Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2822

ตอนที่ 2822 พิบัติแสงโลหิต

ยามมรรคข้าแจ้งประจักษ์ ถึงรู้ชัดในทุกข์แห่งสรรพชีวิต

ถึงตอนนี้หลินสวินยังไม่อาจลืมประโยคนี้ที่อริยพุทธซิงเจียเหลือไว้ ยามได้รับจิตสถูปปลิดชีพที่แดนมกุฎเมื่อตอนนั้น

นี่คือมหาเมตตาที่แท้จริงอย่างหนึ่ง รำพึงฟ้าเวทนาคนว่าล้วนเป็นเช่นนี้

“ใช่ ต้องขอบคุณสหายน้อยหลินสวินถึงจะถูก”

“ฮ่าๆๆ เตรียมตัวมานาน ก็แค่ศึกใหญ่ครั้งหนึ่งเท่านั้น”

“พวกเราท่องแหล่งสถานศุภโชคมาหลายปี แต่โอกาสไปงัดข้อกับเผ่าเทพอย่างแท้จริงกลับมีน้อยจนนับนิ้วได้ ครั้งนี้มาตัดสินสูงต่ำกับพวกเขากันให้จบ!”

กลางฟ้าดินมีเสียงมากมายดังก้อง บ้างคลุมเครือ บ้างนิ่งสงบ บ้างองอาจ บ้างลุ่มลึก ราวกับทวยเทพสนทนา สั่นสะเทือนฟ้าดิน

หลินสวินทอดสายตามองไป ไม่นานก็เจอจักรพรรดิสงครามอู๋ยาง

เงาร่างนางสูงโปร่ง เยียบเย็นดั่งจันทรา ทั่วร่างกลับแผ่กลิ่นอายสันโดษ ราวปลีกตัวแยกจากโลก

“เฉินหลินคงเคยบอกว่าศุภโชคของแดนมกุฎล้วนถูกเจ้าได้ไป หากกล่าวเช่นนี้ เจ้ากับข้าล้วนเรียกได้ว่าเป็นสหายยุทธ์”

อู๋ยางกล่าวเสียงเบา ในแววตาเจือความสนิทชิดเชื้อ

หลินสวินประสานมือคารวะจากไกลๆ

จากนั้นเขายังเห็นจักรพรรดินรกเลือดทมิฬด้วย เงาร่างของฝ่ายหลังอาบไล้ด้วยแสงทมิฬคลุมเครือ ราวกับจักรพรรดิที่คุมอำนาจฟ้าดิน แผ่อานุภาพหยิ่งทะนง

“วางใจเถอะ ความแค้นของเจ้ากับบุตรชายข้า ข้าไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้า”

จักรพรรดินรกเลือดทมิฬแค่นเสียงเย็นชา

หลินสวินประสานมือคารวะจากไกลๆ เช่นกัน

ไม่นานหลินสวินก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย นั่นคือชายชุดขาวที่งดงามราวกับเด็กหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวกลับเหมือนหมื่นลักษณ์ปะทุพล่าน บีบกดแผ่นฟ้า!

จักรพรรดิสงครามลักษณ์เทพหลงเซี่ยง!

ตอนนั้นยามอยู่แดนมกุฎ หลินสวินเคยรับการทดสอบและเคี่ยวกรำในศิลาโบราณหมื่นลักษณ์ ได้รับประสบการณ์และใจความการหลอมกายทั้งชีวิตของจักรพรรดิสงครามลักษณ์เทพที่หลงเหลือเอาไว้ มีหรือจะจำฐานะของอีกฝ่ายไม่ได้

ได้เจออัครบุคคลแห่ง ‘พันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ’ มากเช่นนี้ในชั่วขณะเดียว จิตใจหลินสวินสั่นไหวอย่างอดไม่ได้

ต้นไม้เทพหมื่นดารา อริยพุทธซิงเจีย จักรพรรดินรกเลือดทมิฬ จักรพรรดิสงครามอู๋ยาง จักรพรรดิสงครามลักษณ์เทพ…

ทั้งหมดนี้หากสุ่มเลือกมาสักคน ย่อมสามารถสะเทือนนิรันดร์กาล เหยียดหยันสรรพชีวิต แต่ตอนนี้กลับมารวมตัวกัน!

นอกจากคนที่เขาจำได้แล้ว ในที่นั้นยังมียักษ์ใหญ่แห่งยุคคนอื่นอีกสิบกว่าคน ยิ่งใหญ่เทียมฟ้า!

ผู้มากความสามารถของดินแดนรกร้างโบราณที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราในช่วงต้นดึกดำบรรพ์เหล่านี้ ปัจจุบันแน่นอนว่าไม่ได้อยู่บนมรรควิถีระดับจักรพรรดินานแล้ว

หลินสวินสัมผัสได้ทันที พลังที่อบอวลบนตัวพวกเขาเกินขอบเขตของระดับอมตะไปแล้ว!

