Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 393

สรุปบท ตอนที่ 393: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 393 จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 393 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 393 แย่งกันเชิญชวน
ตอนที่ 393 แย่งกันเชิญชวน
โดย
ProjectZyphon
เสียงร้องมังกรดังกึกก้องออกจากภาคีใหญ่นักสลักวิญญาณและดังไปทั่วทุกสารทิศ

เสียงดังสะเทือนฟากฟ้าจนปุยเมฆแตกกระจายออกจากกัน

ตามถนนตรอกซอกซอย ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างตกใจตัวแข็งค้าง หยุดการเคลื่อนไหวโดยพลัน บรรยากาศที่เดิมทีคึกคักเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดไปชั่วขณะหนึ่ง

บรรดาสัตว์วิญญาณและอสูรวิญญาณในเมืองต่างส่งเสียงโอดครวญ ตัวสั่นอยู่กับพื้น

เมื่อเสียงร้องมังกรอันทรงพลังและเก่าแก่ดังกังวานผ่านอาณาเขตผู้มีอำนาจภายในนคร ก็ทำให้เกิดความหวาดผวาไปทั่วเช่นเดียวกัน

“ช่างเป็นพลังที่น่าเกรงขามนัก!”

“เสียงดังสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน จะต้องเป็นปรากฏการณ์อะไรสักอย่างแน่ หรือจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นในนครต้องห้าม?”

“มาจากภาคีใหญ่นักสลักวิญญาณ!”

“ส่งคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ความรู้สึกอันน่าหวาดหวั่นพวกนั้นไหลวนอยู่ในเขตต่างๆ ภายในนครต้องห้าม ต่างรู้สึกถึงความแปลกประหลาดและสะท้านขวัญ

ส่วนพระราชวัง เจ็ดสิบสองยอดเขาของภูเขาแห่งอำนาจ สำนักศึกษามฤคมรกต กรมทหารแห่งจักรวรรดิ… สถานที่ที่มังกรซุ่มพยัคฆ์ซ่อนพวกนี้ ขณะนี้ก็มีการตอบสนองไม่ต่างกัน

เพียงชั่วขณะเดียว เสียงร้องมังกรที่เรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์นี้ได้ทำให้ทั่วทั้งนครต้องห้ามตกอยู่กลางความสั่นสะเทือน บังเกิดความโกลาหลยกใหญ่!

……

แต่ในยามนี้หลินสวินไม่ได้รับรู้เรื่องทั้งหมดนี้ด้วย

ขณะนี้ในหัวของเขากำลังรับการถ่ายทอดอันเก่าแก่และมหาศาลอยู่!

พลังที่ได้รับการถ่ายทอดมานั้นมหาศาลเกินไป เจิดจ้าดุจแสงเทพสีทอง ห้อทะยานเลื่อนลั่น ทั้งเก่าแก่และกว้างใหญ่ สุดท้ายได้หลอมรวมเป็นอักษรลับอันเก่าแก่… ‘เคราะห์’!

ตัวอักษรนี้ราวกับเป็นร่องรอยอารยะแห่งมหามรรค รุ่งโรจน์เป็นประกาย กำจายอานุภาพแห่งมังกรอันเก่าแก่และน่าสะพรึง ลึกลับไม่อาจคาดเดา

นี่ก็คือ ‘ความลับ’ ที่หลินสวินได้มาโดยบังเอิญ หลังจากผสานกระบวนวิญญาณทั้งเก้าเข้าด้วยกัน!

สืบทอดความลับที่มีชื่อว่า ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’!

อักษร ‘เคราะห์’ ที่สะท้อนอยู่ในหัวหลินสวินอย่างโดดเด่นเป็นประกายตอนนี้ ก็คือพลังที่ได้รับการสืบทอด หลังจากหลอมรวมกระบวนรอยสลักวิญญาณอันลึกลับซับซ้อนของเก้าศิลา!

แม้แต่หลินสวินเองยังคิดไม่ถึง ว่าหลังเสร็จสิ้นการทดสอบจะได้รับการสืบทอดเช่นนี้

หรือนี่จะเป็นสุดยอดความลับที่ซ่อนอยู่ในเก้าศิลาประตูมังกร

หลินสวินใคร่ครวญอยู่ครู่ใหญ่ก็ยังไม่มั่นใจ

ทันใดนั้นความเหนื่อยล้าเกินต้านพลันพุ่งขึ้นในใจ หลินสวินเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองใช้พลังจิตมากเกินไป จนมีทีท่าว่าจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว

ยามนี้เขาไม่กล้าคิดมากอีก สูดหายใจเข้าลึกๆ ลืมตาขึ้นและลุกจากแท่นประตูมังกร

หืม

พอกวาดสายตามองรอบๆ หลินสวินกลับพบอย่างแปลกใจว่า บรรยากาศนั้นช่างวังเวง เงียบสนิทแม้เข็มตกสักเล่มยังได้ยิน

เหล่านักสลักวิญญาณที่อยู่ภายในโถงต่างมีสีหน้าอึ้งงัน บ้างตกใจ บ้างก็เลื่อนลอย บ้างก็ตะลึง หรือไม่ก็ดูหวาดผวา…

ไม่มีใครพูดอะไร!

