ยอดคีรีสูงกว่าพันฉื่อ หินผาตะปุ่มตะป่ำ มีชื่อว่ายอดเขามหาสมุทรวิญญาณ
หลังจากหลินสวินตัดสินใจมาดมั่นแล้ว ก็เคลื่อนตัวไปยังที่แห่งนั้นทันที
“เจ้าหมอนี่ตั้งใจจะไต่ขึ้นกระดานจริงๆ สินะ!”
พวกสืออวี่ หนิงเหมิงเห็นดังนี้ ในที่สุดก็ตระหนักว่าหลินสวินไม่ได้ล้อเล่น จึงรีบตามไปด้วย
พวกเขาเองก็สงสัยใคร่รู้เช่นกันว่า จากความแข็งแกร่งและหน่วยก้านของหลินสวินในปัจจุบัน จะสามารถติดอันดับที่เท่าไรในกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ หากคิดจะฝากชื่อไว้บนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณนั้นมีอยู่สองวิธี
วิธีแรกเป็นที่รู้จักกันดี ทุกปีสาขายุทธ์วิถีจะจัดงานประลองใหญ่หนึ่งงาน ใช้วิธีนี้ปรับเปลี่ยนรายชื่อบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ
วิธีนี้พบเห็นได้บ่อยที่สุด
ส่วนวิธีที่สองก็คือทะลวงขึ้นกระดานเพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องจ่ายคะแนนสะสมบานตะไท อีกอย่างตอนที่ไต่ขึ้นกระดานยังมีการทดสอบและคัดสรรอันสุดแสนหฤโหด
โดยทั่วไปมีศิษย์ไม่กี่คนที่เลือกวิธีที่สอง หนึ่งคือคะแนนสะสมที่ต้องจ่ายมากเกินไป สองก็คือกระบวนการยากเย็นแสนเข็ญของแบบทดสอบนั้นมีมากเกินไปนั่นเอง
ไม่ต้องพูดถึงศิษย์ธรรมดา แม้แต่ศิษย์ผู้กล้าชั้นยอดเหล่านั้นก็ไม่เลือกวิธีที่สองอย่างหุนหันพลันแล่น
เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง ตอนนี้หลินสวินกำลังจะทะลวงขึ้นกระดานโดยใช้วิธีที่สอง!
“เอ๋ นั่นไม่ใช่หลินสวินหรอกหรือ เขายังไม่จากไปอีก คงไม่ใช่คิดจะทะลวงกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณหรอกกระมัง”
ระหว่างทาง ศิษย์สาขายุทธ์วิถีบางส่วนมองเห็นหลินสวินเข้าใกล้สถานที่ตั้งของกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ ต่างพากันอดตื่นตระหนกไม่ได้
“เจ้าหมอนี่ยังไม่ยอมเลิกราจริงๆ สินะ เมื่อกี้ก็ตกเป็นเป้าสายตาครั้งใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะไปทะลวงขึ้นกระดานอีก นี่เขาต้องการก่อเรื่องหรือไร”
“น่าชังนัก เด็กนี่วางมาดโอหังเกินไป เมื่อครู่บนลานแสดงยุทธ์นั่นยังไม่สาแก่ใจพอหรือ ยังคิดจะไปอวดศักดากับกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณอีก ช่างไม่เห็นพวกเราชาวสาขายุทธ์วิถีอยู่ในสายตาเลยจริงๆ!”
“จะพูดแบบนี้ก็ไม่ได้ หลันอวี่อยู่อันดับห้าบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ ยังพ่ายแพ้ภายใต้เงื้อมมือของเขาเลย หากอนุมานเช่นนี้ บนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณนั่นก็ต้องมีที่ยืนให้เขาสักที่แหละน่า”
“แต่ว่าเขาไปทะลวงกระดานเพียงลำพัง เงื่อนไขการทดสอบเข้มงวดหฤโหด เผลอๆ ต่อให้เป็นเขาก็ยังยากจะประสบความสำเร็จได้เลื่อนขึ้นไปอยู่บนนั้น”
“ไป ไปดูกัน!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทั่วสารทิศ ก่อให้เกิดการถกเถียงกันหนึ่งระลอก ศิษย์จำนวนมากถูกดึงดูดความสนใจ ต่างทยอยรุดหน้าไปบนยอดเขามหาสมุทรวิญญาณ
ผ่านประสบการณ์การต่อสู้ศึกแล้วศึกเล่าในลานแสดงยุทธ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ทัศนคติของศิษย์พวกนี้ที่มีต่อหลินสวินล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย
ต่อให้ไม่สมัครใจ พวกเขาเองก็ไม่อาจไม่ยอมรับว่าหลินสวินเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกยุทธ์คนหนึ่ง ครอบครองพลังต่อสู้อันเหนือจินตนาการ
ต่อให้เทียบกับในสาขายุทธ์วิถี ก็ยังนับเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน
ทว่าพวกเขากลับไม่ได้เห็นด้วยต่อความประพฤติของหลินสวิน ต่างคิดว่าหลินสวินบ้าคลั่งเกินไป ไม่เห็นใครในสายตา ขวางโลกไร้ยางอาย วาจาโอ้อวด หยิ่งผยองเอาแต่ใจ ลักษณะนิสัยน่ากังวล!
