Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3050

ตอนที่ 3050 ทั่วหล้าเดือดพล่าน

ทำอย่างไรดี

นี่เป็นปัญหาที่ยากรับมืออย่างไม่ต้องสงสัย

เกาหยางไหวและเจียงเถาสบตากัน ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

มีตระกูลจี้ที่พินาศไปเป็นตัวอย่าง จะให้พวกเขากล้าดูถูกหลินสวินได้อย่างไร

ถึงขั้นที่ในใจพวกเขามีความคิดจะถอยหนีแล้ว!

ล่วงเกินใครไม่ล่วงเกิน กลับจะล่วงเกินจอมโฉดที่มีพลังกวาดล้างตระกูล

แต่ตัวอักษรบนป้ายหินกลับทำให้ขั้นสรรสร้างทั้งสองตระหนักได้ว่า ต่อให้พวกเขาเลือกถอยหนี หนึ่งเดือนให้หลังก็ต้องพบกับการ ‘เยี่ยมเยียนถึงที่’ ของหลินสวิน!

หากถึงตอนนั้นผลลัพธ์คงร้ายแรงมาก!

“การเคลื่อนไหวของพวกเราในครั้งนี้เป็นเจตจำนงของราชันไร้เทียมทานที่อยู่เบื้องหลังเคราะห์แห่งยุคสมัยผู้นั้น จะล้มเลิกกลางคันเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”

ครู่ใหญ่เกาหยางไหวก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ในดสงตาเผยการตัดสิ่นใจ “ยิ่งกว่านั้นหลินสวินได้ประกาศศึกแล้ว หากพวกเราถอยจะไม่ใช่กลายเป็นตัวตลกของคนทั่วหล้าหรือ”

คำพูดแม้ดูดี แต่ใครก็รู้ว่าการตัดสินใจของเกาหยางไหวเป็นเพราะถูกบีบบังคับ…

แน่นอนว่าไม่มีใครเปิดโปงจุดนี้

เพราะพวกเขาล้วนรู้ว่าถอยไม่ได้จริงๆ!

“ไม่ผิด จะปล่อยไปเช่นนี้ไม่ได้ แม้บอกว่าพลังของหลินสวินแข็งแกร่งถึงขั้นสามารถทำลายล้างตระกูลจี้ได้ แต่อย่าลืมว่าแหล่งสถานศุภโชคมีอารยธรรมแห่งยุคสมัยนับร้อย แค่อารยธรรมแห่งยุคสมัยที่มีระดับนิรันดร์ดูแลก็มีมากถึงสามสิบสามแห่งแล้ว หากทุกคนร่วมมือกัน การกำจัดหลินสวินก็ใช่ไม่มีความหวัง!”

เจียงเถาเองก็เอ่ยเสียงขรึม

ทุกคนล้วนอึ้งไปก่อน จากนั้นดวงตาล้วนเป็นประกายขึ้นมา

ขิงแก่ย่อมแก่กว่า ลำพังพลังของตระกูลเกาหยางและตระกูลเจียง การไปจัดการหลินสวินอาจต้องบาดเจ็บล้มตายสาหัส แต่หากร่วมมือกับขุมอำนาจอื่นๆ แล้วเคลื่อนไหวพร้อมกัน พลังที่รวบรวมมาไม่เพียงจะน่ากลัวอย่างที่สุด สภาพที่เสียหายบาดเจ็บล้มตายก็จะลดลงได้มาก!

อีกทั้งด้วยฐานะและอิทธิพลของพวกเขาตระกูลเกาหยางและตระกูลเจียง การรวมตัวระดับนิรันดร์ในเผ่าเทพแต่ละตระกูลทั่วหล้าก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก

“คำพูดนี้ของพี่เจียงตรงใจข้า”

เกาหยางไหวจิตใจฮึกเหิม กล่าวว่า “ทุกท่านอย่าลืมว่าที่นี่คือแหล่งสถานศุภโชค ปกคลุมด้วยพลังกฎระเบียบของราชันไร้เทียมทานที่อยู่เบื้องหลังเคราะห์แห่งยุคสมัย และพวกเราก็เคลื่อนไหวตามคำสั่งของราชันไร้เทียมทานผู้นั้น ข้าไม่เชื่อว่าราชันไร้เทียมทานจะทนมองหลินสวินกำเริบเสิบสานต่อไปได้!”

