Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3215

สรุปบท ตอนที่ 3215 เคราะห์พิฆาตมรรค: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 3215 เคราะห์พิฆาตมรรค จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 3215 เคราะห์พิฆาตมรรค คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 3215 เคราะห์พิฆาตมรรค

ขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์ก็คือปลายทางของมรรคานิรันดร์ และเป็นจุดสิ้นสุดของมรรคาที่ทั่วโลกรับรู้แล้ว

บนมรรคานิรันดร์ มีมรรคาที่สูงกว่าดำรงอยู่จริงหรือไม่

ในสายตาขั้นไร้ขอบเขตส่วนใหญ่ นี่ยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ

แต่สำหรับหลินสวิน เขากล้ายืนยันว่าหากบอกว่าบนโลกนี้มีมรรคาที่สูงกว่ามรรคานิรันดร์จริงๆ นั่นจะต้องเป็นมรรคแห่งชีวิต

เพราะเขาเองก็สัมผัสถึงธรณีประตูนี้แล้ว

อีกทั้งแตกต่างจากคนอื่นๆ ยามเขาสัมผัสถึงธรณีประตูนี้ เห็นชัดว่าง่ายดาย ไม่พบเจออุปสรรคและการขัดขวางใดๆ

ไม่ต้องเหมือนอย่างราชันไท่ชูที่สำรวจในแดนเทพมากเร้นอย่างยากลำบากหนึ่งแสนปี และผ่านความล้มเหลวหนึ่งแสนปีกว่าจะสืบเสาะเจอโลกมอบวิญญาณจากเรือนิรันดร์ที่พุ่งออกจากแดนเทพอัศจรรย์ในที่สุด ทำให้สัมผัสถึงนัยเร้นลับของมรรคแห่งชีวิตในต้นกำเนิดมอบวิญญาณ

ว่ากันถึงที่สุดเพราะครอบครองนัยเร้นลับนิพพาน ทำให้หลินสวินสัมผัสถึงนัยเร้นลับของมรรคแห่งชีวิตตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว

อย่างเช่นยามเขาช่วยศิษย์อย่างถังเจียงให้ฟื้นคืนชีวิต ความจริงก็เป็นการนิพพานของชีวิตอย่างหนึ่ง

และอย่างการช่วยศิษย์พี่ใหญ่ก็เป็นเช่นเดียวกัน

เพียงแต่ตอนนั้นถูกพลังปราณจำกัด เขาจึงไม่รู้ถึงความเกี่ยวข้องระหว่างนัยเร้นลับนิพพานกับมรรคแห่งชีวิตก็เท่านั้น

และตอนนี้ในขอบเขตปลายสุดอย่างขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์ หลังผสานนัยเร้นลับมอบวิญญาณเข้าไปในนัยเร้นลับนิพพาน ทั้งสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงละเอียดอ่อนบนร่างตน หลินสวินรู้แล้วว่าตนได้สัมผัสเส้นทางมหามรรคที่เหนือกว่ามรรคานิรันดร์อย่างแท้จริงแล้ว!

‘มือกระบี่คนนั้นเคยกลับไปฝึกปราณใหม่ในวัฏจักรที่แหล่งสถานอัศจรรย์ นี่เรียกได้ว่าเป็นมรรคแห่งชีวิตอย่างหนึ่ง…’

‘ผู้อาวุโสเฉินซีสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่มือกระบี่และไท่ชูได้ ย่อมสัมผัสถึงมรรคแห่งชีวิตแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย’

‘ถึงขั้นที่แม้แต่การเกิดใหม่ฝึกปราณอีกครั้งของจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ ยังสามารถมองเป็นการสะท้อนถึงมรรคแห่งชีวิตได้ ถึงอย่างไรจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ก็เป็นพลังพรสวรรค์ที่ถือกำเนิดในต้นกำเนิดมอบวิญญาณ ในตัวนางเดิมก็สั่งสมนัยเร้นลับของมรรคแห่งชีวิตไว้…’

ในการนั่งสมาธิหยั่งรู้ หลินสวินใคร่ครวญออกมาได้มากมาย ปริศนาในใจก็คลี่คลายไปมาก ความเข้าใจที่มีต่อนิพพาน ต่อมหามรรค ต่อชีวิตก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อน

……

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น

ซย่าจื้อตื่นจากการนั่งสมาธิ

กลิ่นอายบนร่างนางเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจ

“ขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์หรือ”

หลินสวินสังเกตเห็นแล้วอดถามไม่ได้

ซย่าจื้อขานรับว่าอืม เอ่ยว่า “ย่อมเป็นเช่นนี้”

หลินสวินยิ้มขึ้นมาทันที “จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ในตอนนั้นยังสู้เจ้าในตอนนี้ไม่ได้สักนิด”

“นี่ก็คือจุดประสงค์ที่นางมาเกิดใหม่ฝึกปราณอีกครั้งไม่ใช่หรือ” ซย่าจื้อพูด “เพียงแต่นางตัดความทรงจำและประสบการณ์ของนาง ทำให้ข้าในตอนนี้สมปรารถนา”

