ตอนที่ 3154 ประตูสวรรค์อุบัติ
เส้นโลหิตสายหนึ่งกรีดผ่านกองทัพที่รวมตัวจากทูตชะตาสวรรค์สามร้อยกว่าคน ทั้งยังเอาชีวิตของยอดบุคคลขั้นไร้ขอบเขตไปเกือบสามสิบคน
ร่างกายและพลังจิตของพวกเขาถูกบดขยี้ แหลกสลายเป็นธุลี
การโจมตีนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว!
นอกเมืองหลวงเงียบสงัดไปหมด
เงาร่างหลินสวินดั่งปราณกระบี่ แข็งแกร่งเกินต้านทาน ทำลายสิ้นทุกสรรพสิ่ง เมื่อเงาร่างเขายืนนิ่ง กองทัพศัตรูก็ยุ่งเหยิงยิ่งยวดไปแล้ว
ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้าง ตัวสั่นไปหมด ไม่อาจตั้งสติกลับมาจากภาพการตายอันนองเลือดนั้นอยู่นาน
การโจมตีเดียวสะเทือนเหล่าศัตรู เจาะทะลวงเป็นเส้นทางโลหิตสายหนึ่ง!
คนที่ตายไปแต่ละคนล้วนเป็นถึงยอดบุคคลที่บรรลุขั้นไร้ขอบเขต มรรควิถีของทุกคนแข็งแกร่งยิ่งยวด!
แต่ภายใต้น้ำมือหลินสวิน กลับอ่อนแอเหมือนกระดาษเปื่อย
นี่จะให้ใครกล้าเชื่อ
ก่อนหน้านี้ทุกคนยังคิดว่าหลินสวินจะหนีจากเคราะห์สังหารคับฟ้าครั้งนี้ได้อย่างไร ผลลัพธ์กลับปรากฏภาพนี้
แค่คิดก็รู้ว่าจะสร้างความสะท้านสะเทือนยิ่งใหญ่ปานไหน!
ณ โรงน้ำชาในเมืองหลวง สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีต่างอึ้งงัน
พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่ามรรควิถีที่หลินสวินมีในตอนนี้แข็งแกร่งและน่ากลัวกว่าครั้งที่พวกเขาได้พบกันมาก
เผชิญหน้ากับคนระดับขั้นเดียวกันมากมาย ยังมีท่าทางเคลื่อนกวาดไร้ใดเทียบ!
ทั้งสองไม่รู้ว่าหลินสวินแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตขั้นกลางตั้งแต่อยู่ในทะเลโชคชะตา หมื่นมรรครวมเป็นหนึ่ง หมื่นวิชาคืนสู่หนึ่ง หมื่นสรรพสิ่งคืนสู่หนึ่ง มรรควิถีทั้งตัวเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าดินนานแล้ว
เขาในตอนนี้ดูเหมือนมีแต่หมัดเปล่า แต่บนร่างเขาหลอมพลังของห้ากายมรรคไว้ทั้งหมด ทั้งยังแปลงอานุภาพของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งทั้งหมดไว้ในร่าง
ดังนั้นอานุภาพของทุกการเคลื่อนไหวจึงไม่ใช่สิ่งที่คนระดับเดียวกันทั่วๆ ไปจะต้านทานได้
ใต้เวิ้งฟ้า
บรรยากาศอึดอัดจนทำให้คนหายใจออก ทูตชะตาสวรรค์เหล่านั้นต่างสีหน้าบิดเบี้ยว ในใจปั่นป่วน ถูกการโจมตีนี้ทำให้หวาดกลัวโดยสิ้นเชิงแล้ว
ตอนที่มุ่งหน้ามา พวกเขาก็รู้แล้วว่าหลินสวินเคยสังหารทูตชะตาสวรรค์สิบกว่าคนในเมืองหลวงอาณาจักรสมโภชแห่งนี้ สิ่งนี้สร้างความกดดันให้พวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
เดิมนึกว่าคราวนี้พวกเขารวมสามร้อยกว่าคนร่วมมือกันก็เพียงพอจะเทียบสูงต่ำกับหลินสวินได้
แต่ตอนนี้ดูท่า…
พวกเขายังประเมินความน่ากลัวของหลินสวินต่ำไปอยู่ดี!
คู่ต่อสู้เช่นนี้ไม่ใช่คนที่จะต้านทานได้ด้วย ‘กำลังคนมาก’ สักนิด!
