Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3198

ตอนที่ 3198 ไม่อดกลั้นอีก

เถียนรั่วจิ้งคิดไม่ถึงว่าคนไร้ประโยชน์ระดับกระบวนแปรจุติ ถึงกับเป็นปราการในสภาวะจิตของตน!

นางนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ นัยน์ตางามฉายแววตัดสินใจ

ถ้าตัดไม่ขาดกลับจะถูกทำร้าย!

“เจ้าสำนัก ข้ามีเรื่องหนึ่งให้เจ้าไปทำ”

วันต่อมาเถียนรั่วจิ้งไปเจอเหวินถูหยางเจ้าสำนักวิญญาณสวรรค์

“อาจารย์อาโปรดสั่งการ”

เหวินถูหยางรีบรับคำ อีกสิบปีเถียนรั่วจิ้งจะกลายเป็นผู้อาวุโสของหอเซียน นี่ทำให้เหวินถูหยางถ่อมตนยิ่งกว่าเดิม ไม่กล้าละเลย

“เจ้าพาคนไปสำนักสวรรค์ยุทธ์ ไปนำตัวสวะชิงเฟิงมา”

สีหน้าเถียนรั่วจิ้งเรียบเฉย “หากพวกเขาไม่รับปาก ลงมือโดยตรงก็พอ”

เหวินถูหยางใจกระตุก ต่อให้มีข้อสงสัยและไม่เข้าใจมากมาย แต่ยังรับคำสั่งแล้วจากไปทันที

‘ข้านำมารผจญอย่างเจ้ามาอยู่ข้างกาย ไม่เชื่อว่าจะตัดมารอย่างเจ้าไม่ได้!’

นัยน์ตาเถียนรั่วจิ้งเปี่ยมแววเหี้ยมโหด

“เจ้าสำนัก แย่แล้ว เจ้าสำนักวิญญาณสวรรค์พาคนมาที่นี่ ประกาศว่าต้องการให้พวกเรามอบตัวอาจารย์อาชิงเฟิงไป มิฉะนั้นต้องรับผลที่ตามมาเอง!”

เสียงลนลานหนึ่งดังขึ้นในสำนักสวรรค์ยุทธ์

เจ้าสำนักฝูอวิ๋นจื่อตกใจ จากนั้นผู้อาวุโสชั้นสูงชิงเหิง ชิงเกิง เหล่าบุคคลสำคัญของสำนักสวรรค์ยุทธ์ล้วนถูกทำให้แตกตื่นเช่นกัน

พวกเขาแปลกใจยิ่ง เมื่อวานเถียนรั่วจิ้งเพิ่งมาพบชิงเฟิงลำพัง แต่เพิ่งผ่านไปวันเดียวทำไมสำนักวิญญาณสวรรค์ถึงมาเรียกตัวเล่า

“แต่ก่อนทุกครั้งอาจารย์อาชิงเฟิงไปสำนักวิญญาณสวรรค์จะถูกขัดขวาง ครั้งนี้พวกเขากลับมาหาถึงที่ ต้องการพาตัวอาจารย์อาชิงเฟิงไป ช่างน่าแปลกจริงๆ”

มีคนพึมพำ

“หรือว่าเมื่อวานอาจารย์อาชิงเฟิงล่วงเกินเถียนรั่วจิ้งนั่น”

มีคนขมวดคิ้ว

“คนดีไม่มา คนมาไม่ดี เหวินถูหยางมาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ เรื่องวันนี้คงไม่มีทางปรานีกันได้”

มีคนสีหน้าอึมครึม

“ส่งคนไปหาอาจารย์อาชิงเฟิง แจ้งให้เขารีบมา พวกเราไปลองดูหน้าประตูภูเขาก่อน”

ชิงเหิงออกคำสั่ง

หน้าประตูเขาสำนักสวรรค์ยุทธ์

เหวินถูหยางเจ้าสำนักวิญญาณสวรรค์ รวมถึงเหล่าบุคคลสำคัญรวมตัวเป็นกลุ่มผู้แข็งแกร่ง

ในกลุ่มนี้มีผู้อาวุโสชั้นสูงระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิสองคน มีผู้อาวุโสที่ครองพลังปราณระดับมกุฎจักรพรรดิมากมาย

กล่าวได้ว่านอกจากเถียนรั่วจิ้งแล้ว สำนักวิญญาณสวรรค์แทบส่งกำลังพลที่แข็งแกร่งที่สุดมา

เมื่อพวกชิงเหิง ชิงเกิง ฝูอวิ๋นจื่อเห็นภาพนี้ สีหน้าล้วนจริงจังขึ้นมาอยู่บ้างเล็กน้อย

“เหวินถูหยาง พวกเจ้าสำนักวิญญาณสวรรค์ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

