ตอนที่ 3176 พานพบเพื่อนเก่า
หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่ง ส่ายหัวพลางกล่าว “ความเสียดาย นึกเสียใจ เกลียดชัง จนปัญญาในอดีต… แม้มีมากจนนับไม่ถ้วน แต่สำหรับข้าล้วนเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าอย่างมาก”
เขาคิดไปคิดมาค่อยกล่าวต่อ “สำหรับมหามรรคของข้า การเคี่ยวกรำผ่านความเป็นตายนับไม่ถ้วน ไม่ถึงขั้นมีข้อบกพร่องอะไรต้องชดเชย”
นี่ไม่ใช่การโอ้อวด
หากเมื่อก่อนมรรคาของเขาเคยเกิดข้อบกพร่อง ไหนเลยจะมีระดับความรู้ลึกซึ้งเช่นวันนี้
ซย่าจื้อเอ่ยเสียงเบา “เช่นนั้นเจ้าก็เหมือนข้า ไม่สนใจเรื่องนี้หรือ”
“ก็ไม่เชิง ข้าใคร่รู้เรื่องพลังต้นกำเนิดของโลกย้อนกำเนิดนี้นัก สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณกลับสู่อดีต ชดเชยข้อบกพร่องของชีวิต เจ้าไม่คิดว่าพลังเช่นนี้น่าอัศจรรย์หรือ”
หลินสวินยิ้มเอ่ยถาม
ซย่าจื้อขานรับว่าอืมพลางกล่าว “เช่นนั้นข้าจะไปดูด้วย”
ขณะพูดคุยกันเสียงทลายอากาศระลอกหนึ่งพลันดังขึ้นแต่ไกล
ก็เห็นว่าใต้เวิ้งฟ้ามีเงาร่างหลายสายเคลื่อนตัวมาด้วยความรวดเร็ว
“สหายยุทธ์…”
หลินสวินเพิ่งเอ่ยปากก็ถูกเสียงเย็นชาหนึ่งตัดบท “หลีกไป!”
นั่นคือผู้ฝึกปราณที่เป็นหัวหน้า สวมชุดดำ ผมสีโลหิตทั้งศีรษะ ทั่วร่างอบอวลพลังกฎระเบียบสีทองหนาราวนิ้วโป้ง อานุภาพชวนตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาเคลื่อนแหวกอากาศ เดินเหินว่องไวเหมือนหนีเอาตัวรอด หว่างคิ้วล้วนฉายแววจริงจัง
‘ดูท่าว่าคงถูกคนตามล่า…’
หลินสวินครุ่นคิด
ทันใดนั้นเสียงใสเย็นดุจน้ำแข็งดังขึ้นแต่ไกล “สหายน้อยหลิน โปรดช่วยข้าขวางพวกเขาไว้!”
หลินสวินนัยน์ตาหดรัด สะบัดแขนเสื้อพลางตวาดเสียงเบาทันที “โอม!”
ตูม!
ปราการสวรรค์ซึ่งวิวัฒน์จากกฎเกณฑ์มหามรรคปรากฏออกมา ชั่วพริบตาก็พาดขวางกลางฟ้าดิน ขวางอยู่ตรงหน้าพวกชายชุดดำผมสีโลหิตพอดี
“รนหาที่ตาย!”
ชายชุดดำผมสีโลหิตสีหน้าขรึมลง ฟันกระบี่ใส่ปราการสวรรค์นั้นอย่างเดือดดาล
ปราณกระบี่แดงก่ำนั้นเหมือนแสงป่วนโลก แผ่อานุภาพทำลายล้างปวงสวรรค์ น่ากลัวยิ่งยวด
ตูม!
