ในห้องโถงใหญ่ จั่วอวี้จิ่งหัวเราะลั่นอย่างมีความสุข รูปร่างของเขาสูงโปร่งผึ่งผาย นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น มีบรรยากาศแห่งความถือดีอย่างหนึ่ง
ใกล้ๆ พวกหลันอวี่ จินจู๋หลิว เซวียอวิ้น สืออวิ๋นเผิง ต่างก็ผุดรอยยิ้มพรายบนใบหน้า
“ครั้งนี้พวกเราระดมกำลังทั้งหมด มีอานุภาพเกรียงไกร มวลชนรู้สึกดุเดือดเลือดพล่าน ดึงดูดความสนใจจากบุคคลสำคัญในสำนักศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลินสวินคงยากจะหนีจากหายนะเป็นแน่แท้!”
จินจู๋หลิวปริปากอย่างเยียบเย็น
“นี่เรียกว่ากรรมใดใครก่อกรรมนั่นย่อมตามสนอง หลินสวินก็ช่างบ้าดีเดือดได้ที่จริงๆ แม้แต่องค์หญิงหลิงหวงกับฉีอวี้ยังกล้าล่วงเกิน นี่ไม่ใช่ผู้อมตะเบื่อน้ำอมฤต คร้านจะมีชีวิตอยู่แล้วหรอกหรือ”
สืออวิ๋นเผิงหัวเราะเย้ยหยัน
“หลินสวินคนนั้นมีความเชี่ยวชาญด้านการสลักวิญญาณไม่ธรรมดา ในด้านการฝึกยุทธ์ก็สุดแสนสะดุดตา ถ้าหากสำนักศึกษาไม่ยอมขับไล่เขาออก แล้วควรจะทำอย่างไรดี”
ทันใดนั้นหลันอวี่พลันขมวดคิ้วเอ่ยถาม
“เป็นไปไม่ได้”
จั่วอวี้จิ่งมั่นใจเต็มเปี่ยม “ครั้งนี้ข้ากับศิษย์พี่จ้าวจิ่งเหวินร่วมกันเชิญผู้อาวุโสบางส่วนจากสำนักศึกษามาออกหน้า กดดันสำนักศึกษา เชื่อว่าสำนักศึกษาคงไม่ยอมผิดใจกับพวกเราเพื่อหลินสวินเพียงคนเดียวแน่”
คนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นต่างก็อดสั่นสะท้านในใจไม่ได้ คล้ายกับนึกไม่ถึงเช่นกันว่าเพื่อขับไล่หลินสวินให้สิ้นซาก จั่วอวี้จิ่งและจ้าวจิ่งเหวินยังเชิญบุคคลสำคัญบางท่านมาด้วย!
จากนั้นพวกเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ ครั้งนี้หลินสวินต้องประสบภัยพิบัติจริงๆ แล้ว
ไม่นานนักใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาจากนอกโถงใหญ่ เขาสวมชุดหยกทั้งร่าง นัยน์ตาดั่งดวงดารา คิ้วกระบี่พาดเฉียง ยืนสองมือไพล่พลังอยู่ตรงนั้น มีกลิ่นอายแห่งวีรบุรุษอันน่าทึ่ง
เป็นลูกหลานแห่งราชวงศ์…จ้าวจิ่งเหวิน!
พร้อมกันนั้นเขายังเป็นผู้กล้าชั้นแนวหน้าในสาขายุทธ์วิถี และก่อนหน้านี้เคยครองอันดับหนึ่งในกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเรื่อยมาอีกด้วย
เพียงแต่หลังจากที่กู้อวิ๋นถิงออกด่าน และหลินสวินหวนสู่สำนักศึกษามฤคมรกตอีกครั้ง อันดับของเขาก็ถูกทำลายลง ปัจจุบันร่วงไปอยู่อันดับที่สอง
“คารวะศิษย์พี่จิ่งเหวิน”
ทุกคนต่างไม่กล้าเพิกเฉย พากันลุกขึ้นคารวะ
“เรื่องดำเนินไปถึงไหนแล้ว”
จ้าวจิ่งเหวินกล่าวถาม
“หลินสวินต้องพ่ายแพ้แน่แล้ว ในวันที่เขาถูกขับไล่ ก็คือวันตายของเขา!”
