Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 481

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 481 ดุจดั่งปาฏิหาริย์
ตอนที่ 481 ดุจดั่งปาฏิหาริย์
โดย
ProjectZyphon
กู้อวิ๋นถิงหยัดกายขึ้น เงาร่างสูงโปร่งประหนึ่งเทพลงมาเกิด รายล้อมด้วยประกายแสงสีทองดั่งภาพฝัน ผมยาวสีดำอ่อนนุ่มปลิวไสว ท่วงท่าโดดเด่นเป็นสง่า

เขาสวมชุดขาวทั้งตัว สองมือไพล่หลัง ค่อยๆ เงยศีรษะมองไปยังป้ายหิน มีความทรงพลังไร้รูปอันยากบรรยาย

ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือบุคคลไร้เทียมทานผู้หนึ่งอย่างแน่นอน!

สายตาของคนทั่วลานล้วนถูกดึงดูด โดยเฉพาะศิษย์สาขายุทธ์วิถีพวกนั้น แต่ละคนต่างฉายแววเลื่อมใสและตั้งตารอ

ปิดด่านห้าปี บัดนี้ปรากฏตัวออกมาแล้ว กู้อวิ๋นถิงต้องมาช่วงชิงอันดับหนึ่งบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณแน่!

ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบงัน กู้อวิ๋นถิงเริ่มขยับตัว ย่างเท้าออกไปหนึ่งก้าว เปลวไฟสีทองสายแล้วสายเล่าพวยพุ่งทั่วผิวปฐพี ลำแสงเจิดจรัสผลิบาน

พรึบ!

เขายื่นมือเรียวยาวขาวเนียนออกไปหนึ่งข้าง เคาะเบาๆ ที่ผิวป้ายหิน เพียงชั่วครู่ป้ายหินเก่าแก่แผ่นนั้นก่อเกิดความผันผวนผิดวิสัย แสงพิรุณสาดกระเซ็น ส่องสว่างสุกใส ปกคลุมทั่วสรรพางค์กายของกู้อวิ๋นถิงเอาไว้

ตูม!

พลันเห็นว่าบนป้ายหินมีแสงเรืองรองพุ่งพรวด เกิดเป็นคลื่นกระเพื่อมแผ่ขยายไม่มีที่สิ้นสุด ประกายแสงแวววาวซัดสาดราวกับมหาสมุทร บาดตาหาใดเปรียบ

“อันดับหนึ่ง! พริบตาเดียวก็จะชิงอันดับหนึ่งได้! ศิษย์พี่กู้อวิ๋นถิงทรงพลังเกินไปแล้ว!”

สาวน้อยคนหนึ่งร้องเสียงแหลมขึ้น ตื่นเต้นจนพวงแก้มเรื่อแดง นัยน์ตาเป็นประกายพราวระยับ เปี่ยมด้วยความหลงใหลคลั่งไคล้

คนอื่นๆ พลอยตื่นตะลึงไปด้วย แวบเดียวพวกเขาก็มองเห็นว่าชื่อของกู้อวิ๋นถิงดุจดั่งดวงทิวาแผดเผา กระโจนข้ามขึ้นสู่ตำแหน่งอันดับหนึ่ง!

นัยน์ตาสีดำของหลินสวินล้ำลึก ผุดแววประหลาดขึ้นมา แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจไม่ยอมรับ ในระดับมหาสมุทรวิญญาณกู้อวิ๋นถิงบรรลุขั้นจุดสูงสุดไปแล้ว

สิ่งที่น่าทึ่งมากที่สุดคือเขายังอ่อนวัยมาก เป็นดั่งดวงตะวันแรกทะยาน คนแบบนี้ฟ้าลิขิตให้เปล่งประกายเจิดจรัสอยู่บนหนทางแห่งมหามรรค

ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนเหนือความคาดหมายคือ ทุกอย่างนี้ยังไม่สิ้นสุด!

ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนโครมครันหนึ่งระลอก กึกก้องราวสัจจรรยามหามรรค ซัดสะเทือนจิตวิญญาณ และบนป้ายหินเก่าแก่นั้นพลันเริ่มกลายรูปโดยบัดดล แต่ละชื่อล้วนถูกกลบมิด หลังจากนั้นก็ผุดเผยรายชื่อแปลกๆ ชื่อแล้วชื่อเล่าขึ้นมาอีกครั้ง!

