สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3218 ไอสังหารหน้าแท่นมรรคมากเร้น – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 3218 ไอสังหารหน้าแท่นมรรคมากเร้น ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 3218 ไอสังหารหน้าแท่นมรรคมากเร้น
หลินสวินตัดสินใจลองดูอีกครั้ง
ในห้วงอากาศไร้สิ้นสุดสองข้างทางพิฆาตมรรค หมอกมากมายลอยอวล เทาหม่นไปหมด เหมือนสำลีสีเทาเป็นแถบๆ
ฮูม…
จิตรับรู้ของหลินสวินแผ่ออกไป พุ่งไปยังหมอกที่อยู่ใกล้ที่สุด
หมอกนี้ก็เหมือนตกใจเช่นกัน หนีไปไกลๆ
เห็นเช่นนี้หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้ ‘หากหมอกเหล่านี้คือเคราะห์พิฆาตมรรคที่เจาะจงเล่นงานอนาคต จะกลัวการเข้าใกล้ข้าทำไม’
‘เคราะห์พิฆาตมรรคที่เจาะจงเล่นงานอนาคต… หรือเคราะห์นี้สังเกตเห็นนานแล้ว ว่าบนเส้นทางอนาคตของข้าไม่มีโอกาสให้มันลงมือ’
หลินสวินจมสู่ภวังค์ความคิดอย่างอดไม่ได้
ด้วยมรรควิถีในตอนนี้ของเขา ทั้งครอบครองมรรคโชคชะตา และสามารถอนุมานนัยเร้นลับบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับอนาคต
แต่นัยเร้นลับที่ได้รับทุกครั้งล้วนปรากฏคำว่า ‘เปลี่ยนแปลง’
ก็เหมือนสายน้ำที่ไม่แน่นอน มีโอกาสเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วนซ่อนอยู่ในอนาคต แทบจะไม่มีโชคชะตาที่แน่นอน
นี่ย่อมเป็นนัยเร้นลับที่หลินสวินได้มาจากการอนุมานอนาคตของตน
ยามอนุมานเรื่องราวและกฎกรรมอื่นๆ ก็จะไม่ปรากฏโอกาส ‘เปลี่ยนแปลง’ เช่นนี้
สำหรับหลินสวิน ที่มรรคาในอนาคตของตนปรากฏความเปลี่ยนเปลง มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับมหามรรคของตนซึ่งมีนัยเร้นลับนิพพานเป็นแกนหลัก
ถึงอย่างไรแก่นแท้ของนิพพานก็อยู่ที่การเปลี่ยนแปลง สามารถทำให้ชีวิตแปรสภาพ ทำให้มหามรรค สรรพสิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตามการคาดเดาของหลินสวิน อนาคตของตนได้รับผลกระทบจากนัยเร้นลับนิพพานไปนานแล้ว ปรากฏตัวแปรที่ไม่อาจล่วงรู้
และตอนนี้บนทางพิฆาตมรรค ยามเห็นหมอกที่หลบหนีตนเองอย่างต่อเนื่อง หลินสวินก็พอเข้าใจรางๆ แล้ว
คิดถึงตรงนี้สายตาของหลินสวินเปลี่ยนเป็นพิกลขึ้นมา ‘แต่ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าจะผ่านทางพิฆาตมรรคนี้อย่างไร…’
‘ช่างเถอะ’
หลินสวินตัดสินใจ ‘ในเมื่อพวกเจ้าไม่มา ข้าไปหาพวกเจ้าก็ได้’
เขาพลันสูดหายใจลึกคราหนึ่ง
เงาร่างเปล่งแสงกะทันหัน กลายเป็นหุบเหวใหญ่กลืนกินท้องฟ้า พริบตาเดียวก็โคจรร้อยพันครั้ง ประหนึ่งน้ำวนที่กวาดขวางกลางฟ้า เสียงครืนโครมสั่นไหวในโลกที่ว่างเปล่านี้
บริเวณทางพิฆาตมรรค หมอกเทาหม่นเหล่านั้นล้วนตกใจ แต่ยามพวกมันพยายามหลบหนี กลับพบเจอพลังกลืนกินและดึงดูดของหุบเหวใหญ่ ทำให้พวกมันเข้ามาใกล้หลินสวินอย่างไม่อาจควบคุมได้
ฮูม… ฮูม…
หมอกแถบแล้วแถบเล่ากลายเป็นกระแสอากาศที่ขมุกมัว ถูกหุบเหวใหญ่ที่โคจรม้วนเข้าร่างกายของหลินสวิน
ชั่วขณะนี้หลินสวินสัมผัสได้ถึงพลังของเคราะห์พิฆาตมรรค แต่พลังนี้ถูกมรรควิถีของเขาบดขยี้แหลกละเอียด หลังจากพวยพุ่งเข้าร่างตน กลับกลายเป็นพลังบ่อเกิดแรกกำเนิดที่มหัศจรรย์คลุมเครือมากมาย
‘ตามคาด เคราะห์พิฆาตมรรคที่พุ่งเป้าเล่นงานอนาคตนี้ เพราะทำอะไรข้าไม่ได้จึงไม่กล้าเข้าใกล้…’
ยามหลินสวินใคร่ครวญ ในห้วงอากาศรอบๆ มีหมอกหยับหมอกพุ่งเข้าไปในวังวนหุบเหวใหญ่ไม่หยุด พุ่งเข้าสู่ร่างเขา กลายเป็นบ่อเกิดแรกกำเนิดมากมาย
และหลินสวินสามารถสัมผัสได้ว่ามหามรรคของตนกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง และใกล้เข้าสู่สภาวะแรกกำเนิดอย่างต่อเนื่อง…
ก็ไม่รู้นานเท่าไร
ตูม!