เพราะฉะนั้นตอนที่สังหรณ์ว่าหลินสวินจะไปทะลวงกระดาน ศิษย์เหล่านี้จึงรู้สึกว่าถูกปลุกปั่นอีกครั้ง ต่างติดตามไปด้วยความรู้สึกเป็นปรปักษ์
พวกเขาอยากดูเสียหน่อยว่าหลินสวินจะอวดดีไปถึงเมื่อไรกันแน่!
……
ยอดเขามหาสมุทรวิญญาณ
ทันทีที่มาถึงหลินสวินพลันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายเก่าแก่ที่พุ่งปะทะใบหน้า ยอดเขานี้ไม่สูงเท่าใดนัก และก็ไม่ได้งดงาม ทว่ากลับเปี่ยมด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลา เสมือนว่าหยัดยืนอยู่จุดนี้เป็นเวลาเนิ่นนานนับไม่ถ้วนแล้ว
ตามคำเล่าลือ ยอดเขาแห่งนี้คงรอดสืบต่อมาจากสมัยโบราณกาลอย่างแท้จริง ภายในแฝงเร้นพลังลึกลับยากคาดเดาเอาไว้ ถูกเจ้าสำนักคนปัจจุบันกลั่นหลอมด้วยฝีมือชั้นยอด เคลื่อนย้ายและสะกดไว้ ณ ที่แห่งนี้
บนยอดเขามีป้ายหินแผ่นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ สูงนับสิบจั้ง ดำขลับทั้งผืน มีแสงสีทองอร่ามลอยเอื่อยอยู่ เรืองรองเจิดจ้า ย้อมอากาศให้กลายเป็นสีเหลืองทอง เจิดจรัสศักดิ์สิทธิ์
บนป้ายหินประทับรายชื่อของศิษย์หนึ่งร้อยอันดับแรกในกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเอาไว้ แต่ละชื่อล้วนแสดงถึงบุคคลผู้กล้าในสาขายุทธ์วิถี
สำหรับศิษย์สาขายุทธ์วิถีแล้ว การครอบครองพื้นที่หนึ่งบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ นับเป็นเกียรติยศใหญ่หลวงอย่างหนึ่งโดยไร้ข้อกังขา
นั่นเป็นสิ่งที่แสดงถึงฐานะ ชื่อเสียงและตำแหน่งรูปแบบหนึ่ง!
หลินสวินปีนขึ้นไปบนเขา ไม่นานก็มาถึงเบื้องหน้าของป้ายหินเก่าแก่นั้น
“ได้ยินว่าป้ายหินนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของสำนักโบราณแห่งหนึ่งในสมัยโบราณกาล สามารถหยั่งถึงพลังการต่อสู้ พรสวรรค์และศักยภาพของผู้ฝึกปราณ อัศจรรย์หาใดเปรียบ จากระยะเวลาหลายพันปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสำนักศึกษามฤคมรกตมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่ามีผู้กล้าไร้เทียมทานเท่าไรที่ฝากชื่อไว้บนนี้”
สืออวี่พึมพำหนึ่งระลอก
สมบัติล้ำค่าที่หลงเหลือมาจากโบราณกาลจนถึงบัดนี้ แค่คิดก็รู้ว่าป้ายหินแผ่นนี้มีต้นกำเนิดเหนือธรรมดาแค่ไหน
“หืม? เหตุใดถึงมีคนล่วงหน้ามาก่อนแล้ว”
ทันใดนั้นหลินสวินสัมผัสได้ว่าเบื้องหน้าป้ายหินมีชายหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ เขาหันหน้าเข้าหาป้ายหิน หันหลังให้ฝูงชน เผยเพียงเงาหลังสายหนึ่งเท่านั้น
เส้นผมสีดำของเขาทิ้งตัวสลวย หลังเอวเหยียดตรงดั่งหอกดุจพู่กัน ทั่วสรรพางค์กายอาบอยู่ในแสงสีทองอ่อนๆ ดูประหนึ่งภาพมายาก็ไม่ปาน ประสานสอดคล้องกับลำแสงสีทองที่ลอยเอื่อยออกจากป้ายหิน หากไม่พินิจให้ถี่ถ้วนก็ยากจะสังเกตเห็นการมีตัวตนของเขา
มีคนเลือกทะลวงขึ้นกระดานเพียงลำพังก่อนหน้าหลินสวินอีกหรือ
พวกสืออวี่ หนิงเหมิง เย่เสี่ยวชี กงหมิงต่างก็นิ่งงันไปอย่างอดไม่ได้ โดยเฉพาะยามที่มองไปทางเงาหลังของชายชุดขาวคนนั้น ดุจดั่งว่าสิ่งที่มองเห็นไม่ใช่คนๆ หนึ่ง หากแต่เป็นร่างวิญญาณที่ผสานกับฟ้าดิน มีความทรงพลังอันไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ทำให้หัวใจพวกเขาต่างเกิดความสั่นคลอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์