แต่หลังจากปราณกระบี่ฟันลงไปกลับแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เมื่อมองปราการสวรรค์นั้นอีกครั้ง กลับไม่ถูกสั่นคลอนแม้แต่น้อยเหมือนทรงพลังเกินต้านทาน
“นี่…”
พวกชายชุดดำผมสีโลหิตล้วนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
เมื่อพวกเขาคิดลงมืออีก หลินสวินพุ่งผ่านอากาศมาแต่ไกลแล้วยิ้มกล่าว “ทุกท่าน โปรดหยุดก่อน”
เมื่อเขามาถึงอานุภาพกดดันไร้รูปม้วนกลืนทั้งที่นั้นดั่งพายุทันที ทำให้พวกชายชุดดำผมสีโลหิตหายใจติดขัด รู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรงที่ถาโถมเข้าใส่
สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ล้วนไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมืออีก
“เจ้าเป็นใคร ถึงกับกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของพวกเรา”
ชายชุดดำผมสีโลหิตหน้าคล้ำเขียว
กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวหลินสวินน่ากลัวเกินไปแล้ว เผชิญหน้ากับเขาก็เหมือนสบตาราชันผู้ยืนตระหง่านเหนือเก้าชั้นฟ้า ทำให้จิตมรรคของเขารู้สึกตระหนกอย่างบอกไม่ถูก
ด้วยเหตุนี้ต่อให้ในใจเขาร้อนรนเดือดดาลหาใดเปรียบ แต่กลับไม่กล้าลงมือโดยพลการเช่นกัน
เมื่อมองคนอื่นอีกห้าคนที่อยู่ข้างกายเขา แม้ว่าทั่วร่างแต่ละคนเปี่ยมไอสังหาร แต่หว่างคิ้วล้วนเจือแววร้อนรนอยู่รางๆ
“ข้าไม่มีความแค้นกับพวกเจ้า แต่กลับเป็นเพื่อนเก่าของผู้ตามล่าพวกเจ้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แน่นอนว่าต้องขวางพวกเจ้าไว้”
หลินสวินยิ้มกล่าว
“สหายน้อย ขอบคุณมาก”
พร้อมกันนี้ร่างงามแดงเพลิงพุ่งตัวมาแต่ไกล ใบหน้างามพริ้งเพราเหมือนเด็กสาว สง่างามผ่าเผย
เป็นซู่หวั่นจวินนั่นเอง!
พวกชายชุดดำผมสีโลหิตใจหล่นวูบทันที
“ผู้อาวุโส นี่มันเรื่องอะไรกัน” หลินสวินถาม
“รอข้าสังหารพวกต่ำทรามนี้ก่อนค่อยคุยกับเจ้า”
นัยน์ตากระจ่างของซู่หวั่นจวินเจือไอกร้าวแกร่ง ขณะกล่าวก็ลงมือแล้ว
ชิ้ง!
กระบี่มรรคสีเขียวอ่อนเล่มหนึ่งตัดผ่านอากาศ คมประกายช่วงโชติ กดอัดท้องนภา
“สู้มัน!”
พวกชายชุดดำผมสีโลหิตมีหรือจะนั่งรอความตาย ทั้งหมดล้วนลงมือเต็มกำลัง
ทว่าเพียงพริบตาพวกเขากลับตัวแข็งทื่อ รู้สึกแค่อานุภาพกดดันน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตหนึ่งบีบกดลงมาเหมือนภูเขาเทพหมื่นกาล ทำให้ร่างกายพวกเขาไม่อาจขยับเขยื้อน
แย่แล้ว!
พวกเขาขวัญหนีดีฝ่อ แต่ไม่ทันการแล้ว
เจตกระบี่ของซู่หวั่นจวินรวดเร็วดุดันเพียงใด พริบตานี้ก็ได้ยินเสียงทึบหนักระลอกหนึ่งดังฉัวะๆๆ ร่างกายของพวกชายชุดดำผมสีโลหิตหกคนล้วนถูกแสงกระบี่ฟันกระจุย เลือดสาดราวน้ำตก
ก่อนตายสายตาพวกเขามองไปตรงจุดที่หลินสวินอยู่โดยไม่รู้ตัว เห็นชัดว่ารู้แล้วว่าตัวการที่กำราบมรรควิถีของพวกเขาก่อนหน้านี้ก็คือหลินสวิน
น่าเสียดายที่เข้าใจเมื่อสายไปอยู่บ้าง
เมื่อเห็นเหตุการณ์นองเลือดนั้น ซู่หวั่นจวินอึ้งไปครู่หนึ่ง มีหรือจะไม่รู้ว่าสาเหตุที่ฆ่าคู่ต่อสู้พวกนั้นได้ง่ายดายเช่นนี้ หลินสวินคือตัวการสำคัญ
นางเก็บกระบี่มรรคลงไป มองหลินสวินหัวจรดเท้าพลางกล่าว “คิดไม่ถึงว่ามรรควิถีของเจ้าตอนนี้จะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์