Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2994

สรุปบท ตอนที่ 2994 สลักกฎระเบียบ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2994 สลักกฎระเบียบ – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2994 สลักกฎระเบียบ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2994 สลักกฎระเบียบ

ในถ้ำสถิต

เงาร่างของหลินสวินกับหลิงเสวียนจื่อเดินออกมาจากแดนเนรเทศ

หลินสวินแบ่งสมบัติที่ได้มาทั้งหมดเป็นสองส่วน ให้หลิงเสวียนจื่อไปครึ่งหนึ่ง

“ให้ข้าเยอะขนาดนี้เลยหรือ” หลิงเสวียนจื่อประหลาดใจนัก

หลินสวินยิ้มเอ่ย “ไม่อยากได้หรือ”

หลิงเสวียนจื่อพลันเก็บสมบัติไป ยิ้มเอ่ยว่า “สมบัติแบบนี้ใครจะรังเกียจได้เล่า”

ทันใดนั้นเขาคิดๆ แล้วยังเอ่ยทักอย่างอดไม่ได้ว่า “ศิษย์น้อง เจ้ารู้สึกว่าแดนเนรเทศออกจะคล้ายกับแดนฝังมรรคแห่งนี้หรือไม่”

หลินสวินอึ้งไป

กฎระเบียบต้นกำเนิดห้าชนิดของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์หลอมผู้ฝึกปราณเช่นกัน เพียงแต่แบ่งออกเป็นด้านต่างๆ กันออกไป บ้างหลอมเลือดลม บ้างหลอมร่างกาย จิตวิญญาณ พลังปราณ สมบัติ

และพลังกฎระเบียบสองชนิดของประตูเนรเทศก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

แตกต่างกันตรงที่กฎระเบียบลบล้างหลอมอีกฝ่ายให้มลายสิ้น ส่วนกฎระเบียบสมบัติก็แค่กักสมบัติไว้เท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร แดนเนรเทศกับแดนฝังมรรคก็เหมือนกันมากจริงๆ!

“หรือศิษย์พี่ดูออกอะไรบางอย่างออกแล้ว” หลินสวินถามอย่างอดไม่ได้

หลิงเสวียนจื่อเอ่ยเสียงขรึม “ข้าเห็นว่าสถานที่อย่างแดนฝังมรรคมีอยู่ได้แค่ในจตุโบราณสถานเท่านั้น ศิษย์น้องเจ้าคิดว่าแดนเนรเทศนั่นจะอยู่สักที่ในโบราณสถานอีกสามแห่งหรือไม่”

หลินสวินใจสะท้าน จมสู่ภวังค์ความคิด

ถ้าย้อนไปถึงต้นกำเนิด พรสวรรค์หุบเหวกลืนกินมาจากโลงนิรันดร์ และเฉินหลินคงก็เคยพูดไว้ว่าโลงนิรันดร์ควรเรียกว่าเรือนิรันดร์ ไอรีนโนเวล

พลังมหามรรคที่จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ครอบครองก็มาจากเรือนิรันดร์เช่นกัน

ส่วนเรือนิรันดร์มาจากไหนกันแน่ เกรงว่าจะมีแต่จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์เท่านั้นถึงล่วงรู้

แต่ที่มั่นใจได้ก็คือ มีแผนที่ดวงดาวลึกลับชิ้นหนึ่งซ่อนอยู่ในเรือนิรันดร์ สามารถไปยังประตูนิรันดร์ได้

นานมาแล้วลั่วทงเทียนก็เคยไปประตูนิรันดร์ด้วยแผนที่ดวงดาวนี้ แต่กลับถูกขัดขวางจน ถูกกำลังพลสิบยักษ์ใหญ่อมตะที่ดักซุ่มอยู่ใกล้ๆ ล้อมจู่โจม…

แน่นอนว่าร่องรอยเหล่านี้ต่างดูเหมือนไม่สำคัญ แต่หลินสวินกลับสัมผัสได้อย่างฉับไวว่าหากคิดจะเปิดเผยความลับของแดนเนรเทศอย่างแท้จริง เกรงว่ายังต้องเริ่มจากสมบัติอย่างเรือนิรันดร์

ถึงอย่างไรประตูเนรเทศก็เป็นอภินิหารพรสวรรค์ขั้นที่สี่ของหุบเหวกลืนกิน และพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินก็มาจากเรือนิรันดร์!

