ตอนที่ 2992 กวาดล้างครั้งใหญ่ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2992 กวาดล้างครั้งใหญ่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2992 กวาดล้างครั้งใหญ่
ไอหมอกพวยพุ่ง ประกายแสงสีเลือดอบอวล
บนภูเขาอิ๋งโจวที่สูงตระหง่านสลับซับซ้อน หลินสวินเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
สวบ!
วิญญาณร้ายโลหิตตนหนึ่งกระโจนออกมา ไม่ทันได้สำแดงอานุภาพร้ายกาจก็ถูกประตูเนรเทศพาตัวไป ง่ายดายจนเหมือนงมเอาปลาตัวใหญ่ได้ตัวหนึ่งอย่างสบาย
หลิงเสวียนจื่อที่ตามติดหลินสวินอยู่ด้านหลังดวงตาเปล่งประกาย
เขาปลดปล่อยมรรควิถีของตัวเองออกมาจาหมด จงใจสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โต ใช้สิ่งนี้ดึงดูดวิญญาณร้ายโลหิตตามทาง เข้าคู่กับการจับเหยื่อของหลินสวิน
ดังคาด เช่นนี้แล้วผลเก็บเกี่ยวก็เริ่มมากขึ้น
ระหว่างทางที่พวกเขามุ่งหน้ามา วิญญาณร้ายโลหิตที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ของภูเขาอิ๋งโจวต่างแตกตื่น พุ่งตัวเข้าหาราวกับกระแสน้ำสีเลือดระลอกแล้วระลอกเล่า
และล้วนถูกประตูเนรเทศของหลินสวินเก็บไปโดยไม่มีข้อยกเว้น
ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งเค่อ
ก็ถูกพวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนล่าวิญญาณร้ายโลหิตได้สี่สิบกว่าตน ผลเก็บเกี่ยวเช่นนี้ทำให้หลิงเสวียนจื่อตื่นเต้นจนตัวสั่น ใบหน้าเปล่งปลั่ง ยินดีปรีดายิ่ง
แต่เมื่อพลังประตูเนรเทศของหลินสวินสลายไป หลิงเสวียนจื่อก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที เอ่ยว่า “ศิษย์น้อง จะออกจากภูเขาอิ๋งโจวไปพักก่อนไหม”
หลินสวินส่ายหัวพูด “ไม่เป็นไร พวกเราล่าต่อ ศิษย์พี่เป็นเหยื่อล่อต่อ ข้าคอยเก็บเหยื่อพวกนั้นเอง”
เหยื่อล่อหรือ
หลิงเสวียนจื่อถลึงตาใส่หลินสวินอย่างไม่สบอารมณ์ แม้ว่าตลอดทางมานี้ตนจะรับบทเป็นเหยื่อล่อจริงๆ แต่เจ้าไม่พูดออกมาต่อหน้าไม่ได้หรือ
แน่นอนว่าตอนนี้หลิงเสวียนจื่อไม่อาจปะทะกับหลินสวินได้ หาไม่แล้วเกรงว่าตอน ‘แบ่งผลประโยชน์’ ในท้ายที่สุดจะต้องขาดทุน!
ฮูม!
ยามหลินสวินกระตุ้นอภินิหารประตูเนรเทศอีกครั้ง ศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนก็มุ่งหน้าไปกวาดล้างอีกหน ตลอดทางยิ่งร่วมมือกันได้อย่างเข้าขา
ไม่ต้องให้หลินสวินบอกสักนิด หลิงเสวียนจื่อก็สามารถเข้าใจความหมายของเขาได้จากแววตาเล็กๆ น้อยๆ หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งยังออกเคลื่อนไหวได้เหมาะสมทันท่วงที
นี่ทำให้หลินสวินลอบอุทานชื่นชมอย่างอดไม่ได้ ศิษย์พี่สี่เป็นผู้ช่วยต่อสู้ที่เก่งกาจยิ่งคนหนึ่ง!
เวลาผันผ่านไปทีละนิด
หนึ่งเค่อผ่านไป อภินิหารประตูเนรเทศของหลินสวินสลายไปอีกครั้ง เขาตัดสินใจออกจากภูเขาอิ๋งโจวไปพร้อมหลิงเสวียนจื่อทันที
ช่วยไม่ได้ พลังกายเขาผลาญไปอย่างหนักหน่วง
ในถ้ำสถิตภายในหุบเขา
หลินสวินนั่งสมาธิฟื้นฟูพลังกาย ส่วนหลิงเสวียนจื่อวางแผนการเคลื่อนไหวต่อไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
‘การเคลื่อนไหวคราวนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม ล่าวิญญาณร้ายโลหิตเจ็ดสิบสามตนมาได้อย่างง่ายดาย กวาดล้างพื้นที่เขาอิ๋งโจวไปประมาณสามส่วน… และตอนนี้ศิษย์น้องก็จำเป็นต้องฟื้นฟูพลังกาย…’
หลิงเสวียนจื่อครุ่นคิดอยู่ในใจ ‘ถ้าคิดคำนวณเช่นนี้ ภายในสามวันก็จะกวาดล้างภูเขาอิ๋งโจวนี้ได้ทั้งหมด!’