สิ่งที่แตกต่างจากไปเมื่อครู่โดยสิ้นเชิงคือ รายชื่อทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นมาใหม่เหล่านี้ต่างสว่างไสวดั่งดวงอาทิตย์แผดจ้า อีกทั้งแต่ละชื่อยังคล้ายสัญลักษณ์มหามรรค เบ่งบานด้วยประกายแสงตราบชั่วกัลปาวสาน

นี่มัน…

ผู้ชมสูดลมหายใจเย็นวาบ เบิกตากว้าง แต่ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใดพวกเขาก็ยังไร้หนทางจะมองเห็นรายชื่อบนพื้นผิวป้ายหินอย่างแจ่มชัดอยู่ดี!

รายชื่อเหล่านั้นดูคล้ายถูกปกคลุมไปด้วยพลังซ่อนเร้น ลำแสงแวววาวพราวระยับ ปราศจากหนทางจะสอดส่องได้!

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่”

บางคนงงงวย คนในลานส่วนใหญ่เป็นศิษย์สาขายุทธ์วิถีทั้งสิ้น ทว่าก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่พวกเขาได้เห็นกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติเช่นนี้

รายชื่อปัจจุบันหนึ่งร้อยชื่อที่อยู่บนนั้นหายวับ จากนั้นก็ปรากฏชื่อเจิดจ้าหนึ่งร้อยชื่อที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดขึ้นมาอีกครั้ง เห็นได้ว่านี่มันลึกลับและน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงอะไร

“นี่…คงไม่ใช่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณในตำนานหรอกกระมัง?”

ใครบางคนปริปากเสียงสั่น

กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ!

ครั้นได้ยินชื่อนี้เข้า ศิษย์ส่วนใหญ่ทั้งลานประดุจถูกอสนีบาตพุ่งโจมตี ฉุกคิดขึ้นได้โดยพลัน ในตำนานบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณยังมีรายนามที่ลึกลับยิ่งกว่าอยู่ ชื่อที่สามารถเรียงอยู่บนนั้นได้ ล้วนเป็นบุคคลโดดเด่นที่สุดในเวลาหลายพันปีมานี้

แต่ละชื่อล้วนเป็นเพชรยอดมงกุฎแห่งใต้หล้า สุดแสนอัศจรรย์!

กล่าวโดยสรุป ชื่อที่ประทับลงบนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณนี้ คือหนึ่งร้อยรายชื่อของผู้โดดเด่นที่สุดนับตั้งแต่สำนักศึกษามฤคมรกตก่อตั้งขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาหลายพันปีนั่นเอง!

หลายพันปีมานี้ ในสำนักศึกษามฤคมรกตไม่รู้ว่ามีศิษย์ดั่งผู้กล้าถือกำเนิดสักกี่มากน้อย ทว่าท้ายที่สุดผู้ที่จะฝากรายชื่อไว้บนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณได้ กลับมีเพียงแค่หนึ่งร้อยคนเท่านั้น!

ด้วยเหตุนี้ก็สามารถคิดได้ว่า หากหมายจะไต่เต้าไปบนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายดายสักนิด

อย่างน้อยๆ ในสำนักศึกษามฤคมรกตก่อนหน้านี้ ยังไม่มีสักคนที่สามารถไต่เต้าไปอยู่บนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณได้เลย!

มิเช่นนั้นคงกลายเป็นเป้าดึงดูดความสนใจของทั้งสำนักไปตั้งนานแล้ว!

แต่ในวันนี้ การปรากฏกายของกู้อวิ๋นถิงกลับก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ โดยการสำแดงรายชื่ออันดับบนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ

นี่หมายความว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของกู้อวิ๋นถิง สามารถไต่เต้าขึ้นสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับผู้กล้าหนึ่งร้อยคนที่โดดเด่นที่สุดเป็นเวลานานหลายพันปีได้ใช่หรือไม่

ทั่วทั้งลานตกตะลึง สภาพจิตใจของศิษย์สาขายุทธ์วิถีเหล่านั้นต่างพลุ่งพล่าน ราวกับเป็นสักขีพยานได้เห็นการเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นต่อหน้าต่อหน้า ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย

“สัตว์ประหลาดอีกตนสินะ”

สืออวี่พึมพำหนึ่งประโยค

พวกหนิงเหมิง เย่เสี่ยวชี กงหมิงเห็นด้วยอย่างยิ่ง กู้อวิ๋นถิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว เรียกได้ว่าเย้ยฟ้า หากสามารถฝากชื่อไว้บนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณได้ ไม่พ้นหนึ่งวัน จะต้องสั่นสะเทือนสำนักศึกษามฤคมรกต สร้างชื่อทั่วสี่สมุทร ทั้งโลกต้องผวาแน่นอน!

“กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ…”

หลินสวินเงยหน้าขึ้นมองไปยังป้ายหินที่แสงทองพวยพุ่งนั้น แม้แต่เขาเองยังยากจะมองเห็นว่าร้อยชื่อแปลกๆ นั่นเป็นของใครกันแน่

กู้อวิ๋นถิงในเวลานี้รอบกายถูกปกคลุมด้วยแสงพิรุณ ศักดิ์สิทธิ์เหนือชั้น

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เสียงธรรมดั่งเสียงแห่งสวรรค์ลอยออกมาจากป้ายหิน อึกทึกกึกก้อง ประดุจระฆังยามเช้ากลองยามเย็นในโบราณกาล ข้ามผ่านสายธารแห่งกาลเวลา ดังก้องขึ้นมาในสำนักศึกษามฤคมรกตในวันนี้!

เหง่งหง่าง~ เหง่งหง่าง~~

ชั่วขณะนี้ทั่วสรรพางค์กายของหลินสวินแข็งทื่อ สัมผัสได้อย่างเฉียบคมถึงเจตจำนงอันน่าหวาดกลัวสายแล้วสายเล่าประดังเข้ามาจากสี่ด้านแปดทิศ

ไม่ต้องสงสัยเลย เจตจำนงอันน่ากลัวเหล่านั้นจะต้องเป็นเหล่าสัตว์ประหลาดเก่าแก่ตนแล้วตนเล่าในสำนักศึกษามฤคมรกตที่ปลดปล่อยออกมาเป็นแน่ พวกเขาเองก็ตื่นตระหนกเช่นกัน!

“หนึ่งร้อยสามสิบเก้าปีที่ผ่านมา ป้ายหินปรากฏเสียงแห่งมหามรรคขึ้นมาอีกครั้ง อวิ๋นถิง เจ้าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย ปิดด่านห้าปี แค่การเคลื่อนไหวเดียวก็กระโจนขึ้นไปอยู่บนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ เคียงบ่าเคียงไหล่กับอัจฉริยะโบราณได้ วิเศษมาก!”

น้ำเสียงรำพันอันแปรปรวนสายหนึ่งดังก้องอยู่ระหว่างฟ้าดิน

ฝูงชนตกตะลึงอีกครั้ง คนจำนวนมากอึ้งค้างอยู่ตรงนั้น พวกเขาล้วนตระหนักได้ว่ากู้อวิ๋นถิงประสบความสำเร็จแล้ว! ประสบความเสร็จในการไต่ขึ้นบนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ!

ไม่นานนักแสงสีทองบนป้ายหินพลันสงบนิ่ง ไม่พลุ่งพล่านปั่นป่วนอีกต่อไป

แสงพิรุณบนเรือนกายของกู้อวิ๋นถิงสลายไป ปรากฏเงาร่างสูงโปร่งเหยียดตรงของเขา ชุดขาวโบกพลิ้ว เรือนผมสีดำปลิวไสว ดุจดั่งเทพเซียนจุติลงมา

เขาหมุนกายคล้ายจะจากไป

และในตอนนี้เอง หลินสวินจึงมองเห็นรูปลักษณ์ของกู้อวิ๋นถิงได้อย่างชัดเจนเสียที นี่คือบุรุษหล่อเหลาหมดจดคนหนึ่ง นัยน์ตากระจ่างใสราวกับดวงดาราพร่างฟ้า ชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ ท่วงท่าโดดเด่นเป็นสง่า

ยามที่เขาถือกำเนิด ได้มาพร้อมกับชะตาแห่งฟ้าดิน ครอบครองพรสวรรค์ ‘กายสุวรรณมรรคอัคคี’ และยามนี้เพียงยืนขึ้นเท่านั้นก็ทำให้ผู้คนมองออกว่าเขาคืออัจฉริยะเหนือใคร เป็นหงส์มังกรท่ามกลางมวลมนุษย์

“ศิษย์พี่กู้”

“คารวะศิษย์พี่กู้”

บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีเหล่านั้นต่างเปล่งเสียง เจือความเคารพยำเกรง เลื่อมใสศรัทธา

กู้อวิ๋นถิงทำเพียงพยักหน้า ท่าทีสงบไร้ระลอกคลื่น ก่อนจากไปอย่างแผ่วพลิ้ว ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้เปล่งเสียงเลยสักคำ

ราวกับว่าใครหรือสิ่งใดก็ตามที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ล้วนไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้

นี่เป็นท่าทีที่น่ายำเกรงและเย็นชาอย่างหนึ่ง แต่กู้อวิ๋นถิงก็มีความสามารถมากพอให้หยิ่งผยองได้ในระดับนี้จริงๆ

