ตอนที่ 2997 ยามเคราะห์มาเยือน ดื่มกลางฟ้าดินลำพัง
ปิดด่านสิบปีนี้ หลินสวินไม่เคยออกไปสักก้าว ส่วนซย่าจื้อก็อยู่ข้างกายเขาตลอด
“หลังจากนี้สามเดือนข้าจะแจ้งมรรคนิรันดร์แล้ว”
หลินสวินวางตะเกียบในมือลง มองซย่าจื้อที่อยู่ตรงหน้าพลางกล่าว “ถึงตอนนั้นเจ้าอยู่ในแดนแรกเริ่มกับพวกจิ่งเซวียนนะ”
“ทำไมไม่ให้ข้าคุ้มครองเจ้า” ซย่าจื้อสงสัย
หลินสวินยิ้มกล่าว “ข้าข้ามด่านเคราะห์ไม่เคยต้องให้คนอื่นคุ้มครอง เจ้าทำตามที่ข้าเตรียมไว้ก็พอ”
ซย่าจื้อไม่ได้ฝืนอีก กินข้าวต่อไป
หลินสวินกลับหยิบสุรากาหนึ่งขึ้นมาดื่ม
ปิดด่านสิบปี เขาทำแค่เรื่องเดียว…
ขัดเกลาจิตใจ
ประสบการณ์และการต่อสู้ที่ผ่านมาทั้งหมดล้วนถูกเขาจัดเรียงสะสางทั้งหมด
เขาไม่ได้ตั้งใจข่มคลื่นความรู้สึกภายในใจ แค่หยั่งรู้เรื่องทั้งหมดจากเล็กถึงใหญ่ ตั้งแต่ก้าวสู่หนทางแห่งการฝึกปราณถึงปัจจุบันเช่นนั้น
สิบปีแล้ว ไม่ได้หยั่งรู้และเก็บเกี่ยวอะไรเท่าไร
แต่หลินสวินรู้ว่าสภาวะจิตของตนไม่มีช่องโหว่อีก
หลินสวินนึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ลับจิตดั่งคม หล่อจิตดุจหยก
‘ผู้อาวุโสที่มีความสามารถบนมรรคกระบี่สูงสุดคนนั้น ใช้เพียงแปดคำก็เปิดเผยความเร้นลับแห่งสภาวะจิตทั้งหมด…’
เขาอดทอดถอนใจไม่ได้
เวลานี้เขาเพิ่งรู้ซึ้งว่าอะไรเรียกว่าจิตมรรคดุจคมดาบ อะไรเรียกว่าจิตมรรคดุจหยก!
นี่คือสภาวะจิตที่กว้างใหญ่และสมบูรณ์ถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง ยามเผยตัวดั่งคมกระบี่ตัดผ่านอากาศ ยามเก็บงำดุจหยกงามนุ่มนวล
“หลินสวิน ทำไมเจ้าต้องรออีกสามเดือนถึงแจ้งมรรคนิรันดร์” ซย่าจื้อพลันเอ่ยถาม
หลินสวินยิ้มพลางกล่าว “เพราะยังมีเรื่องหนึ่งต้องทำ”
“เรื่องใดหรือ”
นัยน์ตาดำหลินสวินล้ำลึก เอ่ยปากเนิบช้า “ชักนำจุดเปลี่ยนแจ้งมรรคของข้าออกมา”
“เจ้าคิดจะทำอย่างไร” ซย่าจื้อสงสัย
หลินสวินคิดไปคิดมาแล้วกล่าว “ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ตกปลาในความลับสวรรค์”
เขาพูดพลางชี้นิ้วไปบนฟ้า “คนอื่นรอจุดเปลี่ยน แต่ข้าจะคว้าจุดเปลี่ยน จุดเปลี่ยนนี้อยู่บนสวรรค์”
ซย่าจื้ออึ้งงัน ส่ายหัวกล่าว “ไม่เข้าใจ”
หลินสวินหัวเราะพลางกล่าว “ไม่เข้าใจก็ไม่สำคัญ”
…
เวลาล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า
เมื่อเวลาสามเดือนใกล้มาถึง หลินสวินกับซย่าจื้อเดินออกมาจากถ้ำสถิต
“คนไปไหนหมด”
หลินสวินอึ้งไป ในจิตรับรู้ของเขาพบว่าทั่วเขาแรกพิสุทธิ์ล้วนว่างเปล่า นอกจากเขากับซย่าจื้อแล้วไม่มีแม้แต่เงาร่างใครสักคน
“ไป ไปดูเขาแรกนภากัน”
หลินสวินเคลื่อนผ่านอากาศไปยังจุดที่ห่างไกลทันที
ไม่นานก็เจอเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกเสวียนเฟยหลิง ฟางเต้าผิงที่เขาแรกนภา
“ในที่สุดเจ้าหนูอย่างเจ้าก็ออกมาแล้ว”