เจ้าสำนักฝูอวิ๋นจื่อเอ่ยเสียงขรึม

เหวินถูหยางกล่าวราบเรียบ “ข้ารับคำสั่งผู้อาวุโสชั้นสูงเถียนรั่วจิ้งมา เชิญผู้อาวุโสชั้นสูงชิงเฟิงของสำนักเจ้าไปกับพวกเรา”

เขาสวมชุดคลุมพญางู เงาร่างสูงตระหง่าน เป็นระดับมกุฎจักรพรรดิด่านแปดคนหนึ่ง

“มีเหตุผลหรือไม่”

ฝูอวิ๋นจื่อถามอีก

“ทำไมต้องมีเหตุผล” เหวินถูหยางยิ้มขึ้นมา “ฝูอวิ๋นจื่อ คำสั่งของผู้อาวุโสชั้นสูงเถียนรั่วจิ้งแห่งสำนักข้ายากไปหรือ”

น้ำเสียงเจือความหยิ่งทะนง

สำนักใดในอาณาเขตตะวันออกนี้ไม่รู้เรื่องที่เถียนรั่วจิ้งใกล้กางปีกบินสู่ฟากฟ้า กลายเป็นผู้อาวุโสของหอเซียนบ้าง

น่าจะรู้ดีว่าควรทำอย่างไร

สีหน้าของพวกฝูอวิ๋นจื่อล้วนอึมครึมอยู่บ้าง

เหวินถูหยางกล่าวสบายๆ “ทุกท่าน สำหรับพวกเจ้าชิงเฟิงเป็นความอัปยศ จากมุมมองข้าพวกเจ้าไม่ควรผูกแค้นกับพวกเราสำนักวิญญาณสวรรค์ด้วยเรื่องนี้กระมัง”

“น่าขัน หากส่งคนไปเช่นนี้ สำนักสวรรค์ยุทธ์ของข้าก็ไร้น้ำยาแล้ว!”

ชิงเหิงกล่าวเย็นชาอย่างอดไม่ได้

เหวินถูหยางแค่นเสียงเย็นชา “ชิงเหิง เจ้าถูกทำลายรากฐานมหามรรคแล้ว อาการบาดเจ็บบนตัวเกรงว่าคงยังไม่สมาน หากเจ้าไม่สนความเป็นตายของสำนักสวรรค์ยุทธ์ ย่อมเลือกเปิดศึกกับพวกเราสำนักวิญญาณสวรรค์ได้!”

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของพวกฝูอวิ๋นจื่อปรวนแปรไม่หยุด

จำเป็นต้องเปิดศึกกับสำนักวิญญาณสวรรค์เพราะชิงเฟิงคนเดียวหรือ

อีกอย่าง ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับล่วงเกินเถียนรั่วจิ้งโดยสมบูรณ์แล้ว!

“อาจารย์ลุง เรื่องนี้…”

ผู้อาวุโสสำนักสวรรค์ยุทธ์คนหนึ่งกล่าวลังเล

ไม่รอให้พูดจบชิงเหิงกล่าวเสียงกรุ่นโกรธ “เจ้าอยากให้ข้าทิ้งชิงเฟิงไปโดยไม่สนใจรึ”

สายตาน่าเกรงขามนั้นทำให้ผู้อาวุโสสำนักสวรรค์ยุทธ์นั่นสั่นไปทั้งตัว รีบส่ายหัวกล่าว “ไม่กล้าๆ”

เหวินถูหยางเห็นดังนี้แล้วอดกล่าวเย็นชาไม่ได้ “ชิงเหิง เจ้าตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะปกป้องชิงเฟิงนั่น แต่ทั้งสำนักสวรรค์ยุทธ์ไม่คิดเช่นนั้น เจ้าแน่ใจว่าจะทำให้คนทั้งสำนักสวรรค์ยุทธ์ประสบเคราะห์เพราะคนไร้ประโยชน์อย่างชิงเฟิงหรือ”

บรรยากาศกดดัน

สีหน้าเหล่าบุคคลสำคัญของสำนักสวรรค์ยุทธ์ปรวนแปรไม่หยุด

ส่งตัวชิงเฟิงคนเดียวช่วยทั้งสำนักเลี่ยงเคราะห์ได้ สำหรับพวกเขาหลายคนนี่เป็นเรื่องที่ยอมรับได้

เหตุผลนั้นง่ายมาก หลายปีนี้ชิงเฟิงเหมือนความอัปยศของสำนัก ทำให้สำนักสวรรค์ยุทธ์อับอายขายหน้าไม่รู้กี่ครั้ง หากไม่ใช่ว่ามีชิงเหิงปกป้องมาตลอด ผู้คนนับไม่ถ้วนคงไล่เขาออกจากสำนักนานแล้ว!