ตอนนี้สมบัติอย่างเรือนิรันดร์นี้ก็อยู่กับซย่าจื้อ

“ศิษย์พี่ ท่านเคยได้ยินชื่อเรือนิรันดร์ไหม” หลินสวินถาม

หลิงเสวียนจื่อส่ายหัว “ไม่เคย”

หลินสวินเอ่ย “ช่างเถอะ ยังไม่ต้องคิดเรื่องนี้ รอภายหน้าไม่ช้าก็เร็วย่อมสามารถสืบให้รู้ได้”

หลิงเสวียนจื่อยิ้มน้อยๆ พูดว่า “ศิษย์น้อง เจ้าอยากอยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่า พวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องแจ้งมรรคนิรันดร์ด้วยกันที่นี่ไหม”

หลินสวินเอ่ยใคร่ครวญ “รอหลังจากข้าหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์พวกนั้นค่อยว่ากันเถอะ”

เขากลับมาคราวนี้ เป้าหมายก็เพื่อรับญาติมิตรเหล่านั้นกลับโลกยอดนิรันดร์ด้วยกัน จะอ้อยอิ่งนานเกินไปไม่ได้ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เป็นหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิด แบกรับภาระยิ่งใหญ่ไว้อยู่

หลิงเสวียนจื่อกล่าว “การเปลี่ยนแปลงในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ต้องดำเนินต่อไปแน่ ภายหน้าทางเดินโบราณฟ้าดารามีแต่จะยิ่งแกร่งกล้า ข้ากลับรู้สึกว่าในอนาคตเจ้าสามารถเลือกมาพำนักที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้”

หลินสวินยิ้มเอ่ย “เรื่องในอนาคตไว้ค่อยว่ากันที่หลังเถอะ”

หลิงเสวียนจื่อเห็นดังนี้ก็ไม่พูดอะไรอีก

……

ในช่วงเวลาต่อมา หลินสวินกับหลิงเสวียนจื่อต่างจดจ่อนั่งสมาธิฝึกปราณ

หลิงเสวียนจื่อทำเพื่อแจ้งมรรคนิรันดร์

ส่วนหลินสวินทำเพื่อหลอมกฎเกณฑ์อมตะจนถึงขีดสูงสุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ตอนนี้ในมือเขามีกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่หลอมมาจากศพคลั่งนิรันดร์ เทียบได้กับระเบียบระดับเทพที่ไม่สมบูรณ์สิบสาย

หลินสวินอยากเห็นนักว่ากฎเกณฑ์อมตะของตนยังต้องหลอมไปอีกเท่าไรจึงจะพัฒนาถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุดได้

กาลเวลาเคลื่อนคล้อย

หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลินสวินหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ไปแล้วสี่สาย และในตอนที่เขาคิดจะหลอมสายที่ห้าก็สัมผัสได้ขึ้นมาฉับพลัน…

นี่ถึงขีดจำกัดที่กฎเกณฑ์อมตะของตนจะพัฒนาได้แล้ว!

พูดอีกอย่างก็คือ หลังจากหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ไปแล้วสี่สาย ในที่สุดกฎเกณฑ์อมตะของหลินสวินก็มาถึงขั้นสูงสุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!

‘ในที่สุดก็สมบูรณ์แล้ว…’

หลินสวินยังทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้

หลายปีมานี้กฎเกณฑ์อมตะของเขาหลอมพลังระเบียบไปไม่รู้เท่าไร พลังระเบียบสูงกว่าระดับปฐพี ต่ำกว่าระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่ถูกหลอมเหล่านั้นมากมายจนไม่อาจประเมินได้แล้ว

แค่ระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าก็ยังหลอมไปหลายสิบสายแล้ว!

และที่เหมือนกับระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากก็มีห้าสาย

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังไม่พัฒนาถึงขีดสุด

กระทั่งเข้ามาในแดนฝังมรรคแห่งนี้ หลังจากหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่เทียบได้กับระเบียบระดับเทพห้าสายถึงได้พัฒนาถึงขีดสูงสุดได้ในที่สุด

นี่จะไม่ทำให้หลินสวินทอดถอนใจได้อย่างไร

ตอนนี้เขาถึงขั้นกล้ามั่นใจ ว่ากฎเกณฑ์อมตะของตนเหนือกว่าระเบียบระดับเทพในความหมายทั่วไปแล้ว!

‘ยังเหลือกฎเกณฑ์นิรันดร์หกสาย ต้องเก็บไว้ดีๆ สมบัติเช่นนี้ต่อให้เป็นระดับนิรันดร์ยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่เฝ้าฝันถึง’

หลินสวินลอบเอ่ยในใจ

เขาลุกขึ้นจากการนั่งสมาธิ มองดูหลิงเสวียนจื่อที่นั่งสมาธิอยู่ไม่ไกล ไม่ได้ไปรบกวน เดินตรงออกไปจากถ้ำสถิต

ผ่านไปสักพัก

เงาร่างของหลินสวินก็ปรากฏตัวบนภูเขาอิ๋งโจว

เขายืนอยู่ตรงนั้น โคจรกฎเกณฑ์อมตะของตนพลางสงบใจสัมผัส

ฮูม…

กฎเกณฑ์อมตะพลุ่งพล่านเหมือนหุบเหวดั่งนรก แสงเงาลึกลับคลุมเครือหลั่งไหล

หลินสวินประสานมือยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าก็ขออวยพรล่วงหน้าให้ศิษย์พี่แจ้งมรรคสำเร็จ!”

