Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 525

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 525 ความแค้นในปีนั้นขาดสะบั้นในวันนี้ (สี่)
ตอนที่ 525 ความแค้นในปีนั้นขาดสะบั้นในวันนี้ (สี่)
โดย
ProjectZyphon
ยานสำเภาดูคล้ายเก่าแก่เรียบง่าย ทว่าภายในกลับตกแต่งอย่างวิลิศมาหรา มีพื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่ง สิ่งที่น่าทึ่งก็คือสองฝั่งของยานสำเภายังมีปืนใหญ่สลักวิญญาณใหม่ล่าสุดสิบหกกระบอกกระจายอยู่ด้วย!

นี่ไม่ใช่ยานสำเภาธรรมดาลำหนึ่งที่แสนเรียบง่ายขนาดนั้นอย่างแน่นอน

ภายในห้องโดยสาร มู่หวั่นซูมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามอย่างค่อนข้างจะปลงตกเล็กน้อย กลีบปากแดงอิ่มเผยอขึ้นหน่อยๆ เผยให้เห็นเรียวฟันขาวกระจ่าง กล่าวว่า “จากฐานะในจักรวรรดิของเจ้ายามนี้ ยังมีเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นอีก”

หลินสวินเองก็มองสำรวจ ‘เพื่อนเก่า’ ที่อยู่ตรงข้ามเช่นกัน มู่หวั่นซูเป็นสตรีงามพิลาสนางหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย สาวสะพรั่งมีเสน่ห์ สวยงามอรชรอ้อนแอ้น ดุจผลท้อน้ำผึ้งเอิบอิ่มผลหนึ่ง จริตจะก้านล้มหลาม

นางยังคงเป็นดั่งวันวาน สวมชุดกระโปรงดำที่ตัดเย็บเข้ารูป ทำให้เห็นเรือนร่างสูงโปร่งอย่างชัดแจ้ง และสะท้อนกลิ่นอายน่าดึงดูดชวนเคลิ้มฝันอย่างหนึ่งออกมาจากผิวขาวเนียนราวกับหยกมันแพะนั้น

ครั้งแรกที่ได้พบกันในปีนั้น หลินสวินยังเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่พักอาศัยในหมู่บ้านเฟยอวิ๋น ส่วนในปีนั้นมู่หวั่นซูกลับเป็นถึงผู้รับผิดชอบอัครการค้าแห่งเมืองตงหลิน

สามปีผ่านไป สถานการณ์และฐานะของหลินสวินเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดิน ได้รับความสนใจจากทั่วมุมโลก ส่วนมู่หวั่นซูออกจากเมืองตงหลินไปเป็นผู้รับผิดชอบอัครการค้าแห่งมณฑลซีหนานตั้งนานแล้ว

“พี่หวั่นซูสวยขึ้นกว่าแต่ก่อนอีก” หลินสวินเองก็ปลงตกเช่นเดียวกัน บนเนื้อตัวของมู่หวั่นซูมีกลิ่นอายสง่างามมากประสบการณ์และความชาญฉลาดอย่างหนึ่ง เหมือนดอกกุหลาบที่เบ่งบานผ่านลมฝนดอกหนึ่ง ทำให้ยิ่งมีเสน่ห์เอ่อล้นมากขึ้น

มู่หวั่นซูนิ่งไป ร้องชิเบาๆ คราหนึ่ง ดวงตาไหวเคลื่อนพลางกล่าวค่อนแคะ “นี่มันเวลาไหนแล้ว เด็กเหลือขออย่างเจ้ายังพูดจาแถไถไหลลื่นอยู่อีก อยากโดนตีหรือ”

หลินสวินเอนพิงพนักเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน สองมือไขว้ขัดที่ท้ายทอยก่อนกล่าวกลั้วหัวเราะ “พบพานเรื่องใหญ่ต้องทำใจให้นิ่งสงบ ข้าแสดงความเคร่งเครียดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์”

สีหน้ามู่หวั่นซูผุดแววอ่อนโยนกล่าว “เจ้าอย่าได้กังวลมากเกินไป ทางจังหวัดชิงเฟิงเริ่มเคลื่อนไหวแล้วตามที่คาดเอาไว้”

หยุดไปชั่วขณะนางพลันหัวเราะเย็นชาขึ้นมา “เหยาทั่วไห่ก็ช่างบ้าดีเดือดโดยแท้ คิดจริงๆ หรือว่าแค่ตระกูลเหยาของเขาคนเดียวจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามต้องการ บางทีอยู่ในมณฑลซีหนาน เขาสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ แต่ในสายตาของขุมอำนาจใหญ่อย่างแท้จริง เขาก็ไม่พ้นเป็นแค่หมาเฒ่าตัวหนึ่งเท่านั้น หากคิดจะจัดการเขา มีแค่พลังของอัครการค้าก็เพียงพอจะฆ่าล้างโคตรเขาได้แล้ว!”

