สัตว์ปีศาจชั้นนี้สามารถสะท้านขวัญผู้มีปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณได้ ทันทีที่กีบเท้าทั้งสองของมันกระแทกเข้ากับร่างของหลินสวิน แม้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!
สวบ!
เห็นใต้เท้าของหลินสวินราวเกิดเมฆหมอก เงาร่างหายไปจากจุดเดิมในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรชั้นแรก… ก้าวย่างชือน้ำแข็ง!
เสียงปังดังลั่น กีบเท้าทั้งสองของอสูรมังกรเจียวร่วงหล่นจากห้วงอากาศกระแทกลงบนพื้น เกิดเป็นเสียงดังลั่น พื้นพสุธาราวกัมปนาท เห็นได้ว่าพลังโจมตีนี้น่ากลัวเพียงใด
หลินสวินเห็นดังนี้ก็ลอบถอนหายใจยาว ในใจอดโกรธไม่ได้ สัตว์ปีศาจลากเกี้ยวสมบัตินี้โดยทั่วไปจะถูกฝึกอยู่ก่อนแล้ว ถ้าไม่ได้รับคำสั่ง จะกล้าชนเข้าอย่างจังเช่นนี้ได้อย่างไร
“โฮก!”
แต่หลินสวินไม่ทันได้แสดงท่าทีโมโห อสูรมังกรเจียวกีบดำตัวนั้นโจมตีไม่โดนก็ยิ่งคลุ้มคลั่งดุร้าย คำรามอย่างขัดเคืองออกมา อ้าปากหมายจะกัดหลินสวิน
“ไสหัวไป!”
นัยน์ตาดำของหลินสวินเย็นเยียบ ทั้งร่างมีไอหมอกน้ำแข็งระเหย เมื่อย่างเท้าไปก้าวหนึ่ง เงาชือน้ำแข็งตนหนึ่งก็พุ่งออกมา แหงนหน้าขึ้นฟ้า ส่งเสียงแหลมเหมือนเสียงร้องของมังกร
พลานุภาพน่าหวั่นกลัวยากบรรยายพลันปะทุออกจากหลินสวินที่เป็นศูนย์กลาง ม้วนกวาดทุกอย่าง
ในชั่วพริบตา อสูรมังกรเจียวกีบดำที่คิดจะกัดทำลายตัวนั้นส่งเสียงร้องครวญครางออกมา เสียงตุ้บดังขึ้น ร่างใหญ่ยักษ์เหมือนถูกมหาบรรพตกดทับ หมอบคลานอยู่บนพื้นตัวสั่นระริก
และในเวลาเดียวกันนี้ อสูรมังกรเจียวกีบดำที่ลากเกี้ยวสมบัติอีกสามตัวก็พากันร้องครวญ ร่างอ่อนยวบไปกับพื้น
เฮือก~
เสียงสูดหายใจเย็นเยียบระลอกหนึ่งดังขึ้นในที่นั้น
หลินสวินในเวลานี้เงาร่างเต็มไปด้วยหมอกน้ำแข็ง เงาชือน้ำแข็งแหงนหน้าขึ้นไปยังห้วงอากาศ มีพลังน่าหวั่นกลัวยากบรรยาย หยิ่งผยองยิ่งนัก
อสูรมังกรเจียวดำที่สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณหวั่นกลัวได้สี่ตัวนั้น กลับถูกกำราบด้วยพลานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างหลินสวินในเวลาเดียวกันนี้เอง นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
“วิชาลับอะไรกันนี่ ถึงกับก่อให้เกิดความน่าหวั่นเกรงแรงกล้าเช่นนี้ได้”
อีกด้านหนึ่ง ดวงตากระจ่างดุจดาราของไป๋หลิงซีปรากฏแววประหลาด ปริศนาในตัวหลินสวินมากมายนัก ยังให้นางสงสัยหลายครั้งว่า แท้จริงแล้วหลินสวินครอบครองวิชาลับกับพลังที่ผู้อื่นไม่รับรู้อีกกี่มากน้อย
“เหอะๆ เจ้าก็คือหลินสวินงั้นหรือ”
ฉับพลัน เสียงหัวเราะอ่อนหวานหาใดเปรียบเสียงหนึ่งดังขึ้น ที่ตามมากับเสียงนี้ คือชายหนุ่มชุดสีเลือดผู้หนึ่งที่เดินออกมาจากเกี้ยวสมบัติมังกรเจียวคันนั้น
เขามีผิวขาวสะอาดราวดรุณี ในหน้างดงามหล่อเหลาแฝงกลิ่นอายราวปีศาจ โดยเฉพาะนัยน์ตาคู่นั้น ยามลืมตาขึ้นจะมีแสงสีเลือดหมุนเคลื่อน ดูน่าหวาดหวั่นหาใดเปรียบ
นี่ก็คือหลิงเทียนโหวจ้าวจิ่งอิ้น!