หลิงเสวียนจื่อหัวเราะลั่นเอ่ยว่า “ก่อนไปอยากดื่มเหล้าด้วยกันสักหนไหม”

“แน่นอน”

หลินสวินตอบรับอย่างยินดี นำสุราโบราณเทพบ่มที่เก็บไว้หลายปีไหหนึ่งออกมา

ในถ้ำสถิต ศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนดื่มด้วยกัน พูดคุยสรวลเสเฮฮา

แล้วหลินสวินก็ออกจากแดนฝังมรรคในวันนั้น

เขานัดกับหลิงเสวียนจื่อแล้วว่าจะพยายามไปรวมตัวกันที่แหล่งสถานคุนหลุนก่อนเคราะห์แห่งยุคสมัยมาเยือน

การเคลื่อนไหวเพื่อสืบหาสาเหตุการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์คราวนี้ใช้เวลาสี่เดือนกว่า ทำให้หลินสวินไม่เพียงแต่ได้พบกับศิษย์พี่สี่โดยไม่คาดคิด ยังได้รับวาสนากับสมบัติที่ไม่คาดฝันมากมายอีกด้วย

สิ่งที่สำคัญเป็นพิเศษก็คือ ในที่สุดกฎเกณฑ์อมตะของเขาก็พัฒนาถึงขีดสุดแล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้มาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ หลินสวินก็คงไม่รู้สักนิดว่ากฎเกณฑ์อมตะของตนจะถึงกับมีข้อบกพร่องเช่นนี้อยู่

สรุปแล้วคราวนี้เรียกได้ว่าได้ผลเก็บเกี่ยวอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งวันผ่านไป

หลินสวินกลับสู่แดนลับดวงกมลอย่างราบรื่น

เขาคิดจะพาทุกคนจากไปแล้ว

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์คราวนี้จะทำให้ทั้งทางเดินโบราณฟ้าดาราแปรสภาพ แต่ในตอนนี้ก็ยังไม่อาจเทียบกับน่านฟ้าที่เจ็ดที่ลัทธิแรกกำเนิดตั้งอยู่ได้

ภายหน้าทางเดินโบราณฟ้าดาราอาจจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่หลินสวินรอนานขนาดนั้นไม่ได้

แดนลับดวงกมลไม่ต่างกับตอนที่หลินสวินจากไป ไม่เกิดคลื่นลมแต่อย่างใด

“ท่านพี่ ข้ากับน้องซย่าจื้อรับพวกท่านพ่อท่านแม่กลับมาแล้ว”

ทันทีที่หลินสวินมาถึงโถงใหญ่ของตระกูล จ้าวจิ่งเซวียนที่รู้ข่าวก็ออกมา ที่มาด้วยกันกับนางยังมีซย่าจื้อ กับสองสามีภรรยาจ้าวหยวนจี๋ อ๋าวซิงถัง

“คารวะท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย”

หลินสวินรีบเข้าไปทักทาย

จ้าวหยวนจี๋ยิ้มเอ่ย “ข้าได้ฟังจิ่งเซวียนเล่าเรื่องเจ้าตอนอยู่ในโลกยอดนิรันดร์แล้ว ทั้งยังได้รู้ว่าที่ตอนนี้ทางเดินโบราณฟ้าดาราสงบสุขเป็นเพราะฝีมือของเจ้า ดีมาก ดีมากจริงๆ”

“พูดเรื่องพวกนี้ทำไม พวกเราทั้งบ้านได้มารวมตัวกันอีกครั้งในรอบหลายปี ไม่ใช่ง่ายๆ เลยจริงๆ”

อ๋าวซิงถังยิ้ม “จริงสิ ฝานเอ๋อร์ล่ะ”

จ้าวจิ่งเซวียนก็มองไปทางหลินสวิน

หลินสวินรีบเอ่ย “ตอนนี้ฝานเอ๋อร์กำลังปิดด่าน อีกประมาณครึ่งปีก็ออกมาได้”

ต่อมาเขาจัดงานเลี้ยงด้วยตัวเอง ทั้งยังเชิญคนรุ่นอาวุโสอย่างพวกหลินจง เสวียนซั่งเฉิน หลินไหวหย่วนมาร่วมสังสรรค์ ชื่นมื่นทั้งแขกและเจ้าภาพ

เมื่องานเลี้ยงจบลง หลินสวินพูดถึงเรื่องต้องการกลับไปโลกยอดนิรันดร์ ทุกคนก็คาดเดาได้นานแล้วว่าวันนี้จะต้องมาถึง จึงไม่ได้ประหลาดใจนัก

วันนั้นทุกคนต่างเคลื่อนไหว ส่งข่าวไปหาขุมอำนาจอย่างสำนักยุทธ์ก่อเกิด ตระกูลหลิน ตระกูลเสวียน ตระกูลจินเทียนเป็นต้น

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์