Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 377

แม้เป็นยามรัตติกาลเบื้องหน้าจอภาพวิญญาณก็ยังคงมีผู้คนเนืองแน่น ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง

ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นกลุ่มที่ซื้อตั๋วเข้าไปดูการประลองระหว่างหลินสวินและฮวาอู๋โยวไม่ทัน จึงตั้งใจมารอฟังผลอยู่หน้าจอภาพวิญญาณ

ฉือฉางเหมยอึ้งงันไป จู่ๆ นางก็อยากรู้ว่าเหล่าผู้ฝึกปราณในนครมีความเห็นต่อการประลองครั้งนี้อย่างไร

ในขณะที่คิด นางก็เดินเข้าไปใกล้

“ร้ายกาจ! หลินสวินคนนี้ต้องเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากแน่ ใครจะคิดว่าเพิ่งจะบรรลุสู่ระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้น ก็สามารถสยบผู้กล้าหญิงระดับฮวาอู๋โยวได้ซะแล้ว”

“จากคนนอกสายตา จนกระทั่งจู่โจมได้อย่างงดงามในท้ายที่สุด การประลองในครั้งนี้น่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย เสียดายที่ไม่ได้ไปเห็นความผ่าเผยของหลินสวินด้วยตัวเอง”

“แฮะๆ ข้าจะคอยดูว่าต่อไปใครยังจะกล้าเรียกหลินสวินว่า ‘เจ้าตระกูลทรงอำนาจที่อ่อนแอที่สุดในนครต้องห้าม’”

“ก็ไม่รู้ว่าหลินสวินมีวิธีการฝึกพลังปราณอย่างไรถึงได้เก่งกาจเพียงนี้ ด้วยกำลังต่อสู้ของเขา ต่อให้เข้าร่วมการทดสอบระดับอาณาจักรก็คงติดหนึ่งในห้าแหละมั้ง”

วินาทีที่จอภาพวิญญาณรายงานว่าสุดท้ายหลินสวินสามารถเอาชนะฮวาอู๋โยวได้ เสียงฮือฮาพลันดังสนั่นไปทั่ว เหล่าผู้ฝึกปราณต่างตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ ทั้งยังแสดงความทึ่ง เหนือความคาดหมายและเคารพนับถือที่มีต่อหลินสวินอย่างไม่ปกปิด

แทบไม่มีเสียงใดเลยที่ดูหมิ่น

นี่ทำให้ฉือฉางเหมยอดถอนหายใจไม่ได้ จะว่าไปก็จริง ลูกหลานตระกูลฮวาแต่ละคนขึ้นชื่อเรื่องความอันธพาลอยู่แล้ว ฮวาอู๋โยวนั่นยังได้รับฉายาว่าเป็น ‘นางยักษ์’ อีกต่างหาก

เห็นหลินสวินใช้ฐานะที่ต่ำกว่าล้มฮวาอู๋โยวไปได้อย่างสวยงาม จะไม่ให้นับถือคงยาก

แต่ไม่นาน พอได้ยินจอภาพวิญญาณรายงานว่าในตอนท้ายฮวาเชียนเฉิงลงมือกับหลินสวินอย่างดุดันโดยไม่สนกฎกติกา เสียงฮือฮาภายในสนามพลันเปลี่ยนเป็นเสียงด่าทอ

“คนตระกูลฮวาทำเกินไปแล้ว! หน้าไม่อายจริงๆ!”

“ชู่ว! เบาเสียงหน่อย หากคนตระกูลฮวามาได้ยินเข้าเจ้านั่นแหละที่จะเอาตัวไม่รอด”

“ตลกแล้ว เขาหน้าด้านทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้น ทำไมจะว่าไม่ได้? เป็นถึงผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ แต่กลับหน้าไม่อายไปลงมืออย่างเหี้ยมโหดกับเด็กอย่างหลินสวิน ทั้งยังแหกกฎการประลองอย่างป่าเถื่อน การกระทำน่ารังเกียจแบบนี้สมควรโดนต่อว่าแล้ว”

“ตระกูลฮวามีอำนาจมากจริงๆ โชคดีที่หลินสวินเป็นคนดีผีคุ้ม สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส มิเช่นนั้นถ้าหลินสวินเป็นอะไรขึ้นมา นครต้องห้ามก็จะสูญสิ้นยอดอัจฉริยะไปอีกคน!”

“ช่างน่าเกลียด! น่าเกลียดยิ่งนัก!”