หลินสวินเข้าใจอย่างลึกซึ้ง กล่าวว่า “สามารถจากไปได้แล้วใช่หรือไม่”

“น่าจะได้แล้ว”

ซย่าจื้อลุกขึ้น จู่ๆ บนร่างก็ปรากฏมรรคโลกาสวรรค์ กลายเป็นฟ้าดินรัตติกาลนิรันดร์ไร้สิ้นสุดแถบหนึ่ง อารยธรรมและมหามรรคที่รองรับภายในราวกับดวงดาวมากมายไหลเคลื่อนอยู่ภายใน ลึกล้ำเร้นลับ แม้รัตติกาลนิรันดร์จะมืดมิดเช่นไร ก็ไม่สามารถบดบังความเจิดจรัสของดวงดาวเหล่านั้นได้

ตูม!

ชั่วขณะนี้ฟ้าดินสั่นพ้อง หมื่นลักษณ์สั่นไหว

เฒ่าโดดเดี่ยวและราชครูที่กำลังฝึกปราณอยู่ไม่ไกลต่างตกใจ พากันพุ่งเข้ามา

“พวกเจ้าจะไปแล้วหรือ” เฒ่าโดดเดี่ยวถาม

“ควรจากไปแล้ว”

หลินสวินยิ้มพูด “รอภายหน้าค่อยมาดื่มกับผู้อาวุโสทั้งสอง”

เฒ่าโดดเดี่ยวกลอกตาใส่ “เจ้าพูดเช่นนี้เพราะคิดว่าพวกเราไม่มีโอกาสข้ามโลกนี้ไปหรือ รอก่อนเถอะ ภายหน้าพวกเราจะไปหาเจ้า!”

ราชครูอดยิ้มไม่ได้ “ไม่ผิดๆ”

หลินสวินบื้อใบ้ไป เอ่ยพูดอย่างเบิกบาน “ไม่ว่าผู้อาวุโสทั้งสองจะมาเมื่อไร ข้าจะกวาดเตียงรอรับรอง”

“ใครจะนอนเตียงเดียวกับเจ้า” เฒ่าโดดเดี่ยวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าแค่เตรียมเหล้ารอก็พอ”

หลินสวิน “…”

จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา อุปนิสัยและอารมณ์ของเฒ่าโดดเดี่ยวยังคงเหมือนเมื่อก่อน

ตูม!

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ทั้งโลกโลกาสวรรค์เกิดท่วงทำนองแปลกประหลาด

มองเห็นด้วยตาเปล่าว่าผลมรรคแรกกำเนิดเร้นลับแถบหนึ่งปรากฏ อาบร่างสูงเพรียวอรชรของซย่าจื้อไว้ภายใน

“ชักนำผลมรรคแรกกำเนิดมาได้เร็วขนาดนี้เลยหรือ…”

สายตาของเฒ่าโดดเดี่ยวและราชครูเปลี่ยนเป็นละเอียดอ่อน

หลินสวินและซย่าจื้อมาถึงโลกโลกาสวรรค์จนถึงตอนนี้เพิ่งจะสองเดือนเท่านั้น

“บนทางพิฆาตมรรค ข้าเดินทางลำพัง หลังไปถึงแดนเทพมากเร้นข้าจะรอเจ้าบนแท่นมรรคมากเร้น”

ไม่นานซย่าจื้อก็ผินหน้ามา สายตามองไปยังหลินสวิน ไม่ต้องให้หลินสวินกำชับก็ตอบมาเองแล้ว เพื่อให้หลินสวินวางใจ

หลินสวินพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกซย่าจื้อแล้ว ว่าหลังจากผ่านทางพิฆาตมรรคให้ไปรอบนแท่นมรรคมากเร้น

แท่นมรรคมากเร้นมหัศจรรย์และลึกลับมาก ผู้ฝึกปราณที่เข้าไปครั้งแรกจะถูกพลังแท่นมรรคคุ้มครอง แม้มีการซุ่มโจมตีอยู่รอบๆ ก็ไม่สามารถเข้าใกล้แท่นมรรคนี้ได้

ในทางกลับกัน เมื่อออกไปก็จะไม่สามารถย้อนกลับไปในแท่นมรรคมากเร้นได้อีก

แน่นอนว่าข้อมูลนี้เป็นเฒ่าโดดเดี่ยวบอกหลินสวิน

แต่เฒ่าโดดเดี่ยวครอบครองวิชาลับชนิดหนึ่ง สามารถปรากฏตัวในโลกจำศีลในแดนเทพมากเร้นได้ในช่วงสั้นๆ ทำให้ไปพบเจ้าแห่งคีรีดวงกมลและจักจั่นทองได้

น่าเสียดาย วิชาลับนี้ต้องสิ้นเปลืองความทุ่มเทและจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ในทุกๆ หนึ่งพันปีใช้ได้เพียงครั้งเดียว เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเป็นผู้ถ่ายทอดวิชานี้ นามว่า ‘ใกล้ดุจสุดหล้า’