หลินสวินกล่าว “ท่านคิดว่าเหยาทั่วไห่กำลังเล่นกับไฟหรือ”

“แล้วไม่ใช่หรือ” มู่หวั่นซูย้อนถาม

นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึก น้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าคิดมาตลอดว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ถึงได้ทำให้เหยาทั่วไห่เลือกจะหาเรื่องข้าในเวลานี้ นี่เห็นชัดว่าเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลาหาใดเปรียบอย่างหนึ่ง คนมีตาต่างรู้ดี อย่าว่าแต่เขาเหยาทั่วไห่ ต่อให้รวมทั้งตระกูลเหยาเข้าด้วยกัน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสั่นคลอนข้าแม้สักเสี้ยว แต่เขากลับทำแบบนี้ ท่านว่า เขามีแผนการอะไรอีก”

มู่หวั่นซูครุ่นคิดก่อนกล่าว “เจ้าคงไม่ได้คิดว่า ยังมีขุมอำนาจอื่นคอยสนับสนุนอย่างลับๆ ให้เหยาทั่วไห่ทำเช่นนี้หรอกกระมัง”

หลินสวินเอ่ย “นี่ก็เป็นความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง”

ท่าทีของมู่หวั่นซูเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ถ้าพูดเช่นนี้ละก็ พวกเราต้องเตรียมกำลังเพิ่มอีกหรือไม่”

หลินสวินส่ายหน้า “ไม่ต้อง การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงอัครการค้าเท่านั้น ยังมีกำลังของตระกูลหนิงราชันเลือดเหล็ก ตระกูลเย่ราชันแห่งทะเลตะวันออก และตระกูลกงตุ๊กตาล้มลุกร่วมมือกันอย่างลับๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดตัวแปรมากขึ้นไปอีก”

กลางนัยน์ตาสุกใสของมู่หวั่นซูผุดแววประหลาด ยามนี้ถึงได้ตระหนักว่าที่แท้หลินสวินก็เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมสำหรับเรื่องนี้แต่แรกแล้ว

ฉับพลันภายในใจของนางก็อดรู้สึกปลงตกอีกครั้งไม่ได้ เพิ่งจะผ่านไปสามปีเท่านั้น หลินสวินก็ได้ครอบครองอำนาจอันแกร่งกล้าถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางไม่สามารถจินตนาการได้เลยสักนิด

“พี่หวั่นซู เหตุใดท่านถึงเอาแต่จ้องข้า บนหน้าข้ามีดอกไม้บานออกมาหรืออย่างไร” หลินสวินพูดหยอกเย้าพลางหัวเราะคิกคัก

มู่หวั่นซูส่งเสียงขัดเคืองออกมา ดวงตากลมโตงดงามจับจ้องหลินสวินอย่างมาดร้าย “เจ้าพูดความจริงกับข้ามา ครั้งนี้เจ้าเตรียมพลหนุนหลังไปเท่าไรแล้วกันแน่”

หลินสวินกล่าวอย่างสบายอารมณ์ “ไม่มาก แต่น่าจะพอใช้งานอยู่”

ครั้งนี้หลินสวินออกจากนครต้องห้ามเพียงลำพังและไม่ได้รบกวนขุมอำนาจใดๆ เลยก็จริง แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าหลินสวินจะไปเสี่ยงอันตรายเพียงลำพังอย่างคนโง่งมปัญญาทึบเสียหน่อย!

มีพลังแต่ไม่ใช้ กลับคิดจะไปตามนัดอย่างฮึกเหิม บุกทะลวงถ้ำเสือบ่อมังกรเพียงลำพัง นี่ไม่เรียกว่าห้าวหาญเต็มเปี่ยม แต่เรียกว่าสมองพังไปแล้วต่างหาก

หลินสวินพยายามฝึกปราณมาจนป่านนี้ กว่าจะครอบครองบารมีและฐานะอย่างวันนี้ไม่ใช่ง่ายๆ สิ่งที่ต้องการก็มิใช่พลังที่จะแก้ไขสถานการณ์หากวันใดวันหนึ่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นหรอกหรือ

