เพียงโคจรพลัง ดาบหักก็จะปะทุแสงดาราแวววาวโชติช่วงราวนิมิตออกมา เรียกได้ว่าเป็นคมมีดร้ายกาจพลิกฟ้าเล่มหนึ่ง
หลินสวินพินิจอย่างละเอียด ใช้พลังจิตวิญญาณสัมผัส กลับพบว่าภายในดาบหักนั้นประหนึ่งท้องนภา เวิ้งว้างไร้ขอบเขต ถึงกับมีกลิ่นอายไพศาลกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด
เหมือนว่าภายในดาบหักเป็นโลกว่างเปล่าโลกหนึ่ง แสดงให้เห็นแต่ ‘ความว่างเปล่า’ ประหนึ่งท้องฟ้า ไม่อาจรับรู้สิ่งใดได้
“ประหลาด ลายมรรคเว้าแหว่งเหล่านั้นไปไหนแล้ว…”
หลินสวินนิ่วหน้าพึมพำ
เขาจำได้อย่างแจ่มชัดว่าตอนนั้นมีดอกบัวสีดำแปลกประหลาดดอกหนึ่งร่วงลงมา เกือบกำราบตนเข้า ในเวลาคับขัน เป็นเพราะดาบหักเกิดความเปลี่ยนแปลงประหลาด บังเกิดลายมรรคโบราณแน่นขนัดแถบหนึ่ง ในชั่วพริบตาก็แผดเผาดอกบัวสีดำนั้นให้สลายไป
และเป็นความเปลี่ยนแปลงประหลาดครั้งนี้เอง ที่ช่วยชีวิตหลินสวินไว้
เพียงแต่เวลานี้ไม่ว่าหลินสวินจะใช้อะไรสืบเสาะ กลับไม่อาจหาร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับลายมรรคเหล่านี้ได้!
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกได้ถึงความลึกลับคาดเดาไม่ได้ของดาบหักเล่มนี้
‘เป็นเขา…’
‘วันคืนไร้สิ้นสุดผ่านไป เขาตายไปนานแล้ว…’
‘ไปเถอะ ที่จริงพวกเราล้วนพลาดแล้ว…’
‘พลาดแล้วหรือ’
เสียงสนทนาของภิกษุประหลาดกับเงาร่างลึกลับนั้นดังสะท้อนในสมองของหลินสวิน ทั้งนึกถึงเบ้าตาน่ากลัวกลวงโบ๋ของภิกษุนั้นอย่างไร้สาเหตุ!
เวลานั้นเขากำลัง ‘มอง’ มายังดาบหักอย่างเห็นได้ชัด เหมือนจะจำอะไรได้ ถึงได้ปรากฏกายขึ้นมา เพียงแต่ท้ายที่สุดก็ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด เขากับเงาร่างลึกลับนั้นก็หายไป
หรือว่า ‘เขา’ จากปากของพวกเขาจะหมายถึงเจ้านายเก่าของดาบหักเล่มนี้
หลินสวินตกอยู่ในภวังค์ความคิด
สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจเบาๆ ออกมา เก็บดาบหักนั้นกลับไป ใคร่ครวญไปเขาก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทำได้เพียงกลบความสงสัยนี้ไว้ในก้นบึ้งหัวใจ
ไม่แน่อาจมีสักวัน ยามที่พลังแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่งแล้ว อาจมองทะลุความลับของดาบหักนี้ได้กระมัง…
วิ้ง!