จนกระทั่งเงาร่างของกู้อวิ๋นถิงหายวับ บรรยากาศในลานยังคงเงียบสงัดตามเดิม คนจำนวนมากล้วนยังไม่ได้สติกลับมาจากความตกตะลังเมื่อสักครู่

“เจ้านั่นเชิดได้ที่เลยจริงๆ”

หนิงเหมิงกล่าวพึมพำ

“นั่นเพราะผู้อื่นมีต้นทุนพอจะโอ้อวด ถ้าเจ้าไม่ยอม ก็ไปไต่ขึ้นกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณสิ ข้ารับรองว่าจะกราบไหว้เจ้าเป็นคนแรกเลย”

สืออวี่เหน็บหนิงเหมิงหนึ่งประโยค

หลินสวินไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ สายตาเขาถูกป้ายหินสะกดเอาไว้ ค้นพบว่าแม้กู้อวิ๋นถิงจะจากไป รายชื่อบนป้ายหินก็ยังคงส่องแสงอร่ามด้วยตัวเอง ไม่สามารถถูกสอดแนม เห็นชัดว่าเป็นกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ ยังไม่ได้หวนสู่การจัดอันดับกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณอย่างก่อนหน้านี้

“เอ๋ รายชื่อกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณยังไม่หายไป!”

มีคนค้นพบจุดนี้เข้า เพียงประโยคเดียวเท่านั้นก็เรียกสายตาผู้ชมทั้งลานโดยพลัน คนหนุ่มจำนวนมากต่างสดชื่นกระปรี้กระเปร่า กระหายใคร่ลอง อยากลองดูสักตั้งว่าจะสามารถฝากชื่อของตนไว้บนนั้นได้บ้างหรือเปล่า

แน่นอน นี่เป็นการเฝ้าปรารถนาอย่างหนึ่งล้วนๆ

“ให้ข้าลองดูหน่อยเถอะ”

ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวไปเบื้องหน้า สูดหายใจลึกหนึ่งเฮือก ทำการเรียกรวมลมปราณทั่วสรรพางค์กาย ฝ่ามือหนึ่งกดลงบนพื้นผิวป้ายหินแผ่นนั้น

เคร้ง~

ตามมาด้วยเสียงกึกก้องหนึ่งเสียง ป้ายหินเปล่งแสง

“เป็นอย่างไรบ้าง”

สีหน้าชายหนุ่มดูมีความหวัง รีบร้อนเงยหน้าขึ้นกวาดหารายชื่อของตน

ทว่าไม่นานเขาก็ต้องผิดหวัง จนกระทั่งป้ายหินหวนสู่ความสงบนิ่ง ก็ยังไม่มีอะไรเกินขึ้น

“ข้าว่านะพี่ชาย แม้แต่ร้อยรายชื่อกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเจ้ายังไต่ไม่ถึง ยังกล้าฝันจะฝากชื่อบนกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณอีก ความอาจหาญช่างอู้ฟู่จริงๆ เลยนะ”

หนิงเหมิงส่งเสียงหัวเราะหยันออกมา

ทันใดนั้นชายหนุ่มพลันหน้าแดงลามไปถึงคอ ก่อนหมุนกายออกห่างป้ายหินด้วยโทสะ

ทว่าคราวนี้ศิษย์คนอื่นๆ ต่างกลับสู่ความสงบแล้ว ปัดเป่าภาพเพ้อฝันไม่สมจริงภายในใจออกไป นั่นเป็นถึงกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณเชียวนะ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถไต่เต้าได้อย่างแน่นอน

อีกอย่างพวกเขาค้นพบแล้วว่ากระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณค่อยๆ เลือนหายไป ก่อนจะปรากฏชื่อหนึ่งร้อยชื่อก่อนหน้านี้ของกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณขึ้นมาอีกครั้ง

อันดับแรกยังคงเป็นจ้าวจิ่งเหวินตามเดิม เพียงแต่ไม่มีชื่อของกู้อวิ๋นถิงปรากฏอีกแล้ว เห็นชัดว่าเขาไต่เต้าสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ และแยกตัวออกจากกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณแล้วนั่นเอง

สิ่งนี้ทำให้ศิษย์จำนวนมากในลานสะเทือนใจอีกระลอกหนึ่ง

“หลินสวิน เจ้ารุดหน้ามาหนนี้ไม่ใช่ว่าอยากไต่กระดานเหมือนกันหรือไง ทำไมไม่เห็นลงมือสักที ถูกศิษย์พี่กู้อวิ๋นถิงทำเอาตกใจจนหัวหดแล้วหรือ”