แต่จะว่าไป แค่ตระกูลเหยาตระกูลเดียว อย่าว่าแต่หยิบยืมพลังของขุมอำนาจอื่นเลย ลำพังอาศัยแค่พลังที่หลินสวินมีในปัจจุบันก็เพียงพอจะทำให้อีกฝ่ายสยบแทบเท้าได้แล้ว

ทว่าหลินสวินกลับไม่เลือกทำเช่นนี้ เพราะเขารู้ว่าเหยาทั่วไห่ไม่ใช่ไอ้งั่ง ในเมื่อกล้าทำถึงเพียงนี้ คงต้องเตรียมการไว้ครบครันเรียบร้อยแล้ว

สิ่งนี้ทำให้หลินสวินระแวดระวังมากขึ้น แน่นอน ที่ระวังไม่ใช่เหยาทั่วไห่ แต่เป็นพลังซึ่งอยู่เบื้องหลังเหยาทั่วไห่ต่างหาก!

ดังนั้นก่อนออกจากนครต้องห้าม เขาจึงสั่งความกับพญาแร้งและหลินจงอย่างลับๆ ให้เริ่มช่วยเขาจัดวางและลอบติดต่อขุมอำนาจอื่น

อาทิเช่น อัครการค้า ตระกูลหนิง ตระกูลเย่ ตระกูลกงเป็นต้น

อัครการค้าในฐานะที่เป็นร้านค้าอันดับหนึ่งในจักรวรรดิ อิทธิพลครอบคลุมใต้หล้า พวกตระกูลหนิง ตระกูลเย่ก็ไม่ทิ้งห่างกันเท่าใดนัก

คิดจะไม่ให้ศัตรูไหวตัวทันแล้วจัดเตรียมวิธีบางอย่างไปช่วยเหลือหลินสวิน นี่ยิ่งง่ายดายนัก

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ หากเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่างพวกอัครการค้าแล้ว ตระกูลเหยาที่เหยาทั่วไห่อาศัยอยู่นั้นแทบไม่ควรค่าให้ชายตาแลเลยสักนิด พลังที่หลินสวินใช้งาน จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อต่อกรกับเหยาทั่วไห่เลยแม้แต่น้อย

“ข้าจะไปดูท่านอาเถี่ยซานเสียหน่อย”

หลินสวินหยัดตัวขึ้น เดินมุ่งหน้าไปยังห้องเงียบสงบห้องหนึ่งที่อยู่ด้านหลังห้องโดยสาร

เถี่ยซานเพียงสลบไปเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บ สิ่งนี้ทำให้หลินสวินรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย อย่างน้อยก็พิสูจน์แล้วว่า ก่อนหน้าที่ยังไม่ได้พบตน ศัตรูก็ไม่กล้าทำอะไรมากเกินขอบเขต

……

จังหวัดชิงเฟิง

ยามรัตติกาลดั่งสีหมึก ในฐานะสถานที่ประจำจังหวัด จังหวัดชิงเฟิงย่อมเฟื่องฟูกว่าเมืองตงหลินมากเป็นธรรมดา

แม้จะมาเยือนยามค่ำคืน ในเมืองใหญ่ก็ยังคงสว่างไสว รถราวิ่งกันขวักไขว่ ผู้คนพลุกพล่าน หลั่งไหลไม่ขาดสาย

หอนางโลม หอสุรา แหล่งการพนันต่างก็ต้อนรับช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของวัน

หอสามเลิศ

นี่คือหอนางโลมแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในจังหวัดชิงเฟิง เป็นสถานเริงรมย์อันศักดิ์สิทธิ์ในดวงใจคุณชายเจ้าสำราญนับไม่ถ้วน ด้วยว่าแม่นางในหอสามเลิศไม่เพียงแต่งดงามดึงดูดเท่านั้น ยังมีทักษะ ‘สามเลิศ’ ติดกาย พาให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหลงใหลอีกด้วย

สิ่งที่เรียกว่า ‘สามเลิศ’ คืออะไร?

แบ่งออกเป็นร่ายรำล้ำเลิศ ขับร้องล้ำเลิศ ศิลปะในหับห้องล้ำเลิศ!

กิจการหอสามเลิศในราตรีนี้ยังคงร้อนแรงหาใดเปรียบ ทั้งคุณชายเสเพลจอมอวด พ่อค้ามั่งคั่งกระเป๋าตุง ผู้ฝึกปราณโด่งดังที่มีตำแหน่งแห่งหนไม่ธรรมดา บุคคลร่ำรวยในตระกูลมากอำนาจ ต่างแห่แหนมาที่นี่เพื่อร่ำสุราเที่ยวนารี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์