ยามหมอกบริเวณทางพิฆาตมรรคถูกหลอมจนหมดสิ้น พลังมหามรรคในตัวหลินสวินแปรสภาพอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นมรรคแรกกำเนิดทั้งหมด
ขุ่นมัวเลือนราง ไม่อาจบรรยาย
ที่มาพร้อมกันคือพลังของนัยเร้นลับนิพพานเกิดการแปรสภาพ ปรากฏกลิ่นอายดั้งเดิมที่สุดปานแรกกำเนิด
เมื่อก่อนหลินสวินเองก็เคยเจอพลังแห่งแรกกำเนิดมามากมาย อย่างเช่นบ่อเกิดแรกกำเนิดที่หล่อเลี้ยงโลกใบหนึ่ง หรืออย่างกลิ่นอายของต้นแรกกำเนิดเป็นต้น
ทว่าพวกนั้นล้วนเป็นเพียง ‘ส่วนย่อย’ ของแรกกำเนิด แตกต่างจากสิ่งที่อยู่บนเส้นทางมหามรรคโดยสมบูรณ์
ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็คือ การครอบครองมหามรรคของผู้ฝึกปราณ จะต้องผ่านระดับขั้นขอบเขตของท่วงทำนองมรรค จิตมรรค กฎเกณฑ์อมตะเคราะห์ กฎเกณฑ์อริยมรรค กฎเกณฑ์ระดับจักรพรรดิ กฎเกณฑ์อมตะ กฎระเบียบนิรันดร์เป็นต้น
นี่เป็นกระบวนการเสาะแสวงจากภายนอกสู่ภายใน จากพื้นผิวสู่แก่นแท้
กระทั่งหลังจากกฎระเบียบนิรันดร์ก็จะเป็นมรรคโลกาสวรรค์ หลังจากโลกาสวรรค์จึงจะเป็นแรกกำเนิด!
เหตุใดในโลกจึงมีข่าวลือว่าผลมรรคแรกกำเนิดที่หลอมยิ่งมาก ยิ่งมีโอกาสหลุดพ้นจากขั้นปลายยอดอย่างขั้นไร้ขอบเขต
เหตุผลเพราะยามมหามรรคทั้งหมดที่ครอบครองแปรสภาพเป็นดั่งแรกกำเนิด ก็เท่ากับว่าความเข้าใจและการเสาะแสวงที่เกี่ยวกับมรรค ไปถึงต้นกำเนิด แก่นแท้ และแรกสุดอย่างแท้จริง!
โดยทั่วไปคนที่สามารถบรรลุสู่ระดับขั้นนี้ ที่อ่อนแอที่สุดล้วนมีมรรควิถีระดับจอมมรรคไร้ขอบเขต ผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งครอบครองอานุภาพของราชันไร้ขอบเขต
ส่วนคนอย่างเช่นหลินสวินซึ่งบรรลุสู่ขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์ตั้งแต่ยามอยู่ในโลกแปรมรรค กลับแตกต่างออกไป
บนมหามรรค ตอนนี้เขาบรรลุถึงระดับแรกกำเนิดแล้ว
ส่วนในด้านมรรคา เขาสัมผัสถึงแก่นอัศจรรย์ของมรรคแห่งชีวิตเช่นกัน!
ทั้งหมดนี้ทำให้พลังปราณของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนตั้งแต่ยามอยู่ในขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์แล้ว เหมือนกระโดดออกจากปลายทางของมรรคานิรันดร์ไปแล้วก้าวหนึ่ง!
‘ข้าเข้าใจแล้ว นี่จึงจะเป็นต้นกำเนิดของแหล่งสถานอัศจรรย์ สิ่งที่หล่อเลี้ยงคือแก่นแท้ของนิรันดร์ สิ่งที่สร้างคือนัยเร้นลับของดั้งเดิมที่สุดซึ่งเชื่อมต่อกับมหามรรค พิฆาตกฎกรรมแห่งอดีต ปัจจุบันและอนาคต หลุดพ้นออกไป มรรคาไม่ถูกผูกมัดอีก นี่ก็คือแรกกำเนิด มีเพียงเช่นนี้จึงจะสามารถใช้แรกกำเนิดเสาะหามรรคาที่เหนือกว่าได้…’
ครู่ใหญ่หลินสวินพึมพำในใจ ‘มีเพียงเช่นนี้จึงมีความสามารถไปสร้างมรรคที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก!’