ขณะเดียวกันดวงตาหลินสวินกลับมามองคู่ต่อสู้พวกนั้น เอ่ยว่า “ยังจะสู้ต่อไหม”
ประโยคเดียวทำเอาศัตรูเหล่านั้นสั่นสะท้านในใจอีกครั้ง ต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดจา
เห็นดังนี้หลินสวินจึงเอ่ยว่า “อีกสามลมหายใจ ถ้ายังมีคนเหลืออยู่ที่นี่ก็จะกลายเป็นศัตรูที่ข้าคนแซ่หลินต้องสังหาร”
ว้ม…
เสียงพูดเพิ่งเงียบลง คู่ต่อสู้พวกนั้นเหมือนฝูงสัตว์หนีกระเจิง แต่ละคนต่างหนีไปเร็วยิ่งกว่าอีกคน
ยังไม่ถึงสามลมหายใจ ที่นั่นก็ไม่เหลือคู่ต่อสู้อีกแม้แต่คนเดียวแล้ว
หลินสวินลอบเอ่ยในใจว่าเป็นแค่ฝูงกาฝูงหนึ่งดังคาด
การโจมตีเดียวทำลายปณิธานต่อสู้ก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้!
นอกเมืองหลวง
เมื่อได้เห็นภาพนี้เหล่าผู้ฝึกปราณต่างสะท้านโดยไร้เสียง
หนึ่งกระบี่เคลื่อนกวาด ทะลวงเส้นทางสายโลหิต ทำให้เหล่าศัตรูตกใจถอยหนี!
ท่วงท่าเช่นนี้ประหนึ่งราชันแห่งระดับนี้ ไม่มีใครเป็นศัตรูกับเขาได้!
“ทุกท่าน ความคึกคักไม่มีให้ดูแล้ว จากไปเสียเถอะ”
เสียงเรียบๆ นั้นของหลินสวินดังก้องนอกเมืองหลวง
ไม่นานนักผู้ฝึกปราณที่มาจากทั่วทิศเหล่านั้นต่างก็ทยอยจากไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนปั่นป่วน
ข่าวหลินสวินทำให้ศัตรูล่าถอยด้วยหนึ่งกระบี่ก็กระจายออกไปในวันนี้เช่นกัน สะเทือนโลกแปรปุถุชนภายในเวลาอันสั้นยิ่ง ก่อให้เกิดคลื่นลมใหญ่โตเกรียงไกร
ไม่ว่าใครต่างรู้ว่าตั้งแต่วันนี้ไป เกรงว่าทั่วทั้งโลกแปรปุถุชนจะไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับหลินสวินอีก ไปต่อสู้มหามรรคกลับเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง
……
เมืองหลวง ในโรงน้ำชา
ขณะที่มองหลินสวินที่กลับมาด้วยท่าทางผ่อนคลาย สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีต่างทอดถอนใจในใจ
เป็นผู้มีมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตเหมือนกัน แต่ด้วยศึกนี้กลับทำให้พวกเขารับรู้ได้อย่างลึกซึ้ง ว่าพวกเขาอยู่คนละโลกกับหลินสวินนานแล้ว
ห่างชั้นกันมากเกินไป!
สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีอยู่ในเมืองหลวงอีกหลายวันจึงจากไป
ที่นี่คือโลกแปรปุถุชน พวกเขาก็จำเป็นต้องวางแผนเพื่อการต่อสู้มหามรรคเช่นกัน
ด้านหลินสวินกับซย่าจื้อมาถึงตำหนักที่อยู่ในส่วนลึกของวังหลวงนั้นอีกครั้ง
“จำไว้ หลังจากไปถึงโลกภัยพิบัติแล้วจะต้องรอข้าอยู่ที่หน้าด่านเกิดใหม่นั่น”
หลินสวินกำชับอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
“หลินสวิน ข้าไม่ใช่เด็กมานานแล้วนะ”
ซย่าจื้อบ่นอย่างหาได้ยากนัก
หลินสวินร้องเอ้อคำหนึ่ง ยิ้มพลางพูดเย้าว่า “ข้าลืมไป มรรควิถีของเจ้าในตอนนี้ไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ในตอนนั้นนานแล้ว ได้ ภายหน้าข้าจะระวัง พยายามปรับปรุง”
ซย่าจื้อกลับส่ายหัว มือนุ่มเรียวบางขาวละมุนคว้ามือหลินสวินไว้ เสียงไพเราะเสนาะหู “ไม่ต้องปรับ ข้าชอบความรู้สึกนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์