เจ้าคางคกก็เลิกสำออยแล้ว ตอนที่ลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้าแดงระเรื่อ นัยน์ตาสีทองอร่าม หว่างคิ้วแฝงกลิ่นอายเย่อหยิ่งและงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่หลงเหลือร่องรอยของความอ่อนแรงสักนิด
นี่ทำให้หลินสวินอดตกใจไม่ได้ พลังชีวิตของคางคกตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ถูกสายฟ้าผ่าขนาดนั้น ผ่านมาเพียงไม่กี่วันก็ฮึกเหิมประดุจมังกรทะยานเสือผาดโผน เหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย
“คราวนี้ข้าช่วยเจ้าไว้ครั้งใหญ่เลยนะ ทรัพย์หลังศึกก็ควรจะมีส่วนแบ่งของข้าด้วย หากเจ้ากล้าฮุบไปหมด ระวังเถอะว่าจะคลอดลูกชายไม่มีรูผายลม”
จินตู๋อีเริ่มข่มขู่และขอผลประโยชน์อย่างเปิดเผย
นี่ทำให้หลินสวินหมดคำพูด คางคกตัวนี้เป็นตัวของตัวเองมากไปแล้ว ไม่เพียงรู้จักเสแสร้งแกล้งตายขอผลประโยชน์ พอเสแสร้งไม่เนียนก็เริ่มขอกันตรงๆ อย่างหน้าไม่อายเลย!
หลังจากนั้นหลินสวินปฏิเสธข้อเรียกร้องไร้เหตุผลนี้อย่างเด็ดเดี่ยว จินตู๋อีโกรธจนตะโกนเอะอะ สาปแช่งไม่ขาดปาก แต่ไม่ว่าไม้อ่อนหรือไม้แข็งหลินสวินก็ไม่ยอม ทำให้เขาเองได้แต่จนปัญญา
“เจ้าคางคก ศึกษาคัมภีร์สีทองที่ไม่สมบูรณ์เล่มนั้นถึงไหนแล้ว” จู่ๆ หลินสวินก็เปลี่ยนเรื่อง
จินตู๋อีถูกเบนความสนใจ พลันอ้าปากพ่นแสงทองกลุ่มหนึ่งออกมา กลายเป็นคัมภีร์สีทองที่ขาดแหว่งส่วนหนึ่ง
จินตู๋อีพูดอย่างตื่นเต้น “นี่เป็นคัมภีร์มรรคที่อริยะคนหนึ่งเขียนเองกับมืออย่างไม่ต้องสงสัย!”
หลินสวินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ดีใจจนหน้าชื่นตาบาน
เสี้ยวคัมภีร์มรรคส่วนนั้นได้มาจากเกาะอริยะปัญจธาตุ เดิมมันสมบูรณ์ เพียงแต่ในระหว่างที่ช่วงชิงกันได้ถูกฉีกขาดเป็นสามส่วน
อีกสองส่วนถูกสิ่งมีชีวิตลึกลับในหินหยกและธิดาเทพหลินหลางชิงไป
หลินสวินเองก็เคยศึกษาคัมภีร์เล่มนี้ แต่กลับพบว่ามันเล่มนี้พิเศษมาก ราวกับหยกแต่ไม่ใช่หยก เหมือนกับเหล็กแต่ก็ไม่ใช่เหล็ก ไม่รู้ว่าหลอมขึ้นจากอะไร มีสีทองอร่าม หนักอึ้ง และเต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์
สิ่งที่น่าเสียดายคือคัมภีร์ที่ขาดเล่มนี้ไม่สามารถเปิดได้ ถึงขั้นที่แม้แต่ตัวอักษรบนคัมภีร์ยังหายไปด้วย ไม่อาจมองทะลุได้
ท่ามกลางความจนปัญญา หลินสวินจึงทำได้แค่ให้จินตู๋อีวิเคราะห์ เจ้าตัวนี้เป็นคางคกทองสามขา ว่ากันว่าสามารถแยกแยะสรรพสิ่งได้ ชำนาญในเรื่องของมีค่า
“เสียดายที่คัมภีร์เล่มนี้ฉีกขาดไป ไม่สามารถสะท้อนถ้อยความที่อริยะเขียนออกมาได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้านัก “
คำพูดนี้ของจินตู๋อีทำลายขวัญกำลังใจของหลินสวินทันที ความตื่นเต้นดีใจหายไปสิ้น
“ไม่อาจสะท้อนออกมาได้หรือ” หลินสวินไม่จำยอมอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าจินตู๋อีเองก็ไม่จำยอมและเจ็บใจอย่างมาก กล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากเห็นความลึกลับของคัมภีร์มรรคเล่มนี้กับตาหรือ นี่เป็นคัมภีร์ที่อริยะเขียนเองกับมือเชียวนะ ย่อมต้องไม่ธรรมดาและเกี่ยวโยงไปถึงความลับแห่งอริยมรรค!”
“แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า คัมภีร์มรรคเล่มนี้เป็นคัมภีร์ที่อริยะทิ้งเอาไว้ นอกเสียจากว่าไปชิงอีกสองส่วนมาไว้ในมือ ทำให้มันสมบูรณ์ มิเช่นนั้นชาตินี้ทั้งชาติก็อย่าคิดว่าจะได้เห็นวิชาลับในนั้น”
หลินสวินเข้าใจแล้ว นี่ก็หมายความว่าถ้าเขาอยากหยั่งถึงความลึกลับของคัมภีร์อริยะเล่มนี้ ก็ต้องชิงคัมภีร์อีกสองส่วนที่เหลือมาก่อน
แต่สิ่งที่ทำให้หลินสวินปวดหัวคือ ไม่ว่าจะเป็นธิดาเทพหลินหลางหรือสิ่งมีชีวิตในหินหยกนั่น ล้วนแต่ไม่ธรรมดา การจะชิงคัมภีร์มรรคมา แค่คิดก็รู้ว่ายากเพียงใดแล้ว
หากหลินสวินเดาไม่ผิด สิ่งมีชีวิตลึกลับในหยกนั่นจะต้องเป็น ‘คุณชายน้อย’ ที่ลิงเฒ่าพูดถึงอย่างแน่นอน!
เกาะอริยะปัญจธาตุทั้งเกาะ เดิมเป็นสถานที่ฝึกปราณที่เจ้านายของลิงเฒ่าเตรียมไว้ให้ ‘คุณชายน้อย’ ท่านนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว
นี่ก็หมายความว่า ที่มาของ ‘คุณชายน้อย’ คนนี้ไม่ธรรมดา มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นลูกหลานของอริยะท่านหนึ่ง!
เรื่องนี้น่าทึ่งเกินไปแล้ว โชคดีที่ ‘คุณชายน้อย’ คนนี้ยังไม่ปรากฏตัวสู่โลก ทำให้หลินสวินยังไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาตอนนี้
“เฮ้อ เหนื่อยเปล่าเลย” หลินสวินถอนหายใจ
“ข้าจะพูดอย่างไม่เกรงใจ แม้ตอนนี้เจ้ามีคัมภีร์มรรคฉบับสมบูรณ์ก็ไม่สามารถหยั่งถึงได้ เพราะนี่คือคัมภีร์ที่อริยะทิ้งเอาไว้ เกี่ยวโยงไปถึงความลับแห่งอริยมรรค ใช่ว่าเด็กหนุ่มที่แม้แต่ระดับหยั่งสัจจะยังไม่ใช่อย่างเจ้าจะสามารถปรารถนาได้”
คำพูดของจินตู๋อีเต็มไปด้วยแววเยาะเย้ย
หลินสวินคร้านจะสนใจเขา เก็บคัมภีร์มรรคที่ฉีกขาดเล่มนั้นอย่างระมัดระวัง
เขาเชื่อว่า เพื่อให้ได้ความลับภายในคัมภีร์มรรค ไม่ว่าจะเป็นธิดาเทพหลินหลางหรือ ‘คุณชายน้อย’ ก็จะเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง มิเช่นนั้น พวกเขาก็ได้แค่มอง แต่ไม่สามารถดูความลับภายในคัมภีร์มรรค
และนี่ก็ถือเป็นโอกาสสำหรับหลินสวินเช่นกัน หากคว้าเอาไว้ได้ ก็สามารถทำให้คัมภีร์มรรคเล่มนี้กลับมาสมบูรณ์แบบ!
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในอนาตค ไม่มีใครรู้ว่า ‘คุณชายน้อย’ คนนั้นจะปรากฏตัวเมื่อไหร่ และตอนที่เขาปรากฏตัว ตนจะอยู่ที่ไหน
ทว่าภายในแดนลับอสูรมารอริยะแห่งนี้ ถือว่าเอามาวิเคราะห์ก่อนได้ ว่าจะชิงคัมภีร์มรรคอีกส่วนจากมือธิดาเทพหลินหลางอย่างไร…
……
การเข้าสู่เกาะอริยะปัญจธาตุในครั้งนี้ ได้สังหารผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตและเผ่าวาฬมังกร ทำให้หลินสวินได้ผลเก็บเกี่ยวยิ่งใหญ่
ไม่เพียงแค่ได้สมบัติล้ำค่าอย่างโสมราชันโคมสมบัติและหญ้ากิเลนที่จินตู๋อีระบุให้เป็น ‘โอสถสมบัติระดับราชัน’ ยังมีคัมภีร์มรรคอริยะที่ขาดวิ่นอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีโอสถวิญญาณหายากอย่างหลินจือหิมะเถาวัลย์ม่วง หญ้าแสงจันทร์ และอื่นๆ อีกสามสิบกว่าชนิด ล้วนพบเห็นได้น้อยมากในโลกภายนอก ในขณะเดียวกันก็เป็นของล้ำค่าที่ไม่อาจร้องขอได้
ในนี้ส่วนมากเป็นทรัพย์หลังศึกที่ได้จากตัวเหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตและเผ่าวาฬมังกร มีส่วนน้อยที่หลินสวินได้มาด้วยตัวเอง
นอกจากพวกนี้ยังมีของเบ็ดเตล็ดอย่างอาวุธ ลูกกลอนโอสถและพวกแร่หิน
ทว่าสำหรับหลินสวินในตอนนี้ มูลค่าของสิ่งของส่วนใหญ่ในนี้ไม่ได้มากมาย แต่แน่นอนว่าถ้าเอาไปขายในจักรวรรดิจื่อเย่า ก็ยังสามารถขายได้ในราคาที่สูงมาก
กลับเป็นพวกแร่หินและวัตถุวิญญาณบางส่วนที่เอามาเป็นวัตถุดิบในการหลอมชุดศึกสลักวิญญาณได้ มูลค่าสูงมาก จึงถูกหลินสวินเก็บไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์