ชายชุดดำคำรามออกมา เวลานี้เขาเลือดไหลจากเจ็ดทวาร ร่างกายกระตุกเกร็งเพราะเจ็บปวดยิ่ง แปรเปลี่ยนเป็นเหมือนบ้าคลั่ง
เขาพุ่งเข้าจู่โจมหลินสวิน เห็นได้ชัดว่าก่อนตายเขาต้องลากหลินสวินไปด้วย
ผู้มีปราณระดับกระบวนแปรจุติผู้หนึ่ง ต่อให้จิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่เมื่อคลุ้มคลั่งก็น่ากลัวยิ่งนัก
ตูม!
แสงสีดำพุ่งสู่ฟ้าทำให้ห้วงอากาศระเบิดออก พลังมหามรรคที่มีอยู่นั้นราวกับบทลงโทษจากสวรรค์ มีกลิ่นอายทลายฟ้าผลาญปฐพี
หลินสวินย่อมไม่อาจนั่งรอความตายได้ โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็งอย่างเต็มกำลังไว้ก่อนแล้ว หลบหนีห่างออกไป รอบกายเขาในตอนนี้พลุ่งพล่านไปด้วยแสงเทพสีฟ้าอ่อนโชติช่วง ราวกับเป็นรุ้งเทพล้อมกาย ยากจับต้อง
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ในพื้นที่แถบนี้เต็มไปด้วยเสี้ยวเงาที่หลินสวินทิ้งไว้ นั่นเป็นการแสดงถึงความเร็วขีดสุดอย่างหนึ่ง
ก้าวย่างชือน้ำแข็ง เมื่อใหญ่จะสามารถท่องไปในเก้าชั้นฟ้า เมื่อเล็กสามารถซ่อนเร้นในธุลี นี่ไม่ได้เป็นการพูดเกินเลย
ดังเช่นตอนนี้ ห้วงมายานี้แม้ถูกเสามังกรจตุลักษณ์ปิดผนึกไว้ ไม่อาจหลบหนีได้ แทบถูกการโจมตีของชายชุดดำนั้นปกคลุมมิด
แต่หลินสวินกลับหาช่องว่างในอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่าหนีออกมาได้
หากไม่เป็นเช่นนี้ น่ากลัวจะถูกสังหารในพริบตาแล้ว!
อย่างไรเสียนี่ก็เป็นถึงพลังปราณของระดับกระบวนแปรจุติ สูงกว่าหยั่งสัจจะถึงหนึ่งระดับใหญ่ พลังทำลายล้างที่สำแดงออกมานั้น พลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณไม่อาจตั้งรับได้เลย
ยังดีที่จิตวิญญาณของชายชุดดำผู้นั้นได้รับความเสียหายใหญ่หลวง การรับรู้พังทลายไปแล้ว ทำให้การโจมตีของเขายุ่งเหยิงไร้ระเบียบ ส่งผลให้หลินสวินมีโอกาสตอนหลบหนีออกมา
“ไอ้เด็กเลว เจ้าโผล่มาเดี๋ยวนี้นะ!”
ชายชุดดำส่งเสียงคำรามราวสัตว์ป่า พุ่งไปมาในแถบนี้ประหนึ่งมารร้ายที่คลุ้มคลั่งตนหนึ่ง
พลังมหามรรคน่าหวาดหวั่นสำแดงออกมา แม้โจมตีไม่โดน แต่ยังคงทำให้หลินสวินสะท้านใจ เหมือนเต้นระบำอยู่บนปลายดาบ
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ต่อให้หลินสวินมีพลังการต่อสู้เย้ยฟ้าในระดับมหาสมุทรวิญญาณ กระทั่งสามารถฆ่าผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลานุภาพของระดับกระบวนแปรจุติ ก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังกดดันน่าหวาดหวั่นราวหายใจไม่ออก
นี่เป็นเพราะระดับต่างกันมากเกินไป ทำให้พลังต่างชั้นกันยิ่งนัก หลินสวินสงสัยว่าต่อให้ตนครอบครองอาสัญสลายก็เป็นคู่ต่อสู้ให้ไม่ได้
ตู้ม!