แต่ละคนราวกับกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว ดูผิดปกติเป็นอย่างมาก

หลินสวินอดมุ่นคิ้วไม่ได้ พอหันมองเหล่าคนตระกูลฉู่ก็พบว่าแต่ละคนสีหน้าหม่นแสง สิ้นหวังและย่ำแย่เกินจะเปรียบ

โดยเฉพาะฉู่ไห่ตงที่ใบหน้าซีดขาว สีหน้าซึมเซา ท่าทางหดหู่ราวกับถูกควักวิญญาณไป ดูผิดแผกอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนฉู่อวิ๋นคงที่อยู่ข้างๆ ฉู่ไห่ตงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ใบหน้าชราเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว เคียดแค้นและไม่จำยอม เจ็บปวดราวกับบิดามารดาสิ้นชีพก็ไม่ปาน

“ผู้อาวุโส ข้านับว่าผ่านการทดสอบแล้วใช่หรือไม่”

สุดท้ายหลินสวินหันสายตาไปทางลิ่งหูซิวที่อยู่ข้างๆ แล้วถามหยั่งเชิง

ทีแรกลิ่งหูซิวก็หน้าตาแข็งทื่อเช่นกัน พอได้ยินเช่นนี้พลันได้สติขึ้นมา ก่อนจะพยักหน้ารัวๆ “โอ๊ะ อ้อ หา? เจ้า…ฟื้นแล้วหรือ”

เขาเบิกตาโตจ้องหลินสวิน ท่าทางทั้งแปลกประหลาดทั้งตื่นตะลึง

หลินสวินนิ่งเงียบ

ฟื้นแล้วงั้นหรือ?

เขาไม่รู้ว่ายามเกิดเสียงร้องแห่งเก้ามังกรเมื่อครู่นี้ ได้สร้างความตะลึงพรึงเพริดให้กับผู้คนในโถงมากเพียงใด แม้แต่ลิ่งหูซิวก็ไม่เว้น

จวบจนถึงตอนนี้จึงได้สติกลับมาอย่างครบถ้วน

ลิ่งหูซิวสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าซับซ้อน “หลินสวิน…อย่าได้ข้องใจอีกเลย ตอนนี้เจ้าได้กลายเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณอย่างแท้จริงแล้ว อีกทั้ง…อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่วิเศษที่สุดในประวัติการณ์”

น้ำเสียงก็ซับซ้อนตามสีหน้าของเขาเช่นกัน

ราวกับจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ปรากฏการณ์เมื่อครู่นี้จะเกิดขึ้นกับนักสลักวิญญาณชั้นต้นที่อายุเพียงสิบกว่าปี

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ”

หลินสวินยิ้มน้อยๆ จากคำพูดของลิ่งหูซิวทำให้เขามั่นใจว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ดูเหมือนจะมีเพียงตนเท่านั้นที่ได้รับการสืบทอด ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’!

ฉับพลันนั้นหลินสวินพลันรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย รู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองใช้พลังไปมาก ใกล้จะทรงตัวไม่อยู่แล้ว

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินลงจากแท่นประตูมังกร

นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!

ทั้งภาคีใหญ่นักสลักวิญญาณ สำนักศึกษาเซียนช่างฝีมือแห่งจักรวรรดิและสำนักศึกษามฤคมรกต… ถ้าเป็นนักสลักวิญญาณคนอื่นๆ ได้รับการเหลือบแลเพียงเล็กน้อยจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็คงดีใจจนแทบคลั่งแล้ว

แต่ดูตอนนี้ หลินสวินยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ ขุมอำนาจสามฝ่ายก็เข้ามาแก่งแย่งกันเอง ทั้งยังยื่นข้อเสนออย่างไม่ยอมแพ้กัน จะไม่ให้นักสลักวิญญาณในโถงอึ้งได้อย่างไร

“อะแฮ่ม หลินสวิน หากเจ้ายอมเข้าร่วม…”

จู่ๆ ผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งกระแอมขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าหมายจะพูดแทรกขึ้นเพื่อแย่งตัวหลินสวิน

แต่เขายังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกอวี๋เป่ยโต้ว เฉิงจิ่งและเสิ่นทั่วที่สีหน้าไม่เป็นมิตรผรุสวาทเสียก่อน “ล้ำเส้นไปแล้ว!”