ทันใดนั้นมีคนเปล่งเสียง ขานชื่อหลินสวินคล้ายจะยั่วยุ

“นั่นน่ะสิ เจ้าก็เข้าไปลองสักหน่อยประไร เผลอๆ อาจจะสร้างปาฏิหาริย์เหมือนกันก็ได้นะ แต่เห็นชัดว่าความแข็งแกร่งเท่านี้ของเจ้าน่ะ ถูกลิขิตให้ไร้หนทางเทียบเทียมศิษย์พี่กู้อวิ๋นถิงแล้วก็แค่นั้น”

“บอกกี่ครั้งครั้งกี่หนแล้ว อย่าเอาเขามาเทียบกับศิษย์พี่กู้อวิ๋นถิง เขาไม่คู่ควร”

ศิษย์เหล่านั้นเห็นชัดเลยว่าจงใจยั่วยุและถากถาง เริ่มปฏิบัติการกระตุ้นหลินสวินในเชิงลบเต็มเหนี่ยว

ในมุมมองของเขา บางทีวันนี้หลินสวินอาจจะไต่เต้าสู่กระดานทองคำมหาสมุทรวิญาณได้ แต่เขาหมายจะอาศัยเรื่องนี้มาชิงดีชิงเด่น กลับทำไม่ได้เลยสักนิด

เนื่องจากมีมหาบรรพตลูกนี้อย่างกู้อวิ๋นถิงอยู่ ไม่ว่าการสำแดงของหลินสวินจะยอดเยี่ยมเพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไต่เต้าสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณได้!

กระทั่งว่า ยังไร้ซึ่งหนทางจะเทียบชั้นกับจ้าวจิ่งเหวินอันดับหนึ่ง และจั่วอวี้จิงที่ได้อันสอบสองบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณด้วยซ้ำ!

แน่นอน นี่เป็นความคิดเห็นของศิษย์สาขายุทธ์วิถีพวกนั้น

“หลินสวิน เจ้าพวกนี้มีตาหามีแววไม่ จงใจทับถมเจ้า ถ้าเปลี่ยนเป็นข้าคงทนไม่ไหวแน่”

หนิงเหมิงร้องอย่างมีโทสะ

“ข้ามาเก็บคะแนนสะสมต่างหาก ไม่ได้มาพิสูจน์ให้ใครเห็นเสียหน่อย”

หลินสวินกลอกตา

“เก็บคะแนนสะสม…”

ศิษย์เหล่านั้นนิ่งอึ้ง กระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด ทว่าไอ้หนุ่มนี่กลับมาเพื่อเก็บคะแนนสะสมหรือ

นี่เป็นการดูหมิ่นกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณอย่างหนึ่ง ทำเอาผู้คนโกรธจนผมเผ้าชูชัน!

“หลินสวิน เจ้ายังมีศักดิ์ศรีในฐานะผู้ฝึกปราณคนหนึ่งบ้างหรือเปล่าเจ้านี่มันหยาบคายนัก ทำให้คนชังน้ำหน้าเสียจริง!”

ศิษย์เหล่านั้นแผดเสียงร้องขึ้นมาอย่างเกรี้ยวโกรธ

หลินสวินคร้านจะไยดีคนพวกนี้แล้ว ครุ่นคิดสักประเดี๋ยวก่อนถามพวกสืออวี่ “ถ้าชื่อสามารถไต่ขึ้นกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ ก็จะได้รับคะแนนสะสมที่มากยิ่งขึ้นใช่หรือเปล่า”

“เอ่อ…”

คราวนี้พวกสืออวี่ หนิงเหมิงต่างแน่นิ่งกันหมด

บอกตามตรง พวกเขาเองก็ไม่แน่ใจ เนื่องจากกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณนั้นพิเศษมากเกินไป อีกทั้งยังไม่เคยปรากฏมาตั้งหลายปีแล้ว ใครก็ไม่สามารถบอกแน่ชัด ว่าหากชื่อไต่เต้าไปบนนั้นแล้วจะสามารถรับคะแนนสะสมที่สอดคล้องกันได้หรือไม่

ส่วนศิษย์สาขายุทธ์วิถีพวกนั้นล้วนอดโมโหไม่ได้ นั่นเป็นถึงกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณเชียวนะ! เป็นเกียรติยศเหนือสุด ศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถล่วงละเมิด ไหนเลยจะเอามายึดโยงกับคะแนนสะสมได้?

เจ้าหลินสวินคนนี้น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์