ได้ยินเสียงก่นด่าพวกนี้ ฉือฉางเหมยกลับนิ่งมาก ด่าไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา? อย่างไรก็ไม่ได้เกิดผลกระทบอันใดต่อตระกูลฮวาอยู่แล้ว

อย่างมากก็แค่ตอกย้ำชื่อเสียงความอันธพาลและร้ายกาจของตระกูลฮวาก็เท่านั้น

แต่ฉือฉางเหมยยอมรับว่า การประลองในครั้งนี้หลินสวินไม่เพียงไม่เสียเปรียบ แต่ยังชนะใจและได้เสียงปรบมือชื่นชมจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นคำชื่นชมที่ใช่ว่าจะได้กันง่ายๆ

เรื่องนี้ย่อมเพียงพอที่จะเป็นประโยชน์ต่อการตั้งตัวและขยายอำนาจในนครต้องห้ามของเขาต่อไป

“อะไรนะ? แม้แต่ฮวาชิงหลินยังออกโรงงั้นหรือ?”

“ศึกนี้สร้างความฮือฮาเพียงนี้เชียวหรือ? น่าเสียดายจริง ถ้ารู้แต่แรก ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรข้าก็จะต้องเข้าไปดูที่สนามประลองด้วยตาตัวเองให้ได้”

“บุคคลผู้ลึกลับงั้นหรือ? กระบี่โบราณลายพร้อยที่ราวกับกิ่งเหมยงั้นหรือ? เป็นอาวุธติดตัวของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ท่านใดกัน ถึงได้ทำให้ฮวาชิงหลินหยุดชะงักไม่กล้าลงมือเสียดื้อๆ”

“คิดไม่ถึง เดาไม่ออก เดาไม่ออกจริงๆ!”

ได้ยินเพียงเท่านี้ ฉือฉางเหมยก็รู้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องฟังต่อไป เพราะไม่ว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะมากเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางเดาความจริงออก

เพราะแม้แต่นางที่เป็นถึงทายาทของตระกูลฉือ จนป่านนี้ยังไม่รู้เหตุผลแน่ชัด แล้วนับประสาอะไรกับผู้ฝึกปราณธรรมดาเหล่านี้?

“กระบี่โบราณเหมยคด…”

ฉือฉางเหมยเดินพลางใคร่ครวญ ‘นี่เป็นอาวุธที่จำศีลในพระราชวังมานานปี ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงมาปรากฏที่นี่ หรือว่า…หลินสวินมีอำนาจของราชวงศ์อยู่เบื้องหลังด้วย?’

แม้จะคิดไม่ตก แต่ฉือฉางเหมยกลับมั่นใจว่า หลังจากเรื่องนี้ไม่ว่าตระกูลทรงอิทธิพลอย่างตระกูลฮวาจะแค้นเคืองหลินสวินมากเพียงใด แต่ตราบใดที่ยังไม่แน่ใจเรื่องอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของหลินสวิน ย่อมไม่กล้ากระทำอันใดโดยไม่ยั้งคิด

วินาทีต่อมาฉือฉางเหมยกลับอดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ อย่าว่าแต่ตระกูลฮวาเลย แม้แต่ตระกูลฉือของพวกเขาก็เช่นกัน

ถ้าพูดถึงความเสียหาย เหตุการณ์ที่ตระกูลฉือของพวกเขาลอบสังหารหลินสวินย่อมมากกว่า!

จวบจนกระทั่งเดินขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวสมบัติ ระหว่างทางกลับตระกูล ฉือชางเหมยจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ สกัดกั้นความคิดอันสับสนวุ่นวายของตัวเองไปเสีย

ในขณะเดียวกันนางก็รู้ดีว่า แม้เบื้องหลังหลินสวินจะซ่อนขุมอำนาจบางอย่างไว้ แต่ขุมอำนาจที่คิดจะฆ่าเขาก็มีแต่จะยิ่งมากขึ้น!

อยากอาศัยศึกนี้วางรากฐานในนครต้องห้ามงั้นหรือ

ไม่มีทางเสียหรอก!

……

หลินสวินกลับจากหอสรวลทรัพย์ฟ้าก็เกือบจะสางแล้ว เขาดื่มจนเมา ถูกหลินจงหามขึ้นเกี้ยวสมบัติพากลับภูเขาชำระจิต

“เมาหรือ”

เห็นหลินสวินในอาการเมา เสี่ยวเคอพลันอดมุ่นคิ้วไม่ได้

“เมาก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็เป็นการยืนยันว่า ศึกครั้งนี้ถ้าไม่ใช่ชนะอย่างสวยงามก็คงแพ้อย่างราบคาบ มิเช่นนั้นในสถานการณ์ปกติเขาย่อมไม่ปล่อยตัวแบบนี้”

พญาแร้งยิ้มน้อยๆ

“จริงอย่างท่านว่า นายน้อยท่านชนะ”

หลินจงยิ้มตอบ ก่อนจะเล่ารายละเอียดการประลองในวันนี้

“กระบี่โบราณเหมยคดงั้นหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์