ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้หลินสวินเผยพลังต่อสู้โหดร้ายป่าเถื่อนเหลือประมาณบนลานแสดงยุทธ์ เกรงว่าพวกเขาคงเข้าไปสั่งสอนหลินสวินตั้งนานแล้ว
พวกเขาต่างไม่เคยเห็นคนที่โอหังหยาบกระด้างเช่นนี้มาก่อน!
หลินสวินหาได้ใส่ใจพวกเขาไม่ ยังคงยืนอยู่หน้าป้ายหิน คิดคำนวณในใจ
ก่อนหน้านี้เอาชนะสืออวิ๋นเผิง เซวียอวิ้น จินจู๋หลิว หลันอวี่รวมสี่คน ทำให้เขาได้ป้ายประจำตัวมาสี่แผ่น คะแนนที่เพิ่มขึ้นรวมกันแล้วน่าจะใกล้ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยคะแนน ยังห่างจากห้าพันคะแนนอยู่มาก
พูดได้ว่าอย่างน้อยเขาต้องหาอีกสามพันห้าร้อยคะแนนถึงจะสามารถก้าวเข้าสู่ ‘การทดสอบบันไดสวรรค์’ ได้
หลินสวินทอดถอนใจ ช่างยุ่งยากจริงๆ
“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าการก้าวขึ้นสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณจะได้คะแนนหรือไม่ แต่ข้ารู้ว่าหากสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณก็จะได้รับรางวัลสองพันคะแนนทันที!”
สืออวี่เริ่มพูด
“ที่จริงแล้ว มิสู้เจ้าลองก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งดูสิ คว้ารางวัลที่เหลือมาก่อน หลังจากนั้นค่อยดูว่าจะไต่เข้ากระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณต่อหรือไม่”
หนิงเหมิงเสนอแนะอย่างไม่ใส่ใจ
หลินสวินคล้อยตาม สองพันคะแนนถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
“โอหังนัก พวกเจ้าเห็นอันดับหนึ่งแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเป็นสิ่งใดกัน นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็สามารถก้าวขึ้นไปได้หรือไง”
ศิษย์สาขายุทธ์วิถีคนหนึ่งตะโกนขึ้น
“เจ้าคนถ่อยพวกนี้ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
ศิษย์คนอื่นส่งเสียงเอะอะขึ้นบ้าง พวกเขาต่างโกรธแค้นยิ่งนัก แต่ไรมาหลินสวินก็เย่อหยิ่งพอตัวแล้ว คิดไม่ถึงว่าคำพูดคำจาของสืออวี่และหนิงเหมิงจะโอหังเช่นนี้ ราวกับว่าการแย่งชิงอันดับหนึ่งแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเป็นเรื่องที่ทำได้ตามใจ
“หากพวกเจ้าไม่พอใจ มิสู้มาท้าพนันกันเป็นอย่างไร ถ้าข้าทำได้ พวกเจ้าก็นำคะแนนที่มีทั้งหมดให้ข้า หากข้าแพ้คะแนนที่ข้ามีก็เป็นของพวกเจ้า”
หลินสวินพูดพลางยิ้มกริ่ม แววตาจ้องมองไปยังบรรดาศิษย์เหล่านั้น
พวกสืออวี่ หนิงเหมิงต่างนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เพื่อที่จะได้คะแนนมา เจ้าหมอนี่สติฟั่นเฟือนถึงขั้นท้าพนันแล้ว!
เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่
แต่บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีเหล่านั้นโกรธแทบถึงขีดสุดแล้ว ยามหลินสวินอยู่บนลานแสดงยุทธ์ สีหน้าท่าทางราวพ่อค้าหน้าเลือด เล่นกับชีวิตเพื่อคะแนนเท่านั้น
มาวันนี้เขายังท้าพนันเพื่อให้ได้คะแนนมาอีก นี่ถ้าไม่ใช่พ่อค้าหน้าเลือดจะเป็นอะไรไปได้
พวกเขาสงสัยนักว่าคนแบบหลินสวินกลายมาเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณได้อย่างไร ทั้งยังประสบความสำเร็จเฉกเช่นทุกวันนี้ได้อย่างไร ในสายตาเขานอกจากความมั่งคั่งแล้ว แม้แต่หน้าตา ศักดิ์ศรี ความน่าเกรงขามก็ไม่ต้องการเสียแล้วกระมัง
“ข้าเดิมพันกับเจ้าเอง!”
ศิษย์คนหนึ่งลุกขึ้น หยิบป้ายประจำตัวของตนออกมาอย่างกราดเกรี้ยว “ข้าอยากลองดูนักว่า เจ้าหนูอย่างเจ้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่!”