พอคิดถึงตรงนี้เขาก็ใจหายอยู่บ้าง
เขาเตร่อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว แต่จำนวนวิญญาณร้ายโลหิตที่ล่าได้ย่อมเทียบความสำเร็จในช่วงเวลาไม่กี่วันสั้นๆ ของหลินสวินไม่ได้!
ครึ่งวันผ่านไป
พลังกายหลินสวินฟื้นคืนมา ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงแต่อย่างใด บุกไปยังภูเขาอิ๋งโจวอีกครั้ง
……
ไม่ผิดจากที่หลิงเสวียนจื่อคาดไว้ เพียงสามวันสั้นๆ พื้นที่รัศมีสามหมื่นลี้ทั้งภูเขาอิ๋งโจวก็ถูกพวกเขากวาดล้าง วิญญาณร้ายโลหิตที่เร่ร่อนอยู่บนเขาล้วนตกเป็นเหยื่อ 艾琳小說
รวมกันเกือบห้าร้อยตนแล้ว!
และนี่ก็หมายความว่าพวกเขาจะได้รับ ‘ศิลาโลหิตนิรันดร์’ เกือบห้าร้อยก้อน!
“ศิษย์น้อง ลำบากเจ้าแล้ว”
เมื่อกลับจากภูเขาอิ๋งโจว หลิงเสวียนจื่อก็เอาเหล้ากาหนึ่งส่งให้หลินสวินอย่างกระตือรือร้น “เจ้ามาพักดีๆ สักหน่อย การเคลื่อนไหวคราวนี้เจ้าสร้างความดีความชอบไว้มาก ศิษย์พี่ไม่อยากยกย่องเจ้ายังทำไม่ได้”
หลินสวินดื่มเหล้าพลางยิ้มเอ่ยว่า “ศิษย์พี่ ท่านวางใจได้ ศิลาโลหิตนิรันดร์ที่ได้มาจากวิญญาณร้ายโลหิตต้องเป็นของท่านส่วนหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาแบ่งสมบัติกัน”
หลิงเสวียนจื่ออึ้งไป พลันตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง เอ่ยว่า “นี่เจ้าคิดจะลงมือม้วนเดียวจบ กวาดล้างภูเขาอีกสี่ลูกด้วยหรือ”
หลินสวินพยักหน้า “ไม่ผิด”
แม้ภูเขาอิ๋งโจวใหญ่โตยิ่ง แต่จำนวนวิญญาณร้ายโลหิตที่ถือกำเนิดขึ้นไม่ได้มากมาย เพียงสามวันก็ถูกพวกเขากวาดเรียบ และวิญญาณร้ายโลหิตที่ได้มาก็แค่เกือบห้าร้อยตนเท่านั้น
“ดี!”
หลิงเสวียนจื่อตบหน้าตัก เอ่ยอย่างอิ่มเอมใจว่า “เช่นนั้นต่อไปพวกเราก็ไปภูเขาเผิงไหล ภูเขานี้ทอดยาวเก้าหมื่นเก้าพันลี้ บนนั้นมี ‘กฎระเบียบแปรร่าง’ หนึ่งในกฎระเบียบต้นกำเนิดของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์กระจายอยู่ และศพคลั่งนิรันดร์ที่ถือกำเนิดในนั้นก็แปลงมาจากพลังร่างกายหลังร่วงหล่นของระดับนิรันดร์ พลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าวิญญาณร้ายโลหิตอยู่บ้าง แต่ถ้ามีประตูเนรเทศของศิษย์น้อง การรับมือกับพวกมันย่อมง่ายดายนัก…”
เขาพูดจาไม่สะทกสะท้าน บรรยายสภาพของภูเขาเผิงไหลออกมา
การตอบสนองของหลินสวินง่ายดายนัก เพียงคำเดียว “ไป”
……
ภูเขาเผิงไหล
และการหลอมศพคลั่งนิรันดร์ก็จะได้รับกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่ระดับนิรันดร์ผู้นี้ควบรวมไว้!