คำพูดกึกก้องทรงพลัง

ดวงตาเจียงเถาวาบไหว อดมองเกาหยางไหวอีกครั้งไม่ได้ กล่าวว่า “คำพูดของสหายยุทธ์ปลุกคนตื่นจากฝัน จากที่ข้าดู เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ พวกเราจะต้องเคลื่อนไหวทันที”

ในคำพูดก็แฝงความฮึกเหิมเสี้ยวหนึ่ง

“ดี!”

เกาหยางไหวพยักหน้า

ทันใดนั้นทั้งสองต่างนำคนของตนกลับตระกูล ทั้งเริ่มเคลื่อนไหวในทันที

เพียงสามวันหลังจากนั้น

แต่ละโลกยุคสมัยในแหล่งสถานศุภโชคล้วนฮือฮา

ตระกูลเกาหยางกับตระกูลเจียงร่วมมือกัน ออกคำสั่งไปทั่วหล้า ระดมคนไปสังหารหลินสวินที่แหล่งสถานศุภโชคในอีกสิบวัน!

ทันทีที่ข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ทั่วหล้าล้วนตกใจ

“เผ่าเทพตระกูลเยี่ยน ตระกูลเหลียงชิว ตระกูลอิ๋งต่างประกาศออกมาว่าจะสนับสนุนทั้งสองตระกูลเต็มกำลัง!”

“เผ่าเทพตระกูลผูเองก็ประกาศมาเช่นกันว่าจะมาถึงนอกเมืองเทพศุภโชคในอีกสิบวัน!”

“เผ่าเทพตระกูลฉู่…”

ชั่วขณะหนึ่งเผ่าเทพแต่ละตระกูลทั่วหล้าต่างเผยจุดยืน ต่างบอกว่าจะส่งระดับนิรันดร์ของตระกูลตนเคลื่อนไหวพร้อมกับตระกูลเกาหยางและตระกูลลเจียง ทำให้ทุกโลกอารยธรรมแห่งยุคสมัยเกิดความโกลาหล

“หลินสวิน! ใครจะนึกว่าหลังเขากลับมาหลังจากผ่านไปหลายปี จะนำพาความโกลาหลยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาด้วย”

“ว่ากันว่าเขากวาดล้างเผ่าเทพตระกูลจี้ภายในคืนเดียว และประกาศศึกกับตระกูลเกาหยางกับตระกูลเจียง ก็เพราะเรื่องนี้ถึงทำให้เผ่าเทพทั่วหล้ากราดเกรี้ยว ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของทุกฝ่าย”

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลินสวินนี่เป็นคนร้ายกาจคนหนึ่ง แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ จะไม่ให้เผ่าเทพเหล่านั้นหวาดหวั่นได้อย่างไร”

“ทั่วหล้า… จะวุ่นวายแล้ว!”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งแหล่งสถานศุภโชคมีร้อยกว่าอารยธรรมแห่งยุคสมัย แต่ในเวลาสามวันสั้นๆ ล้วนตื่นตระหนกเพราะเรื่องนี้

และชื่อของหลินสวินก็ดังไปทั่วในสามวันนี้ เป็นที่รู้จักของผู้ฝึกปราณในแต่ละอารยธรรมแห่งยุคสมัยเป็นอย่างดี

“หลินสวินมีอานุภาพที่สามารถทำลายเผ่าเทพตระกูลจี้ได้ พลังต่อสู้ของเขาสามารถสังหารขั้นสรรสร้างได้แล้ว และเป็นที่รู้กันว่าเขาครอบครองนัยเร้นลับของเมืองเทพศุภโชคมาตั้งแต่หลายปีก่อน กลายเป็นเจ้าเมืองเมืองเทพศุภโชค ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้เผ่าเทพหลายตระกูลร่วมมือกันเล่นงานเขา เกรงว่าก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อย”

“คุยเรื่องพวกนี้ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ อีกสิบวันก็จะได้รู้ผลแล้ว!”

……

ย้อนกลับไปเมื่อสามวันก่อน

หลินสวินพาหลินฝานและซูไป๋ทะยานผ่านฟ้าดารา ครึ่งวันให้หลังก็มาถึงเมืองเทพศุภโชค

“เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่นัก!”

ยามเห็นเมืองเทพศุภโชคที่ตั้งตระหง่านอยู่ในฟ้าดาราจากไกลๆ หลินฝานอดส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจไม่ได้

ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของเมืองนี้หายากอย่างแน่นอน แม้แต่ดวงดาวเมื่ออยู่ต่อหน้าเมืองนี้ยังดูเล็กจ้อยเป็นพิเศษ

แววตาของซูไป๋เผยความประหลาดใจเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์