“เจ้าสำนัก เจ้าคิดว่าอย่างไร”

สายตาชิงเหิงมองไปทางฝูอวิ๋นจื่อ ความจริงในใจเศร้ารันทดอยู่บ้าง เขามีหรือจะไม่รู้ว่าคนทั้งสำนักมองชิงเฟิงอย่างไร

ยามเคราะห์มาเยือนมักมองคุณธรรมของผู้คนออก สามารถเห็นความเป็นไปของสำนักหนึ่งได้

เหล่าบุคคลสำคัญของสำนักสวรรค์ยุทธ์ขาดรากฐานอยู่บ้างจริงๆ มองแค่ผลได้ผลเสียตรงหน้า แต่ไม่รู้ว่าเมื่อผ่านเรื่องนี้ไป ภายหน้าต้องตกเป็นเหยื่อของสำนักวิญญาณสวรรค์แน่

“ศิษย์พี่ วันนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องไป”

หลินสวินกล่าวเสียงเบา “สำนักสวรรค์ยุทธ์มีฐานะเช่นวันนี้ได้ล้วนเป็นผลงานของศิษย์พี่ทั้งสิ้น ฝูอวิ๋นจื่อยิ่งทุ่มเทกายใจเพื่อสำนักไปมาก นี่คือสถานที่ของพวกท่าน ปล่อยให้คนอื่นทำลายเช่นนี้ได้อย่างไร”

เมื่อเอ่ยปากออกมาทุกคนต่างอึ้งงัน

คล้ายคิดไม่ถึงว่าคนอัปยศของสำนักยังกล้าคุยโวโอ้อวดไม่กระดากในเวลานี้อีก

“ชิงเฟิง หากไม่ใช่เพราะเจ้าสำนักจะเจอวิกฤติเช่นวันนี้ได้อย่างไร”

ชิงเกิงสีหน้าขรึมลง ตวาดเสียงกร้าว

ผู้อาวุโสคนอื่นล้วนถลึงตามองหลินสวินเช่นกัน

“ศิษย์น้อง อย่าถกเถียงกับพวกเขาเลย” ชิงเหิงถอนหายใจยาว

“ข้าคร้านจะเปลืองน้ำลายกับพวกเขาจริงๆ”

หลินสวินพูดพลางเคลื่อนสายตามองพวกเหวินถูหยางที่อยู่ห่างไป “เรื่องวันนี้เกิดขึ้นเพราะข้าจริงๆ เช่นนั้นก็ให้ข้าจัดการเถอะ”

แววตาเขานิ่งสงบ ในใจตัดสินเด็ดขาดแล้ว

เก็บงำอดกลั้นมาหนึ่งปีกว่า ในเมื่อเจอวิกฤติเช่นนี้ หากอดกลั้นต่อไปอีก เขาคงรู้สึกผิดต่อการปกป้องของชิงเหิง!

“เจ้า?”

ห่างออกไปเหวินถูหยางตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ จากนั้นค่อยหัวเราะร่า “ความอัปยศของสำนักสวรรค์ยุทธ์อย่างเจ้า ถึงกับกล้าพูดจาใหญ่โตเช่นนี้ ช่างเสียสติจริงๆ”

เหล่าบุคคลสำคัญของสำนักวิญญาณสวรรค์ข้างกายเขาล้วนหัวเราะขึ้นมาด้วยขบขัน

เก้าร้อยปีแล้ว เท่าที่พวกเขารู้คือชิงเฟิงเป็นตัวตลกและพวกไม่ได้เรื่อง ทำให้สำนักสวรรค์ยุทธ์อับอายขายหน้าไม่รู้กี่ครั้ง

คนเช่นนี้กลับคุยโวโอ้อวดไม่กระดากตอนนี้ เห็นได้ว่าน่าขันเกินไปแล้ว

ชิงเกิงกับผู้อาวุโสคนอื่นรู้สึกเพียงว่าหน้าหมองไป ในใจรู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก เจ้าชิงเฟิง… ทำให้พวกเขาเสียหน้าจริงๆ!!

เวลานี้ฝ่ายสำนักวิญญาณสวรรค์มีชายผมขาวแต่หน้าเหมือนเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขบขัน

“ชิงเฟิง เจ้าอยากจัดการเรื่องวันนี้คนเดียวไม่ใช่หรือ มานี่เถอะ ยอมจำนนโดยดี พวกเราจะได้ไม่ต้องลงมืออีก”

“ได้สิ”

หลินสวินก็ยิ้มแล้ว ส่วนลึกของนัยน์ตามีประกายแสงเยียบเย็นวาบผ่าน

เขาก้าวเท้าห่างออกไป

ชิงเหิงยื่นมือคิดจะขวาง แต่กลับถูกพลังไร้รูปหนึ่งต้านไว้

ขณะเดียวกันเสียงสื่อจิตหนึ่งดังขึ้นข้างหูเขา ‘ศิษย์พี่ มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เคยบอกท่าน แต่อีกเดี๋ยว… ท่านอาจจะเข้าใจ’

เสียงยังคงดังก้อง เงาร่างหลินสวินก้าวไปกลางอากาศแล้ว

…………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์