“ข้าร่วมด้วย”
“เรื่องดีเช่นนี้จะขาดข้าไปได้อย่างไร”
ภายในเวลาอันรวดเร็วก็มีศิษย์กว่าห้าหกคนลุกขึ้น แต่ละคนต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันหมายท้าพนันกับหลินสวิน ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่เชื่ออยู่แล้วว่าหลินสวินจะแย่งชิงอันดับหนึ่งมาได้
ไม่ดูหน่อยหรือว่าอันดับหนึ่งตอนนี้คือใคร
เป็นจ้าวจิ่งเหวิน! บุคคลผู้เป็นดั่งกษัตริย์โฮ่วอี้ในตำนาน เปล่งประกายราวดวงตะวันอันโชติช่วง!
คนหยาบคายจองหองเช่นหลินสวินถูกกำหนดไว้เป็นเพียงไข่มุกเม็ดเล็กๆ เท่านั้น มิอาจเทียมสู้แสงตะวันจันทรา
ศิษย์คนอื่นต่างสงบนิ่งลงไม่น้อย แม้แต่อันดับห้าแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณอย่างหลันอวี๋ยังพ่ายแพ้ในกำมือหลินสวิน นี่เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าหลินสวินแข็งแกร่งเพียงใด
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่กล้าผลีผลามร่วมด้วย
“พวกเจ้าไม่เข้ามาเล่นด้วยกันรึ”
ใบหน้าหล่อเหลาของหลินสวินเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสอ่อนโยนอบอุ่น มองมาทางศิษย์เหล่านั้น
ที่น่าเสียดายคือบรรดาศิษย์พวกนี้ถึงแม้จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแต่ไม่ถูกหลอก ในทางกลับกันเห็นหลินสวินนิ่งสงบท่าทางมั่นใจเช่นนั้น ในใจพวกเขารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
“ช่างน่าเสียดายนัก…”
หลินสวินพูดเสียงแผ่วกับตัวเอง สูดหายใจเข้าคราหนึ่ง ดวงตาดำขลับมองไปยังป้ายหิน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง
ตัวเขาในขณะนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน กิริยาท่าทางดั่งหุบเหวลึก สงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน ครอบคลุมไปด้วยท่วงท่าทระนงสง่างาม
พวกสืออวี่ หนิงเหมิงมองอย่างจดจ่อ เมื่อครู่ยังพูดคุยหัวเราะด้วยกัน แต่พอหลินสวินเตรียมจะไต่ขึ้นอันดับอย่างเอาจริง ในใจของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเล็กน้อย
อันที่จริงสิ่งที่ป้ายหินทดสอบมิได้มีเพียงพละกำลังเท่านั้น ยังมีพรสวรรค์และพลังแฝง แต่เท่าที่พวกเขาทราบตั้งแต่กำเนิดหลินสวินประสบเหตุการณ์เลวร้าย ถูกพรากคุณลักษณะพรสวรรค์หายากอย่าง ‘หุบเหวกลืนกิน’ ไป
นั่นหมายความว่าอย่างน้อยที่สุดสำหรับเรื่องพรสวรรค์ เกรงว่าหลินสวินจะเสียเปรียบอยู่มาก ไม่อาจเทียบกู้อวิ๋นถิงผู้มี ‘กายสุวรรณมรรคอัคคี’ ได้
“ฮึ ดูทำท่าทำทางเข้า!”
เห็นหลินสวินเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีต่างยิ้มเยาะ พวกเขาต่างรอดูความสนุกจากหลินสวินกันทั้งนั้น
วู้ม!
หลินสวินยื่นมือขวาออกมา สงบจิตใจประทับฝ่ามือลงบนพื้นผิวป้ายหิน
เพียงชั่วพริบตาเดียว พื้นผิวป้ายหินสีดำสนิทปรากฏแรงกระเพื่อมยากหยั่งถึงแลดูมหัศจรรย์ แสงสีทองส่องประกายลอยล่องราวกระแสน้ำขึ้นลง
เห็นแสงแพรวพราวสุดพรรณนาพวยพุ่งออกมาจากใต้ป้ายหินอย่างไม่คาดฝัน พุ่งทะยานขึ้นมา เพียงพริบตาเดียวก็ไล่มาถึงสิบอันดับแรก
“นี่มัน…”
บรรดาศิษย์เหล่านั้นต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง ความเร็วในการเลื่อนระดับนี้เร็วเกินไปแล้วกระมัง
พวกสืออวี่ หนิงเหมิงเองก็อ้าปากค้าง ถึงแม้ไม่ใช่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ แต่แค่กระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณนี้ก็ไม่ธรรมดาเอาเรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์