หลินสวินคิดมากอีกไม่ได้แล้ว การโจมตีของชายชุดดำยิ่งบ้าระห่ำและน่ากลัว เพิ่มแรงกดดันให้เขาขนานใหญ่
ในระหว่างที่เขาหลบหนีถูกลมกรรโชกกวาดโดนอยู่หลายครั้ง ความรู้สึกนั้นช่างเหมือนถูกฟ้าผ่า เนื้อหนังและกระดูกทั้งร่างเกือบหักสลาย เลือดลมแปรปรวนพลิกตลบ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่ต้องเป็นวิกฤตหนักหนาที่สุดที่หลินสวินเคยประสบตั้งแต่ฝึกปราณมาจนถึงตอนนี้ ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ พื้นที่นี้เป็นเหมือนห้วงมายาที่ถูกผนึกโดยสมบูรณ์ คนจากโลกภายนอกเข้ามาไม่ได้ คนที่อยู่ภายในก็ฝ่าออกไปไม่ได้เช่นกัน ทำให้หลินสวินได้แต่หลบหนีอย่างเต็มที่
ความรู้สึกนั้นเหมือนโฉบอยู่บนเส้นทางมรณะ ขอแค่ไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็สามารถจบชีวิต ณ ที่นั้นได้!
“หลินสวิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ นี่เจ้ากำลังสังหารญาติ! ผิดคุณธรรมครั้งใหญ่!”
ชายชุดดำร้องโหยหวนบ้าคลั่ง เสียงของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแหบพร่า ชุดดำทั้งกายถูกทำให้แหลกสลายยุ่งเหยิง เผยให้เห็นใบหน้าชราที่เหยเกเปื้อนเลือด
“ผิดคุณธรรมบ้าบออะไรกัน! ไอ้แก่เวร เจ้ารีบหลับตาไปเกิดใหม่เถอะ!”
หลินสวินหัวเราะหยัน
“อ๊ากๆๆ…”
ชายชุดดำดูยิ่งเจ็บปวดรวดร้าว เขาพลันคุกเข่ากับพื้น สองมือกุมศีรษะ ส่งเสียงหวีดร้องแหลมน่าหดหู่หาใดเทียบ ทั้งร่างกระตุกไม่หยุดหย่อน เห็นได้ชัดว่ากำลังจะรับไม่ไหวแล้ว
แต่หลินสวินไม่กล้าชะล่าใจ ไม่ออมมือเลย ใช้พลังทั้งหมดสำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งออกมา
การโจมตีกลับก่อนตายของผู้มีปราณระดับกระบวนแปรจุติน่าหวาดหวั่นที่สุด หลินสวินไม่ต้องการถูกชายชุดดำลากตนลงน้ำไปด้วยในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายนี้
ฉับพลันทันใด ชายชุดดำก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เต็มไปด้วยเลือดจ้องเขม็งไปยังหลินสวินราวสัตว์ร้าย แผ่กระจายความแค้นและความไม่ยินยอมไร้ที่สิ้นสุดออกมา
“ข้าแค้น! แค้นที่ไม่สามารถฆ่าลูกหลานเนรคุณอย่างเจ้าด้วยมือตัวเองได้!”
เสียงเหมือนสาปแช่ง ชัดถ้อยชัดคำ ความแค้นคับฟ้า ทั้งยังมีความเสียดายที่ไม่อาจปล่อยวางได้
ในที่สุดชายชุดดำก็หงายหลังกับพื้นเสียงดังตุ้บ พลังปราณที่ปะทุบ้าคลั่งทั้งร่างเลือนหายไป แปรเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบ
หลินสวินซึ่งยืนอยู่ไกลออกไปยังคงระแวดระวัง
ฉัวะๆๆ!
ไม่นานนักแสงสีดำสายแล้วสายเล่าพลันพุ่งออกมาจากศีรษะของชายชุดดำ นั่นก็คือหนอนกินเทพแต่ละตัว!
ที่ทำให้หลินสวินอึ้งที่สุดก็คือ ทันทีที่หนอนเหล่านี้พุ่งออกมาก็จู่โจมมาทางเขา
ช่างเป็นฝูงสัตว์ที่เลี้ยงไม่เชื่องเสียจริง!
หลินสวินลอบด่าในใจ แต่ก็ไม่หลบหนี สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สลัดความคิดฟุ้งซ่าน ใช้เคล็ดเวทบริกรรมเต็มกำลัง กำหนดสมาธิตรึกตรองภาพ ‘ดาราจักรโคจร’
ผ่านไปครู่หนึ่ง หนอนกินเทพที่พุ่งเข้าสู่ห้วงนิมิตเหล่านี้ก็ถูกเคล็ดเวทบริกรรมกำราบ จมสู่ความเงียบงันเหมือนคราวก่อน
เพียงแต่ที่ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วก็คือ หลินสวินรับรู้ได้อย่างฉับไวว่าหนอนกินเทพที่มีทั้งสิ้นสิบหกตัวนี้ ขนาดตัวกลับใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนเท่าตัว ร่างอันเป็นจุดแสงสีดำราวมายาเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยือกที่น่าหวาดผวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์