แม้ว่าจะชำรุดเสียหาย แต่ก็หายากหาใดเทียบ ศิลาโลหิตนิรันดร์ไม่อาจเทียบติด
……
หลังจากท่องทั่วภูเขาอิ๋งโจวและภูเขาเผิงไหล สองคนศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่ได้รามือ หลังพักฟื้นหนึ่งวันก็บุกไปยังภูเขาฟางหู
ภูเขาฟางหูมีขอบเขตเพียงเก้าพันลี้ แต่สูงชันอันตรายยิ่ง บนเขาอบอวลไปด้วยกฎระเบียบต้นกำเนิดชนิดหนึ่งนามว่า ‘แปรวิญญาณ’
วิญญาณร้ายไร้ดับก็กระจายอยู่ในภูเขานี้ วิญญาณร้ายไร้ดับแปลงมาจากพลังวิญญาณของระดับนิรันดร์ที่ร่วงหล่นในยุคก่อน
วิญญาณร้ายไร้ดับมีมากมายยิ่งนัก มหาศาลอย่างกับฝูงตั๊กแตน
นี่เป็นเพราะยามระดับนิรันดร์ร่วงหล่น วิญญาณของพวกเขาก็ระเบิดกระจุยเป็นผุยผงไปนานแล้ว วิญญาณร้ายไร้ดับเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งที่แปลงมาจากกลิ่นอายพลังจิตหลังร่วงหล่นเท่านั้น
อานุภาพของมันเทียบวิญญาณร้ายโลหิตไม่ติด ยิ่งไม่อาจเทียบกับศพคลั่งมหามรรคได้ สิ่งที่น่ากริ่งเกรงเพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นจำนวนมหาศาล
แต่นี่ไม่ได้สร้างความลำบากให้หลินสวิน
มีประตูเนรเทศอยู่ การล่าวิญญาณร้ายไร้ดับที่มีเป็นกองทัพเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเหวี่ยงแหใหญ่จับฝูงปลา
เพียงแค่เจ็ดวัน
วิญญาณร้ายไร้ดับที่อยู่ในภูเขาฟางหูก็ถูกกวาดเกลี้ยง
จากนั้นหลินสวินกับหลิงเสวียนจื่อก็รุดหน้าไม่หยุดพัก เริ่มตั้งเป้าหมายไว้ที่ ‘ภูตมหามรรค’ บนภูเขาไต้อวี้ รวมถึง ‘ศาสตราร้ายนิรันดร์’ บนภูเขาหยวนเจี้ยว
กฎระเบียบต้นกำเนิดบนภูเขาไต้อวี้มีนามว่า ‘แปรมรรค’ น่าครั่นคร้ามเป็นที่สุด สามารถแปลงพลังปราณทั้งหมดที่ผู้ฝึกปราณครอบครองได้
และภูตมหามรรคที่กระจายอยู่บนภูเขาไต้อวี้ก็แปลงมาจากพลังปราณของระดับนิรันดร์ พลังต่อสู้แกร่งกล้าไม่ด้อยไปกว่าศพคลั่งนิรันดร์ มิหนำซ้ำแม้ไม่มีสติปัญญา แต่กลับมีสัญชาตญาณต่อสู้ วิชาต่อสู้มากมายยิ่งนัก ทั้งยังรับมือได้ยากกว่าศพคลั่งนิรันดร์
หลินสวินกับหลิงเสวียนจื่อใช้เวลาไปหนึ่งเดือนเต็มถึงล่าภูตมหามรรคสิบแปดตนบนภูเขาไต้อวี้ได้
ส่วนบนภูเขาหยวนเจี้ยวก็ปกคลุมด้วยกฎระเบียบต้นกำเนิดนามว่า ‘แปรศาสตรา’ ภูเขานี้รูปร่างคล้ายกรงขังขนาดมหึมาหาใดเทียบกรงหนึ่ง มีศาสตราร้ายนิรันดร์ที่เปล่งประกายสดใส ไอสังหารพลุ่งพล่านชิ้นแล้วชิ้นเล่ากระจายอยู่
ของเหล่านี้ล้วนเป็นศาสตรามรรคบริสุทธิ์ของผู้แข็งแกร่งระดับนิรันดร์จากยุคก่อน ต่อให้ล้วนผุพังไม่เหลือดี ทว่าแต่ละชิ้นล้วนเคยเปื้อนเลือดสดๆ ของศัตรู เคยกรำศึกร่วมกับเจ้านายไม่รู้กี่เดือนปี ไอสังหารที่แผ่ออกมายังบดขยี้วิญญาณระดับอมตะใดๆ ก็ตามได้อย่างง่ายดาย!
ศาสตราร้ายนิรันดร์เหล่านี้ไม่มีจิตวิญญาณ แต่กลับอบอวลไปด้วยอานุภาพนิรันดร์ มีความลึกลับแตกต่างกันไป ศาสตราร้ายนิรันดร์บางส่วนถึงขั้นสามารถซ่อนอยู่ห้วงอากาศแล้วโจมตีออกมากะทันหัน เรียกได้ว่าน่าสะพรึงถึงขีดสุด
ยามหลินสวินจัดการพวกมันก็เกือบประสบอันตรายไปหลายครั้ง แต่โชคดีที่มีประตูเนรเทศอยู่ ขอเพียงหลบอยู่ในบริเวณที่มีประตูเนรเทศปกคลุม ไม่ว่าศาสตราร้ายนิรันดร์เหล่านั้นจะมหัศจรรย์เพียงไหน พอเข้ามาใกล้ก็จะถูกม้วนตลบเข้าไปในประตูเนรเทศ
สุดท้ายพวกหลินสวินใช้เวลาไปยี่สิบกว่าวันถึงกวาดล้างภูเขาหยวนเจี้ยวจนหมด ได้ศาสตราร้ายนิรันดร์มาทั้งหมดสี่สิบกว่าชิ้น
แน่นอนว่าล้วนไม่สมบูรณ์
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์