสวินคนนี้ถึงจะถูก หากเขาไม่มองทะลุนัยเร้นลับนภาดาราศุภโชค พวกเราไหนเลยจะมีโอกาสเข้ามาในเมืองนี้”

เสียงนุ่มนวลหนึ่งดังตามมาราวกับเสียงธรรม

หลินสวินเงยหน้ามองไป ก็เห็นเงาร่างของภิกษุผู้หนึ่งยืนนิ่ง เงาร่างดูเหมือนไม่สูง แต่กลับเบียดเต็มท้องฟ้าแถบนั้น แสงธรรมรอบตัวไหลเวียน บุปผาสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นประกายลอยพลิ้ว

หลินสวินใจสะท้าน อริยพุทธซิงเจีย!

บุคคลชั้นเลิศที่สร้างสามพันสถูปเจดีย์ไว้ในแดนธรรมสถูปของแดนมกุฎเมื่อนานมาแล้ว

ทั้งเป็นเขาที่สร้าง ‘จิตสถูปปลิดชีพ’ ไว้!

…………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์