ยามหลินสวินเพิ่งมาถึงแหล่งสถานอัศจรรย์ เฒ่าโดดเดี่ยวใช้ไปแล้วหนึ่งครั้ง

ดังนั้นเฒ่าโดดเดี่ยวจึงได้รู้เรื่องเกี่ยวกับแท่นมรรคมากเร้นอยู่บ้าง

วู้ม…

ไม่นานประตูสวรรค์ปรากฏ เงาร่างของซย่าจื้อพุ่งเข้าไปแล้วหายไปทันที

ชั่วพริบตาภาพตรงหน้าหลินสวินเปลี่ยนไปกะทันหัน เหมือนย้อนกลับไปในสายธารแห่งชีวิต ภาพในอดีตมากมายวาบผ่านเบื้องหน้าสายตาดุจขี่ม้าชมบุปผา

ก็ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร

ยามครรลองสายตาของหลินสวินกลับมาชัดเจน ก็เห็นทุกภาพในอดีตของตนรวมตัวเป็นสายน้ำเส้นหนึ่ง สะท้อนในห้วงอากาศที่อยู่ห่างออกไป

สายน้ำของชีวิตในอดีตหรือ

หลินสวินนัยน์ตาหดรัด

ภาพนี้คล้ายกับสายน้ำที่เขาเห็นยามย้อนอดีตในโลกย้อนกำเนิด ล้วนสะท้อนทุกสิ่งที่เขาประสบในอดีต

ไม่ถูก!

แต่ไม่ทันไรหลินสวินก็สังเกตเห็นความแตกต่าง ในสายน้ำที่สะท้อนอดีตในตอนนี้ ภาพและประสบการณ์ทั้งหมดในอดีตของตนล้วนปกคลุมด้วยกลิ่นอายด่านเคราะห์ที่คลุมเครือลึกลับชั้นหนึ่ง…

จนสุดท้ายทุกสิ่งในอดีตล้วนถูกกระแสด่านเคราะห์กลบท่วมโดยสมบูรณ์

‘ข้าเข้าใจแล้ว นี่คือสายน้ำด่านเคราะห์ที่เป็นตัวแทนของ ‘อดีต’! หรือก็คือเคราะห์พิฆาตมรรคที่เรียกกัน…’ หลินสวินกระจ่างแจ้งทันที

เพิ่งคิดถึงตรงนี้…

ตูม!

อสนีแรกกำเนิดสายหนึ่งพุ่งออกจากสายน้ำนั้น ทะยานมากะทันหัน

ไม่สามารถหลบหนีได้สักนิด เพราะอสนีแรกกำเนิดระดับนี้อยู่เหนือพันธนาการของกาลเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ต้องถูกโจมตี

หลินสวินเองก็ไม่ได้คิดจะหนี

ยามอสนีแรกกำเนิดสายนั้นโจมตีบนร่าง ไม่ได้เกิดพลังทำลายล้างยิ่งใหญ่อะไร แต่ในสภาวะจิตของหลินสวินกลับเหมือนถูกดาบแหลมคบกริบแทงอย่างรุนแรง

ภาพตรงหน้าหลินสวินมืดมิดลง พลันรู้สึกได้ว่าตนเหมือนกลายเป็นทารกนอนอยู่ในผ้าอ้อม สิ่งที่สะท้อนอยู่ตรงหน้าคือใบหน้าอันหล่อเหลาของอวิ๋นชิ่งไป๋ ในมืออวิ๋นชิ่งไป๋ยังกำดาบกระดูกคมกริบเปื้อนเลือดไว้เล่มหนึ่ง

และตรงหน้าอกของตนเองกลับถูกผ่าแหวก เลือดสดสาดกระเซ็น…

‘นี่เป็นการย้อนกลับไปยามข้าเพิ่งเกิดหรือ’

ยามตระหนักได้ถึงจุดนี้ หลินสวินกลับไม่ลนลานเท่าไรแล้ว

เพราะเขาคุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้มาก เป็นโศกนาฎกรรมนองเลือดที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลินเมื่อนานมาแล้ว

อวิ๋นชิ่งไป๋ในตอนนี้ลอบเข้าตระกูลหลินพร้อมกับปาฉี เพื่อชิงชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดบนร่างตน

‘ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา เพียงแค่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตในอดีต ก็เหมือนทุกสิ่งที่เห็นในสายน้ำแห่งอดีตในโลกย้อนกำเนิด’

‘และสิ่งที่ข้าสัมผัสได้ตอนนี้ ก็คือพลังของเคราะห์อสนีแรกกำเนิด… ไม่ถูก!’

‘หรือเคราะห์นี้จะสังหารข้าในอดีตของข้า!?’

หลินสวินคิดถึงตรงนี้ในใจพลันสั่นสะท้าน

เขาเคยเข้าไปในโลกย้อนกำเนิด รู้ว่าบนสายน้ำแห่งชีวิตในอดีต ผู้ฝึกปราณสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาในอดีตของตนได้

ในทางกลับกัน สิ่งที่เขาประสบตรงหน้าเป็นเคราะห์พิฆาตมรรคที่ปรากฏในชีวิตในอดีตของเขา และหมายจะสังหารเขาในอดีต!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์