แวบแรกที่พวกเสวียนเฟยหลิงเห็นหลินสวิน ทุกคนต่างพากันกรูเข้ามาถาม “เตรียมตัวเป็นอย่างไร มีความมั่นใจในการแจ้งมรรคนิรันดร์ครั้งนี้แค่ไหน”
หลินสวินยิ้มกล่าว “รอเมื่อข้ามด่านเคราะห์ก็รู้ขอรับ จริงสิ คนอื่นในสำนักพวกเราเล่า”
เสวียนเฟยหลิงกล่าว “ย้ายไปอยู่ในแดนลับแรกฟ้าตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อน ตอนนี้ทั้งลัทธิแรกกำเนิดเหลือแค่พวกเราแล้ว”
หลินสวินอึ้งงัน ตระหนักได้ว่าตนทำพลาดไปเรื่องหนึ่งทันที กล่าวอย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ผู้อาวุโสทุกท่าน ครั้งนี้ข้าไม่คิดแจ้งมรรคในแดนแรกเริ่ม”
พวกเสวียนเฟยหลิงต่างตกตะลึง ไม่ทันตั้งตัวอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าหลินสวินจะแจ้งมรรคนิรันดร์ในแดนแรกเริ่ม ห่วงว่าพลังระเบียบระดับเทพจะถูกกำราบจึงดำเนินการล่วงหน้า พาคนทั้งสำนักไปอยู่ในแดนลับแรกฟ้า
ในแดนลับแรกฟ้ามีพลังต้นกำเนิดของระเบียบระดับเทพอยู่ ต่อให้ถูกศัตรูบุกมาถึงหน้าประตู คิดจะทำลายต้นกำเนิดระเบียบระดับเทพย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินกลับไม่คิดจะแจ้งมรรคในแดนแรกเริ่ม!
“เจ้าจะไปแจ้งมรรคนิรันดร์ที่ไหน” ฟางเต้าผิงอดถามไม่ได้
“ข้าว่าทะเลหมื่นดาราก็ดี”
หลินสวินพูดง่ายๆ “ถึงตอนนั้นแค่ย้ายพลังระเบียบของทะเลหมื่นดารากลับมาแดนแรกเริ่มก็พอแล้ว”
นี่ก็คือแผนการของเขา ปีนั้นยามโหยวเป่ยไห่แจ้งมรรคนิรันดร์ เมื่อมหาเคราะห์นิรันดร์นั้นมาเยือน ทำให้ระเบียบระดับเทพของแดนแรกเริ่มถูกกำราบ ไม่อาจสำแดงอานุภาพ
หลินสวินไม่อยากทำให้ทุกคนทั่วลัทธิแรกกำเนิดเสียการคุ้มครองเพราะการข้ามด่านเคราะห์ของตน
“ไม่ได้!”
เสวียนเฟยหลิงไม่รับปากเป็นคนแรก “แจ้งมรรคนิรันดร์เป็นเรื่องใหญ่ระดับใด หากมีศัตรูภายนอกมารุกรานที่ทะเลหมื่นดาราย่อมรบกวนการข้ามด่านเคราะห์ของเจ้าทันทีแน่ เมื่อสภาวะจิตเกิดข้อผิดพลาด แค่คิดก็รู้แล้วว่าผลลัพธ์จะร้ายแรงแค่ไหน”
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นพากันกล่าวห้ามปรามเช่นกัน
แต่หลินสวินกลับส่ายหัวเล็กน้อย ท่าทางแน่วแน่ “บนโลกนี้สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตของข้า มีเพียงความปลอดภัยของพวกท่านและทุกคนในลัทธิแรกกำเนิด ขอแค่พวกท่านปลอดภัย ข้าก็ไม่มีความกังวล”
พวกเสวียนเฟยหลิงพลันสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด
“เจ้ารู้ไหมว่าหลังจากเคราะห์นิรันดร์มาเยือน ย่อมถูกลัทธิพ่อมด ลัทธิฌาน กระทั่งเผ่าเทพนิรันดร์แห่งน่านฟ้าที่เก้าสังเกตเห็นทันที หากพวกเขาส่งระดับนิรันดร์มาขวางโดยไม่คำนึงถึงค่าตอบแทนใด นั่นต้องเป็นมหันตภัยแน่!” ฟางเต้าผิงกล่าวสีหน้าจริงจัง
“เพราะเป็นเช่นนี้ ขอเพียงพวกท่านซ่อนตัวอยู่ในแดนแรกเริ่มและมีการคุ้มครองจากระเบียบระดับเทพ ก็จะไม่ถูกมหันตภัยเช่นนี้คุกคาม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์