เจดีย์สมบัติไร้อักษรถูกเด็กหนุ่มนำออกมา ลอยหมุนติ้วกลางห้วงอากาศ มีแสงสีทองเจิดจ้าศักดิ์สิทธิ์พันพัว
‘ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะทำให้ข้าได้เศษเสี้ยวเจตจำนงมากน้อยแค่ไหน หวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง…’
หลินสวินรุ่มร้อนใจ กุมเจดีย์สมบัติไว้ในมือแล้วเริ่มค้นดู
“หืม”
เพียงแต่เมื่อเด็กหนุ่มเห็นสภาพภายในชั้นหนึ่งของเจดีย์สมบัติได้ชัดเจน เขาก็พลันเบิกตาโต สีหน้าแข็งทื่อเหมือนเจอผีเข้าอย่างจัง
ด้วยเห็นว่าภายในชั้นหนึ่งของเจดีย์สมบัติ แสงมรรคทองนิลกาฬราวห้อทะยาน โคจรว่องไวอยู่ในนั้น รุ่งเรืองสงบนิ่ง สาดส่องแสงน้อยนิดกระจัดกระจายราวภาพนิมิตมายา
เพียงแต่เวลานี้กลับมีเด็กหนุ่มชุดเขียวผู้หนึ่งนั่งมั่นคงอยู่ตรงนั้น ในปากและจมูกพ่นแสงสีทองออกมา กำลังกลืนกินไอชั่วร้ายของยอดฝีมือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่ง
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเงาร่างของยอดฝีมือวิญญาณอาฆาตนั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นคลุมเครือ ไม่นานก็มลายหายไป ถูกกลืนกินจนสิ้น
เด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นั้นดูดปาก ปลายลิ้นสีแดงสดแลบเลีย ส่งเสียงถอนใจอย่างยังไม่หนำใจออกมา
เจ้านี่เป็นใครกัน
ทำไมถึงปรากฏตัวที่ชั้นหนึ่งของเจดีย์สมบัติไร้อักษร
หลินสวินฉงนใจ ภาพเมื่อครู่น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว ระหว่างที่เด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นี้หายใจทางปากและจมูกก็กลืนกินยอดฝีมือวิญญาณอาฆาตไปตนหนึ่ง ภาพพิสดารหาใดเปรียบ
ที่ต้องรู้ก็คือ ไอชั่วร้ายบนกายยอดฝีมือตนนั้นน่ากลัวถึงขีดสุด สามารถกัดกร่อนจิตวิญญาณอย่างไม่อาจฟื้นฟูได้ ผู้ฝึกปราณผู้อื่นกลัวแต่จะหลบไม่ทัน แต่เด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นี้กลับกินสิ่งนี้เป็นอาหาร!
หรือว่ายอดฝีมือวิญญาณอาฆาตสิบกว่าตนที่ตนจับมาได้ จะถูกเจ้านี่กินหมดแล้ว!?
หลินสวินบังเกิดไฟโทสะยากบรรยายขึ้นในใจ เวลานี้ชั้นหนึ่งของเจดีย์สมบัติว่างเปล่า มีเพียงเด็กหนุ่มชุดเขียวผู้เดียว ทั้งยังเห็นภาพการกลืนกินที่น่าหวาดหวั่นเมื่อกี้กับตา ทำให้เขาชี้ชัดได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ก็คือตัวการ!
บ้าเอ๊ย!
นั่นเป็นถึงรอยประทับเจตจำนงทุกตนเลยนะ ตอนนี้…ถูกเขากินเสียแล้วหรือ
หลินสวินก็ไม่อาจสงบใจได้ ร้องออกมาด้วยความเดือดดาล เดิมนึกว่าครั้งนี้สิ่งที่ตนได้รับจะมากมาย มากกว่าศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณพวกนั้นเสียอีก จะไปคิดได้อย่างไรว่าพริบตาเดียวกลับเกิด ‘เคราะห์กรรม’ เช่นนี้ได้
“หึ! เจ้ามนุษย์ เจ้ามาแล้วหรือ ยังไม่รีบคารวะเปิ่นหวัง[1]อีก!”
ทันใดนั้นเด็กหนุ่มชุดเขียวก็เหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง รีบลุกพรวดพราด สองมือไพล่หลัง ส่งเสียงตะโกนน่ายำเกรง สายตาสีทองเจิดจ้าราวรุ้งเทพ
บุคลิกรูปลักษณ์เขาดูหล่อเหลางดงามยิ่ง ริมฝีปากแดงฟันขาว คิ้วหนาราวน้ำหมึก ตรงแน่วดังดาบ ใต้คิ้วเป็นนัยน์ตาสีทองเปล่งปลั่ง ใบหน้าคมสัน มีกลิ่นอายมารแปลกประหลาด
ซูซิงเฟิงก็หน้าตางดงามหล่อเหลามากแล้ว แต่เด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นี้ก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ทั้งยังมีกลิ่นอายถือดีที่เป็นเอกลักษณ์
เวลานี้มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีทองราวสายฟ้า ใบหน้าเผยให้เห็นความหยิ่งผยอง เสียงที่เปล่งออกมาก็ลุ่มลึกน่ายำเกรง ทำให้หลินสวินอดหรี่ตาไม่ได้
“เปิ่นหวังหรือ”
เขาถึงกับกล้าตั้งตัวเองเป็นราชาเลยหรือ
หลินสวินฉงนในใจ ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นว่าที่เอวของเด็กหนุ่มชุดเขียวมีด้ามดาบด้ามหนึ่งแขวนอยู่ ถูกผ้าที่ย้อมไปด้วยเลือดพันไว้ พิสดารลึกลับ
“เจ้าก็คือวิญญาณอาฆาตตนนั้นหรือ”
หลินสวินพลั้งปากถามไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์