ศัตรูบุกมาแล้ว!
เขาหรี่ตาลง นับแต่เริ่มนั่งสมาธิจนถึงตอนนี้ เพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งยามเท่านั้น แต่ศัตรูกลับมาถึงใต้แม่น้ำแล้ว ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการลงมือในตอนที่เด็กหนุ่มบาดเจ็บ
มือขวาของเขากำดาบเวทเรืองแสงไว้จนแน่น ส่วนมือซ้ายจับหน้าไม้ด้ามหนึ่งเดินออกมาที่ปากถ้ำเงียบๆ พลางแผ่กระจายมวลพลังจากจิตออกไป
พลันเขารับรู้ถึงผู้ฝึกปราณหลายสิบคนมุ่งหน้ามาทางนี้พร้อมกับกระแสน้ำที่ไหลเอ่อ ยิ่งศัตรูใกล้เข้ามาเท่าไร สายตาของหลินสวินก็ยิ่งเย็นชามากเท่านั้น แม้เขาจะบาดเจ็บหนัก แต่ด้วยพลังจากมุกนักบุญอมตะ ทำให้การอยู่ใต้น้ำที่มีแรงดันสูงเพียงพอให้เขาไม่ต้องกลัวศัตรูหน้าไหน
แรงดันน้ำมีมวลความหนาแน่นสูงมาก หากคนธรรมดาลงมา เกรงจะต้องเลือดทะลักเจ็ดรูทวารจนเสียชีวิตไปนานแล้ว หรือแม้แต่ผู้ฝึกปราณระดับจิตผสานวิญญาณก็ไม่สามารถดำน้ำเป็นเวลานานๆ ได้ เพราะเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายจะมีแรงต้านสกัดเอาไว้ หากต่อสู้จะใช้พลังได้เพียงครึ่งเดียว
มีเพียงผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณเท่านั้น ที่สามารถเดินเหินใต้น้ำได้ตามอำเภอใจ พวกเขาใช้พลังจากภายในสื่อสารกับพลังฟ้าดิน ทำให้สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ ทั้งในอากาศและในน้ำ
เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกปราณที่ดำน้ำลงมาในเวลานี้กำลังเผชิญหน้ากับแรงต้านขนาดใหญ่ ยามเคลื่อนไหวจึงยืดยาดคล้ายมีของถ่วง
ฟิ้ว
คลื่นน้ำสะเทือนเมื่อผู้ฝึกปราณคนหนึ่งก้าวเดินเข้ามาทางถ้ำ ขณะที่เขาเพิ่งประชิดเข้ามา ยังไม่ทันได้สำรวจลักษณะภายในถ้ำก็เกิดอาการตาพร่า ใบมีดหนึ่งตัดลำคอเขาอย่างง่ายดายเสียแล้ว
เขาตกใจ ให้ตายก็ไม่กล้าเชื่อว่ามีดใบนั้นจะเร็วปานนี้ คล้ายไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากแรงต้านของน้ำเลย
เลือดสดสีแดงทะลักออกมาย้อมแม่น้ำกลายเป็นสีแดงฉาน
ฟิ้ว
ผู้ฝึกปราณสิบกว่าคนที่อยู่ไกลออกไปนั้นสังเกตได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบกรูกันเข้ามา แรงต้านของน้ำทำให้พวกเขาเหมือนสัตว์ประหลาดกำลังเต้นระบำก็ไม่ปาน
ฉึบ ฉึบ ฉึบ
หลินสวินเคลื่อนไหวว่องไวเข้าไปหาผู้ฝึกปราณคนหนึ่ง ก่อนจะม้วนอาวุธออกมาแทงเข้าที่ท้องของอีกฝ่าย
ฉึก
ในขณะเดียวกันมือซ้ายก็ยิงหน้าไม้จนเกิดรอยริ้วน้ำ ทะลุกะโหลกผู้ฝึกปราณที่ห่างออกไปสิบจั้ง ผู้ฝึกปราณคนนั้นแม้ถือหน้าไม้อยู่ในมือก็ไม่มีโอกาสได้ใช้มัน
ตูม
ผู้ฝึกปราณต่างพากันถืออาวุธวิญญาณพุ่งเข้ามา ทำให้น้ำบริเวณนั้นกระเพื่อม ฝูงปลาแตกฮือ ตะไคร่น้ำปลิวไหว คลุ้งจนมองเหตุการณ์ได้ไม่ชัดเจน
ใต้น้ำที่เต็มไปด้วยแรงดันมหาศาลนี้ เป้าหมายกลับเดินเหินได้อย่างว่องไวราวกับไม่ได้รับผลกระทบใด ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณแม้จะใช้หน้าได้สกัดยิง แต่ก็ไม่เฉียดกายของเป้าหมายแม้แต่น้อย
เด็กคนนี้เป็นสัตว์น้ำหรืออย่างไร ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นตระหนกขนลุกชัน
ฟึบ ฟึบ ฟึบ
ท่ามกลางความวุ่นวาย ผู้ฝึกปราณค่อยๆ ล้มลงไป ไม่ถูกมีดสังหารก็ถูกหน้าไม้ยิงทะลุร่าง สีแดงของเลือดลอยขึ้นเหนือผืนน้ำอยู่หลายดวง ทำให้แม่น้ำที่เดิมทีขุ่นมัวเป็นสีชาด
ผู้ฝึกตนที่อยู่ใต้น้ำไม่สามารถพูดได้ ยิ่งไม่สามารถส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้เลย ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ เหตุนองเลือดนี้มีเพียงกลิ่นอายที่บ่งบอกถึงความน่ากลัวเท่านั้น
ตายเสียเถิด!
หลินสวินที่บาดเจ็บหนักใช้พลังได้แค่สองส่วนจากทั้งหมด แต่เมื่ออยู่ใต้น้ำ ณ ขณะนี้ เขาคล้ายเป็นยมทูตที่คร่าชีวิตคนครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้ฝึกปราณบางคนหวาดกลัวจนต้องหนีขึ้นไปบนผิวน้ำ แต่สุดท้ายก็ถูกหลินสวินตามไปสังหารอย่างรวดเร็ว การสังหารใต้น้ำครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ไร้ตัวช่วย ตกตาย น่ากลัว และนองไปด้วยเลือด
…
ที่ริมแม่น้ำ
“หัวหน้าขอรับ จัดกองกำลังที่เหลือ 1,922 คนไปเฝ้าตามทุกแยกเวิ้งน้ำตามที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้ว”
“และทุกสิบลี้ก็มีเรือรบวีรชนม่วงเฝ้าอยู่บนอากาศ เหยี่ยวสอดแนวก็เรียกมาใช้หมดแล้ว ต่อให้ตัวประหลาดโผล่มาเราก็จะเห็นได้ในทันทีขอรับ” เสี่ยวมู่รายงาน
ชายสวมงอบพยักหน้า เขาวางใจลงไม่น้อย พลางมองไปที่ผืนน้ำ ผู้ฝึกปราณห้าสิบคนที่ส่งลงไปล้วนมีพรสวรรค์ทางน้ำ ขณะนี้เวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชาแล้ว หากไม่เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไม่นานก็คงได้ข่าวคราวอะไรบ้าง
บุ๋ง
ทันใดนั้น ผืนน้ำเชี่ยวกรากพลันมีศพลอยขึ้นมา ชายสวมงอบกับเสี่ยวมู่เพ่งมองด้วยใบหน้าถอดสี ศพนั้นถูกกระแสน้ำซัดพาไปโดยที่ไม่ทันได้เก็บขึ้นมาด้วยซ้ำ
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์