เขาสัมผัสได้ถึงนัยเร้นลับแก่นแท้นิรันดร์แล้ว และสัมผัสถึงนัยเร้นลับแรกกำเนิด ความรู้เกี่ยวกับมหามรรคแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสมบูรณ์
ขอเพียงหลินสวินอยู่ นางไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“ข้านามว่าหยวนจิ่ว คนบนโลกล้วนเรียกข้าว่าบรรพจารย์วานร ยินดีที่ได้พบสหายยุทธ์หลิน”
ห่างจากแท่นมรรคมากเร้น บรรพจารย์วานรเอ่ยปาก เสียงหนักแน่นแก่ชรา สีหน้าไม่ยินดียินร้าย ดูคลื่นอารมณ์ไม่ออก
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ คงไม่ใช่มาต้อนรับข้ากระมัง”
หลินสวินผ่อนคลายมาก พูดลวกๆ
นี่คือแท่นมรรคมากเร้น ขอเพียงเขาอยู่ในนี้ ต่อให้ศัตรูอยากลงมือก็ไม่มีโอกาส
สิ่งที่ทำให้หลินสวินฉงนใจอย่างแท้จริงคือ ถึงยามนี้แล้วพวกอาจารย์และผู้อาวุโสจักจั่นทองเหตุใดจึงยังไม่ปรากฏตัว
‘ก็ถูก คนที่ปรากฏตัวตอนนี้เป็นเพียงคนใต้อาณัติราชันไท่ชู ยังไม่คุ้มให้พวกอาจารย์ลงมือด้วยตัวเอง…’ หลินสวินกล่าวในใจ
เวลาเดียวกันบรรพจารย์วานรเอ่ยว่า “ระหว่างที่สหายยุทธ์หลินเดินทางมาแดนเทพมากเร้น คงได้รู้เรื่องราวมากมายแล้ว และคงรู้ว่าในแดนเทพมากเร้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตรล้วนกำลังรอสหายยุทธ์หลินมาถึง”
เขาเว้นช่วงไปแล้วกล่าวต่อ “ที่พวกเรารอยู่ที่นี่ก็เพราะมีเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร” หลินสวินพูด
บรรพจารย์วานรกล่าว “เชิญสหายยุทธ์ไปกับพวกเรา หรือไม่ก็เป็นสหายยุทธ์ตามพวกเราไปเอง”
“เชิญข้าไปจุดนี้ข้าถือว่าเข้าใจได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการต่อสู้ ดูว่ามรรควิถีของใครสูงกว่า แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าจึงพูดว่าให้ข้าตามพวกเจ้าไปเอง”
หลินสวินขมวดคิ้วกล่าว
บรรพจารย์วานรเอ่ยว่า “ความจริง พวกอาจารย์เจ้าโพธิ เฉินซี เฉินหลินคง ก็อยากรู้มากว่าเหตุใดข้าจึงลงมือก่อน รอสหายยุทธ์หลินอยู่ที่นี่ เรื่องมาถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องปกปิดแล้ว”
พูดจบสายตาเขามองไปยังหลินสวิน เอ่ยเรียบๆ ว่า “การประชันหมากครั้งนี้ถูกกำหนดตั้งแต่แรก ว่าพวกเจ้าจะต้องแพ้โดยไม่ต้องสงสัย!”
นี่เป็นคำพูดที่พูดให้หลินสวินฟัง และพูดให้บุคคลชั้นเลิศมากมายในที่มืดฟังเช่นกัน
“ต้องแพ้โดยไม่ต้องสงสัยตั้งแต่เริ่มหรือ”
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ยิ้มออกมา “พูดจาใหญ่โตนัก คำพูดเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะกล้าพูดได้อย่างมั่นใจ นี่คงเป็นคำพูดของไท่ชู แต่เขาเอาความมั่นใจมาจากไหนเล่า”
บรรพจารย์วานรเอ่ย “เจ้าลัทธิไม่เคยคุยโวโอ้อวด ต่อให้เป็นเหล่าคู่ต่อสู้ในแดนเทพมากเร้นก็ไม่มีทางสงสัยในจุดนี้”
“ในเมื่อเจ้าลัทธิพูดเช่นนี้ย่อมมีเหตุผลของเขา สหายยุทธ์หลินอย่าได้คิดว่านี่เป็นคำพูดที่เจตนาข่มขู ถึงอย่างไรเมื่อพ่ายแพ้แล้ว บางคราวก็อาจทำให้ชีวิตมากมายพ่ายแพ้ไปด้วย สิ่งที่ต้องสูญเสียมากมายเกินไป และหนักหน่วงเกินไป”
“และนี่อาจไม่ใช่สิ่งที่สหายยุทธ์หลินอยากได้เห็น”
คำพูดของเขาราบเรียบมากมาโดยตลอด ราวกับกำลังเล่าความจริงหนึ่งกับหลินสวินอย่างอดทน
แต่ความหมายในคำพูดกลับทำให้คิ้วของหลินสวินค่อยๆ ขมวดขึ้นมา
…………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์