นี่น่าเหลือเชื่อนัก

“ทุกท่าน ไม่เจอกันนานทีเดียว หวนนึกถึงปีนั้น พวกเราหลายพันคนก้าวออกจากทางเดินโบราณฟ้าดาราด้วยกัน ถึงตอนนี้กลับเหลือแค่ไม่ถึงสามสิบคน ยังกระจายกันอยู่ทั่วหล้า”

เวลานี้เฉินหลินคงทอดถอนใจยิ่งนัก “ครั้งนี้หากไม่ใช่ว่ามีวาสนา คิดจะรวมตัวกันเหมือนครานี้อีกก็คงไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่”

สีหน้าของเหล่าผู้มากความสามารถแห่งดินแดนรกร้างโบราณเจือแววทอดถอนใจ

หนทางแห่งมหามรรค สามารถร่วมทางกันมาถึงตอนนี้ก็ไม่ง่ายดายเลยจริงๆ

ในกาลเวลาไร้สิ้นสุด มักเกิดเรื่องอย่างการจากลาเป็นตายขึ้นได้มากเกินไป

หวนนึกถึงตอนแรก ผู้จากทางเดินโบราณฟ้าดารามาพร้อมพวกเขามีหลายพันคน แต่เมื่อผ่านการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาไร้สิ้นสุด ถึงตอนนี้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เหลือแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้น

มหามรรคไร้ปรานี ล้วนอยู่ในการจากลาเป็นตาย

“ทุกท่าน คืนนี้มาดื่มร่วมกันเป็นอย่างไร”

เฉินหลินคงกล่าวเสนอ

“ประเสริฐ”

“ได้”

“ควรเป็นเช่นนี้แต่แรก”

“ฮ่าๆๆ ข้าคิดเช่นนั้นนานแล้ว”

อัครบุคคลมากมายหัวเราะร่า

คืนนี้บนยอดเขาราตรีสงัดมีเสียงหัวเราะเริงร่ายินดี บรรยากาศสังสรรค์ครึกครื้น สำเริงสำราญยิ่ง

หลินสวินพูดคุยกับพวกเขา คารวะทุกคน พูดถึงทุกเรื่องราวในแดนมกุฎ ทำให้พวกอู๋ยาง ซิงเจีย หลงเซี่ยงต่างทอดถอนใจไม่หยุด

หลินสวินถามข้อสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจมาตลอดกับอู๋ยาง…

ว่าทำไมถึงทิ้ง ‘ร่างไร้หัว’ ไว้ในแดนมกุฎ

คำตอบของอู๋ยางนั้นง่ายมาก ศีรษะของนางถูกศัตรูตัดไปหลอมเป็นหยกประดับกระดูกขาว ถูกนางมองเป็นเรื่องอัปยศทั้งชีวิต

ต่อมาศัตรูคนนี้ถูกนางตัดหัวเช่นกัน ใช้วิธีเดียวกันมากำราบตัวเขาเอง

อู๋ยางยังบอกว่านางเคยเจอกับลั่วชิงเหิงลุงของหลินสวิน เคยรู้ถึงการมีอยู่ของห้องโถงมรรคาสวรรค์ รู้ถึงความน่ากลัวของพลังพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน

หลินสวินยังได้รู้เรื่องในอดีตมากมายที่เกี่ยวข้องกับผู้สืบทอดคีรีดวงกมลจากปากของพวกซิงเจีย หลงเซี่ยง

ตัวอย่างเช่นซิงเจียเคยรู้จักกับศิษย์พี่เก้าเก่ออวี้ผู ทั้งสองเคยถกมรรคกันร้อยปี ชื่นชมกันและกัน

หลงเซี่ยงเคยเป็นศัตรูกับศิษย์พี่หลี่เสวียนเวย หลังจากสู้กันมาหลายพันปี ภายใต้การแทรกแซงของศิษย์พี่สามรั่วซู่ จึงเปลี่ยนจากแตกแยกเป็นสามัคคีกัน

สิ่งที่ทำให้หลินสวินคาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ ตามที่เฉินหลินคงกล่าวมา จักรพรรดินรกเลือดทมิฬกับศิษย์พี่แปดปู่ซ่วนจื่อถึงกับเป็นศัตรูคู่แค้นกัน

ทั้งสองล้วนชอบรวบรวมสมบัติอัศจรรย์ในใต้หล้า ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเกิดความขัดแย้งบางส่วนได้

แต่ทุกครั้งล้วนเป็นจักรพรรดินรกเลือดทมิฬที่เสียเปรียบ ถึงขั้นเคยถูกปู่ซ่วนจื่อลอบโจมตีฉับพลันเพื่อปล้นชิงด้วย…

เมื่อพูดถึงเรื่องเก่าในอดีตพวกนี้ สีหน้าของจักรพรรดินรกเลือดทมิฬดำทะมึน ด่าว่าในหมู่ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล เจ้าอ้วนปู่ซ่วนจื่อถือว่าร้ายกาจและเหี้ยมที่สุด!

หลินสวินเริงร่าอย่างอดไม่ได้ เขาเพิ่งรู้ว่าเรื่องที่ตนปล้นบุตรนรก มีความมหัศจรรย์คล้ายคลึงกับประสบการณ์ที่ศิษย์พี่ปู่ซ่วนจื่อปล้นจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ

นอกจากนี้เหล่าอัครบุคคลแห่งดินแดนรกร้างโบราณยังบอกเรื่องราวมากมายที่หลินสวินไม่เคยรู้ ทำให้หลินสวินเปิดโลกทัศน์อย่างอดไม่ได้

มาดสง่างามของคนรุ่นก่อน ในที่สุดก็ได้เห็นในคืนนี้ ทำให้หลินสวินทอดถอนใจยิ่งนัก

หวนนึกถึงเรื่องเมื่อนานมาแล้ว เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มที่เสาะหาหนทางบนวิถีแห่งมหามรรคคนหนึ่ง เหล่าผู้มากความสามารถในที่นี้ล้วนเป็นบุคคลที่เหมือนตำนานซึ่งเขาได้แต่แหงนมอง

แต่ตอนนี้เขาได้รวมตัวกับพวกเขา พูดคุยสนุกสนาน ไม่ให้ผู้คนทอดถอนใจได้อย่างไร

พูดได้ว่าเป็นวันหนึ่งที่หลินสวินดีใจที่สุดตั้งแต่เข้ามาในแหล่งสถานศุภโชค

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์