เพียงดูจากรูปลักษณ์ภายนอก เขาดูไม่เหมือนผู้กล้าที่นิสัยใจคอโหดเหี้ยมวิปริต เคยมีชื่อเสียงเลื่องระบือร้ายกาจที่สนามรบชายแดน กลับดูเหมือนคุณชายสูงศักดิ์ที่ท่าทางเหนือธรรมดาผู้หนึ่ง
แต่เมื่อเห็นว่าเขาปรากฏกาย หลายคนในที่นั้นหลุบตาลง แสดงให้เห็นความรู้สึกหวั่นเกรง เห็นชัดว่าในใจรู้ดีว่า ภายใต้เนื้อหนังหล่อเหลางดงามของหลิงเทียนโหว มีหัวใจราวปีศาจร้ายดวงหนึ่ง!
“ใช่”
หลินสวินพยักหน้ารับ เพียงฟังถ้อยคำของอีกฝ่าย เขาก็รู้ว่าที่อสูรมังกรเจียวดำพุ่งชนตนเมื่อครู่นั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!
“ดูแล้วยังเยาว์เหมือนข่าวลือจริงๆ เพียงแต่เจ้ากลับไม่มีความใจกล้าคับฟ้าเช่นในข่าวลือเลย”
หลิงเทียนโหวมีน้ำเสียงอ่อนหวาน เหมาะเจาะกับใบหน้าสะสวยราวปีศาจของเขา มีบุคลิกที่มีเอกลักษณ์
“ท่านเห็นว่าอย่างไรจึงเรียกว่าใจกล้า” หลินสวินถามกลับ
“ถ้าข้าเป็นเจ้า หากเดรัจฉานเช่นนี้กล้าพุ่งชนข้า เช่นนั้นข้าก็จะฆ่าเดรัจฉานก่อน แล้วค่อยฆ่านายของมัน”
หลิงเทียนโหวอธิบายเหตุผลแช่มช้า แต่วาจานั้นพลุ่งพล่านไปด้วยจิตสังหาร พาให้ใจคนหนาวยะเยือก “เช่นนี้ถึงจะเรียกว่าใจกล้าอย่างแท้จริง”
หลายคนที่อยู่ใกล้กันนั้นลอบสูดหายใจเย็นเยียบ ไม่พบกันห้าปี นิสัยวิปริตของหลิงเทียนโหวไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งร้ายกาจกว่าเดิมเสียอีก!
หลินสวินร้องอ้อ พลันยกมือหนึ่งขึ้นตบออกไป เกิดเสียงดังปังคราหนึ่ง หัวอสูรมังกรเจียวดำตัวหนึ่งที่อยู่ด้านข้างพลันแหลกสลาย โลหิตซ่านกระเซ็น
ฝูงชนจิตใจสั่นสะท้าน ตกตะลึงร้องเสียงหลง ใครจะกล้าคิดว่าจู่ๆ หลินสวินจะลงมือฆ่าอสูรมังกรเจียวดำตัวหนึ่งที่หลิงเทียนโหวเลี้ยงต่อหน้าต่อตาเขาได้
“ข้าไม่ได้ใจกล้ามากมาย แต่ความกล้าในการฆ่าเดรัจฉานตนหนึ่งก็ยังพอมี เช่นนี้ท่านพอใจหรือไม่”
หลินสวินยิ้มถาม สีหน้าเรียบเฉย
“แต่ข้าเห็นว่ายังขี้ขลาดนัก”
หลิงเทียนโหวเหมือนไม่โกรธ เพียงมองหลินสวินอย่างเฉยชา
ปัง!
พูดเพิ่งจบ หัวอสูรมังกรเจียวดำอีกตัวก็ถูกหลินสวินตบจนแหลก น่าสะท้านขวัญจนอสูรมังกรเจียวดำอีกสองตัวร้องครวญไม่หยุด หวั่นกลัวหวาดวิตก
ส่วนฝูงชนที่อยู่ใกล้ๆ นั้นสีหน้าล้วนระบายไปด้วยความสั่นสะท้าน
จวบจนตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดหลิงเทียนโหวถึงหยุดเกี้ยวสมบัติกะทันหัน และเข้าหาหลินสวิน
และคิดไม่ถึงเช่นกันว่า เมื่อเทียบกับหลิงเทียนโหวที่ว่าป่าเถื่อนโหดเหี้ยมแล้วนั้น การแสดงออกของหลินสวินก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย!
นี่เป็นถนนหยกขาวที่ในเมืองชั้นในที่ใช้เป็นทางไปยังพระราชวัง ศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามขนาดไหน แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิงเทียนโหวหรือหลินสวิน ก็ดูไม่หวั่นเกรงเลย!
เช่นนี้น่ากลัวไปแล้ว
วันนี้เป็นวันฉลองพระชนมพรรษาสามร้อยปีของจักรพรรดินี หากสองคนนี้ก่อเรื่องวุ่นวาย ไม่กังวลว่าจะได้รับโทษหรือ?
“ตอนนี้ล่ะ”
หลินสวินหัวเราะพลางถามต่อ ในดวงตาสีดำคู่นั้นกลับไม่มีความหวั่นไหวสักนิด
“ก็ยังไม่ผ่านเหมือนเดิม”
หลิงเทียนโหวพูดเสียงเรียบ ใบหน้าหล่อเหลางดงามราวปีศาจนั้นก็ดูคลื่นอารมณ์ไม่ออกเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์