ทั้งยังเหมือนว่าไม่สามารถทำให้มันพอใจได้!
สุดท้ายหลินสวินกัดฟัน หยิบลูกกลอนอสูรมารสีใสเม็ดหนึ่งออกมา อ้าปากกลืนเข้าไป
นี่คือลูกกลอนอสูรมารของอสูรมารเสือดาวมรกต รวมความพิเศษเอาไว้มากมาย ถ้าเอามาเป็นวัตถุดิบยา สามารถหลอมลูกกลอนวิญญาณระดับปฐพีได้อย่างแน่นอน
แต่ถ้ากลืนเข้าไปโดยตรง ฤทธิ์ยาจะลดลงอย่างมาก
แต่ตอนนี้หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนั้นแล้ว
ครืนโครม~
พลังเร่าร้อนน่าสะพรึงกลัวราวกับธารหินหนืดแพร่กระจายภายในร่างหลินสวินฉับพลัน
ครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อครู่นี้ ยังไม่ทันที่หลินสวินจะเข้าไปหลอมพลัง ชีพจรวิญญาณก็ราวกับปากเหวลึก เกิดพลังกลืนกินอันน่ากลัว กลืนพลังทั้งหมดของลูกกลอนอสูรมารเสือดาวมรกต
หลินสวินพลันเกิดภาพลวงตาว่าชีพจรวิญญาณราวกับจะเหมือนตัวเขา เร่งร้อนอยากให้มั่นคงจนรอไม่ได้แล้ว
“ที่รักหนอที่รัก ข้าจะดูซิว่าเจ้าจะกลืนลูกกลอนอสูรมารกี่เม็ด!”
หลินสวินหยิบลูกกลอนอสูรมารขึ้นมาอีกเม็ด อ้าปากกลืนเข้าไป
มูลค่าของลูกกลอนอสูรมารนั้นสูงมาก หากอยู่ในจักรวรรดิจื่อเย่า ลูกกลอนอสูรมารเช่นเสือดาวมรกตสามารถขายได้ในราคาสูงเสียดฟ้า!
หลังจากฆ่าเฉียนไหว หลินสวินพาเชลยอย่างเหรินเมี่ยวเมี่ยวยกทัพจับศึกมาสิบวันโดยไม่หยุด ระหว่างทางฆ่าอสูรมารระดับมหาสมุทรวิญญาณมาสิบกว่าตัวและได้ลูกกลอนอสูรมารมาสิบกว่าเม็ด
เดิมเขาคิดว่าจะใช้ในการฝึกปราณในภายหลัง แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงสละของรักด้วยความเจ็บปวด ‘ป้อน’ ลูกกลอนอสูรมารที่มีมูลค่าน่าตกใจเหล่านี้ให้ชีพจรวิญญาณ
หนึ่งเม็ด
สองเม็ด
สามเม็ด
หลินสวินกลืนลูกกลอนอสูรมารอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาราวกับเป็นสื่อกลาง ไม่จำเป็นต้องหลอม พลังของลูกกลอนอสูรมารเหล่านั้นก็ถูกชีพจรวิญญาณกลืนกินไปเอง
ในกระบวนการนี้ชีพจรวิญญาณส่องแสงเจิดจ้าราวกับเหวที่ลุกโชน กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์แผ่พุ่งออกมา เกิดเสียงสวดราวกับเสียงธรรมอันคลุมเครือเป็นระลอกๆ
กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์นั่นรุนแรงเกินไป ราวกับแก่นแท้ไหลเวียนอยู่บนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจ พลังที่แผ่ซ่านได้ย้อมทุกส่วนในหัวใจให้บริสุทธิ์ดั่งแก้วใส
ตึก! ตึก! ตึก!
จังหวะการเต้นของหัวใจราวกับเสียงกลองใหญ่ หนักแน่นมั่นคง ยิ่งใหญ่แข็งแกร่ง ในทุกๆ ครั้งก็จะปลดปล่อยกลิ่นอายอันบริสุทธิ์ แผ่กระจายอยู่ในเลือด ไหลเคลื่อนไปถึงเส้นลมปราณ จุดชีพจร กล้ามเนื้อ กระดูกและผิวหนัง…
ทันใดนั้นประหนึ่งรูขุมขนทั้งหมดบนร่างหลินสวินเปล่งประกาย ส่องแสงวับวาวราวกับเคลือบกระจกที่เคลือบแสงอันบริสุทธิ์ แฝงไอวิญญาณและกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์
หลินสวินสัมผัสได้อย่างฉับไวว่า ร่างกายของตนทั้งภายในและภายนอก ทุกอย่างรอบตัวกำลังถูกกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์แทรกซึมและยกระดับ กำลังอยู่ในกระบวนการการเปลี่ยนแปลง
ยามหลินสวินเหลือลูกกลอนอสูรมารเพียงแค่สองเม็ด ในที่สุดชีพจรวิญญาณก็หยุดการกลืนกิน ดูเหมือนจะเพียงพอแล้ว มันพาดอยู่บนเส้นปราณหัวใจราวกับอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์แรงกล้า!