จั่วอวี้จิ่งเอ่ยตอบอย่างเฉียบขาด
“อืม”
เห็นได้ชัดว่าจ้าวจิ่งเหวินเยือกเย็นมาก วางเฉยไม่ไหวกระเพื่อม
“ศิษย์พี่จิ่งเหวิน ทางด้านองค์หญิงหลิงหวงและศิษย์พี่ฉีอวี้จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบสักหน่อยหรือไม่”
เซวียอวิ้นถาม
“ไม่ต้องหรอก แค่หลินสวินคนเดียวเท่านั้น อีกประเดี๋ยวก็ตายแล้ว ไยต้องเปลืองกำลังพลด้วยเล่า รอเรื่องราวปิดม่านลงค่อยบอกพวกเขาก็เป็นไร”
จ้าวจิ่งเหวินกล่าวถึงตรงนี้ สายตาพลันมองไปที่จั่วอวี้จิ่งพลางว่า“ข้าได้ยินมาว่าตระกูลจั่วของพวกเจ้ามีความแค้นกับตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิต ในเมื่อตัดสินใจว่าจะกำจัดหลินสวินแล้ว ตระกูลของเจ้าจะลงมือต่อกรภูเขาชำระจิตด้วยใช่หรือไม่”
ใบหน้าจั่วอวี้จิ่งผุดแววจนปัญญา “ยามนี้ภูเขาชำระจิตปิดประตูปลีกวิเวก ตัดขาดจาดโลกภายนอก ในช่วงสั้นๆ นี้เกรงว่าคงยากต่อกรกับพวกเขา”
“ไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่อาจซ่อนตัวอยู่ในนั้นได้ตลอดชีวิต ตอนที่หลินสวินตาย พวกเขาก็จะเป็นฝูงมังกรไร้หัว ไม้ล้มวานรเตลิด ล่มสลายไปเองโดยไม่ต้องโจมตี”
จ้าวจิ่งเหวินไตร่ตรองพลางกล่าว
“ผู้อาวุโสตระกูลข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน”
จั่วอวี้จิ่งพลันยิ้มขึ้นมา
“ศิษย์พี่จั่ว ท่าไม่ดีแล้ว!”
ทันใดนั้นเสียงร้องแหลมเสียงหนึ่งพลันดังขึ้น เจ้าไฝหลี่เซียวเฟยวิ่งถลาเข้ามา ท่าทางดูร้อนรนกังวลใจ
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
จั่วอวี้จิ่งมุ่นคิ้ว
“ทางสำนักศึกษาทำการตัดสินใจแล้ว บอกว่าผู้ใดก็ตามที่กล้าก่อความวุ่นวายอีก ไม่ว่าจะเป็นใครจะถูกขับไล่ออกจากสำนักศึกษาทั้งหมด!”
หลี่เซียวเฟยกล่าวด้วยใบหน้าหดหู่
อะไรนะ?
ผู้คนต่างหน้าเปลี่ยนสี คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หรือว่าเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรขึ้นอีก?
แม้กระทั่งจ้าวจิ่งเหวินยังอึ้งไปเล็กน้อย “ไม่น่าเป็นไปได้นะ ข้าเชิญท่านอามาออกหน้าด้วยตัวเอง ผู้อาวุโสอย่างเขาร่วมมือกับบุคคลสำคัญในสำนักศึกษาหลายสิบคนมากดดัน หรือว่ายังทำอะไรหลินสวินแค่คนเดียวไม่ได้”
อาของจ้าวจิ่งเหวินมีนามว่าจ้าวจั้นเย่ เป็นรองหัวหน้าในสาขายุทธ์วิถี อำนาจล้นฟ้า อิทธิพลเรืองนาม
แม้แต่จ้าวจั้นเย่ออกหน้าแล้ว ยังไม่สามารถทำให้สำนักศึกษาเปลี่ยนใจขับไล่หลินสวินได้ เห็นชัดว่านี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“ที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรือ”
จั่วอวี้จิ่งถามเสียงขรึม
หลี่เซียวเฟยรีบร้อนยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน
ชั่วขณะนั้นบรรยากาศในโถงใหญ่พลันเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด สีหน้าของทุกคนอึมครึมไหววูบ เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไรกัน ระดมกำลังมากมายขนาดนี้แล้ว ก่อเรื่องให้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้ว แต่ก็ทำอะไรหลินสวินแค่คนเดียวไม่ได้งั้นหรือ
ไม่นานพวกเขาก็สืบรู้ถึงข่าวคราวอย่าเป็นรูปธรรม… หลินสวินกำลังจะหลอมชุดศึกสลักวิญญาณด้วยตัวเอง!
ข่าวนี้เหมือนกับพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้จ้าวจิ่งเหวิน จั่วอวี้จิ่งและคนอื่นๆ ล้วนตะลึงงัน จิตใจสับสนอลหม่าน
หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ก็เข้าใจได้ง่ายมากว่าเหตุใดสำนักศึกษาจึงไม่ยอมขับไล่หลินสวิน เพราะนี่มันตะลึงโลกเกินไป ใครก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์