ผู้มีชื่อเสียงคนนั้นถอนตัวออกจากการแข่งขันอย่างจนปัญญาทันที

ทุกคนต่างสบตากันไปมา ในที่สุดก็ตระหนักได้แล้วว่า ผลงานก่อนหน้านี้ของหลินสวินทำให้พวกอวี๋เป่ยโต้วตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า จะต้องได้ตัวหลินสวินกลับไปไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!

ผลประโยชน์ระดับนี้ เกรงว่าคงมีเพียงหลินสวินคนเดียวที่จะได้รับ…

เหล่านักสลักวิญญาณต่างหดหู่ใจ พวกเขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอิจฉา ริษยาก็ไม่ได้ ช่วยไม่ได้ ผลงานของหลินสวินน่าทึ่งจริงๆ ทำให้พวกเขาไม่อาจไม่ยอมรับ แล้วจะไปริษยาได้อย่างไร

นี่คือฝีมือที่แท้จริง!

ความจริงหลินสวินในยามนี้ก็ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

จากนั้นเขาก็เผยสีหน้าเหนื่อยล้า พูดพร้อมยิ้มขื่น “ขอบคุณความเอ็นดูจากผู้อาวุโสทุกท่าน เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ขณะนี้ข้าน้อยเหนื่อยเกินไป ต้องการพักผ่อนอย่างเร่งด่วน เช่นนั้นไม่สู้…พวกเราค่อยคุยกันวันหลังดีหรือไม่”

กลับเห็นอวี๋เป่ยโต้วตบหน้าผากตัวเอง พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “เพราะข้าคนเดียว ลืมไปเลยว่าตอนนี้ร่างกายของเจ้ายังไม่พร้อม เอาอย่างนี้ เจ้าไปพักที่ภาคีใหญ่นักสลักวิญญาณ ข้าจะให้คนไปเอาลูกกลอนโอสถที่สะสมเอาไว้ รับรองว่าเจ้าจะฟื้นตัวอย่างเร็วที่สุด!”

“หากพูดถึงโอสถ สำนักศึกษาเซียนช่างฝีมือของข้ามีโอสถที่ดีที่สุดในจักรวรรดิ หลินสวินเจ้าไปกับข้าตอนนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายเจ้าฟื้นตัว แต่ยังได้รับประโยชน์อย่างที่คิดไม่ถึงเลย!”

เฉิงจิ่งเชื้อเชิญพร้อมรอยยิ้ม

“เหอะๆ ทุกคนล้วนรู้ว่าสำนักศึกษามฤคมรกตของข้ามี ‘สระเทพเร้น’ ที่สามารถฟื้นฟูพละกำลังได้อย่างเหลือเชื่อ หลินสวินเจ้าไม่จำเป็นต้องด่วนตัดสินว่าจะเข้าสำนักศึกษามฤคมรกตหรือไม่ แต่ไปลองสัมผัสกับข้าตอนนี้ก่อนได้ เพียงได้ลองก็รู้แล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างที่ว่าหรือไม่”

เสิ่นทั่วพูดอย่างมั่นใจ

เหล่านักสลักวิญญาณที่อยู่รอบๆ ได้ยินแบบนี้ต่างหัวใจเต้นรัว หายใจหอบถี่ เพียงแค่หลินสวินต้องการพักสักหน่อยเท่านั้นก็ได้รับการดูแลพิเศษถึงเพียงนี้ กวาดตามองทั่วทั้งนครต้องห้าม ไหนเลยจะมีนักสลักวิญญาณคนใดที่ได้รับสิทธิพิเศษระดับนี้

ถูกเชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้นแบบนี้ ทำเอาหลินสวินแทบรับไม่ไหว

สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธทุกคำเชิญ และประกาศด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยวว่าจะกลับไปทำสมาธิที่ภูเขาชำระจิต ไม่อยากเพิ่มภาระให้ทุกท่าน

‘หึ เจ้าหมอนี่หมายจะโก่งราคาชัดๆ ตอนนี้อำนาจตัดสินใจอยู่ในมือเขา จะเรียกแพงแค่ไหนก็ย่อมได้’

ไกลออกไป เฟิงชิงโยวที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ตลอดเห็นเช่นนี้แล้วก็ลอบหัวเราะเยาะในใจอย่างอดไม่ได้ มองจุดมุ่งหมายที่หลินสวินทำเช่นนี้ออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์