ครื้นโครม~~
กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เอ่อล้นออกมาจากหัวใจ ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่าง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของหลินสวิน กำเนิดเป็นพลังแทรกซึมลึกลับ
หลินสวินโล่งอกอย่างที่สุด คลี่คลายวิกฤตได้แล้ว ทำให้ในใจเขาคลายความกดดันอย่างแท้จริง จึงเข้าสู่สภาวะสงบนิ่ง
หลินสวินฉวยโอกาสนี้ถือ ‘แหวนประสานมายา’ ขับเคลื่อนวิชายุทธ์ เริ่มนั่งสมาธิ
วิ้ง~
ในหัว เสียงที่ราวกับระฆังยามรุ่งสางและกลองยามพลบค่ำ คล้ายกำลังท่องบนสวด สะท้อนอยู่ในห้วงนิมิต
นี่คือ ‘คัมภีร์ประสานมายา’ ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษตระกูลหลิน มีเพียงทายาทสายตรงของตระกูลหลินเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความลึกลับยิ่งใหญ่ซึ่งซ่อนอยู่ โดยอาศัยแหวนประสานมายา
ในขณะเดียวกัน ภายในร่างของหลินสวิน มรดกโบราณ ‘เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกิน’ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากห้องโถงมรรคาสวรรค์ก็เริ่มขับเคลื่อนเช่นกัน
ส่วนบนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจ ชีพจรวิญญาณที่ดุจอาทิตย์แรงกล้าแผ่กระจายกลิ่นอายบริสุทธิ์ราวกับแก่นแท้ ไหลหลั่งดั่งธารหยก ย้อมไปทั่วทั้งร่างกาย
หลินสวินในยามนี้เปล่งประกายไปทั้งตัว ดวงหน้าสุภาพหล่อเหลาสงบนิ่ง หว่างคิ้วหมดจดมีกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์อยู่รางๆ
ในอากาศราวกับมีเสียงธรรมดังก้องกังวาน ดุจดั่งเสียงแห่งธรรมชาติที่เลื่อนลอยและห่างไกล
นี่เป็นการปะทุแบบหนึ่งหลังจากผ่านการเคี่ยวกรำหนักหน่วง ภายใต้การสนับสนุนของคัมภีร์ประสานมายา เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกินและชีพจรวิญญาณ ทำให้ร่างกาย พลังปราณและจิตวิญญาณของหลินสวินล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง!
……
สามวันต่อมา
ร่างกายภายนอกของหลินสวิน รอยแผลถี่ยิบที่หลงเหลือจากการต่อสู้กรำศึกได้ตกสะเก็ดและลอกออก เผยให้เห็นผิวหนังที่แวววาวราวกับหยกชั้นหนึ่ง รูขุมขนคายแสงวิญญาณ ดูบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
เจ็ดวันต่อมา
ร่างกายของเขาเกิดเสียงกังวาน กระดูกเปล่งประกาย เส้นเอ็นเนื้อเยื่อดุจหยก โลหิตสะอาดโปร่งใส แผ่กระจายกลิ่นอายบริสุทธิ์!
พลังในร่างเขาได้เสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ประหนึ่งนิพพาน เปรียบได้กับอาวุธวิญญาณ ทั้งบริสุทธิ์และไร้มลทิน!
สิบวันต่อมา
ในห้วงนิมิต ดวงดาวแห่งจิตแต่ละดวงเปล่งประกาย พลันส่องสว่างขึ้น ราวกับทางช้างเผือกที่ลุกโชนเจิดจ้า เติมเต็มร่างกายที่ว่างเปล่า ส่องสะท้อนจิตวิญญาณ
ดวงดาวแห่งจิตจากร้อยกลายเป็นพันหมื่นดวง ‘ดาราจักรโคจร’ ระดับแรกของสามระดับใหญ่แห่ง ‘เคล็ดเวทบริกรรม’ มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบ!
พลันเห็นว่าในห้วงนิมิต ดวงดาวนับหมื่นเปล่งประกายระยิบระยับ โคจรอยู่ในวงวัฏจักรอันลึกลับ หมุนวนเป็นประกาย แทรกซึมทั้งในและนอกจิตวิญญาณ
สิบห้าวันต่อมา
ตูม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์