น่ากลัวเกินไปแล้ว!
นี่หมายจะเข่นฆ่าศัตรูทั้งหมดเพียงตัวคนเดียวชัดๆ!
ใช่แล้ว ไม่มีใครคาดคิดว่าหลินสวินไม่ได้แสร้งทำเป็นแข็งแกร่ง และไม่ได้กำลังวางท่า ถึงขนาดที่ว่าเขาไม่ได้ปิดบังเจตนาของตนเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
น่าขันที่พวกเขาเห็นหลินสวินเป็นชิ้นเนื้อบนเขียง ไม่มีภัยคุกคามมาโดยตลอด ยามหลินสวินสำแดงฤทธิ์เดชไร้ทัดเทียมนั่นออกมา พวกเขาพลันมึนงง ทั้งตกตะลึงและเดือดดาล
โครม!
หลินสวินเปิดเผยชัดแจ้ง พลังหมัดซัดสะเทือนทศทิศ อิทธิฤทธิ์เหิมฮึกไร้เทียมทาน ทุกที่ที่ล่วงผ่านฝนโลหิตกระเซ็นสาดห้อทะยานหาเทียบเทียมมิได้
สิบกว่าวันมานี้เขาถูกเจ้าพวกนี้ตามสังหารไล่หลังตลอดทางประดุจตัวอ่อนแมลงวันเกาะกระดูก เกือบพบกับเคราะห์ร้ายหลายต่อหลายครั้ง
มาตอนนี้หลินสวินฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ พลังการต่อสู้ก้าวสู่ปลายยอดในระดับเดียวกัน สามารถอวดศักดาต่อศัตรูทั้งปวงได้ แน่นอนว่าย่อมไม่ปกปิดซ่อนเร้นอีกต่อไป
เขาเริ่มโต้กลับเพื่อระบายความเคียดแค้นในใจ
“ฆ่า!”
บุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรแผดเสียงยาวพร้อมกับเรียกกระบี่วิญญาณสีครามออกมาเล่มหนึ่ง มันตีเกลียวม้วนเข้าปกคลุมหลินสวินดุจดั่งเลิกม่านผืนสมุทรขึ้นมา
เพียงแต่หลินสวินไม่มองสักนิด เงาร่างไหววูบหลบเลี่ยงการโจมตีครั้งนี้ และเมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ก็ไปไล่ฆ่าผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ในเผ่าวิญญาณสมุทรทันที
เพียงชั่วครู่เท่านั้นก็มีผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณสมุทรสิบกว่าคนถูกปลิดชีพ หยาดโลหิตย้อมผืนปฐพีกว้างเป็นสีแดงฉานน่าสยดสยอง
บุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรตาแทบถลน โกรธจนเกือบจะคลุ้มคลั่ง
เขาถาโถมโจมตีอีก ทว่าจดปัญญาที่หลินสวินไม่ประจันหน้ากับเขาเลยแม้แต่น้อย เท้าเหยียบชือน้ำแข็งทะยานตัววูบไหวดุจภูตผีปีศาจ กระหน่ำสังหารคนในเผ่าของบุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรอย่างต่อเนื่อง
“ขี้ขลาด! กล้าสู้กับข้าซึ่งหน้าหรือไม่!?”
บุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรคำราม
หลินสวินไม่แยแสเขาแม้แต่น้อย ดุจดั่งไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด
กระทั่งต่อมาผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณสมุทรที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือสังเกตว่าท่าไม่ดีแล้ว พากันซ่อนตัวอยู่ข้างกายบุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรอย่างตื่นตกใจ หลินสวินจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปพิฆาตผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ในลานแทน
หลินสวินในเวลานี้แกร่งกล้าเกินไปจริงๆ ดุจดั่งคมดาบโหดเหี้ยมไร้เทียมทานเล่มหนึ่ง กรีธาศึกทั่วลาน ตัดขวางอหังการ ไม่มีใครสามารถทำให้ดาบคมนั้นทื่อลงได้เลย
ชั่วขณะนั้นบริเวณนี้เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน เสียงคำรามกราดเกรี้ยว เสียงตะโกน ดังผสมผสานกับหยาดโลหิตสีแดงก่ำ ซากศพแหลกเละ กลายเป็นภาพนองเลือดที่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนภาพหนึ่ง
นี่ไหนเลยจะเป็นการต่อสู้
เห็นชัดว่ามันคือการสังหารหมู่!
‘เจ้าหมอนี่… เจ้าหมอนี่เป็นปีศาจร้ายตนหนึ่งชัดๆ!’ อวี่เซียวเซิงที่ซ่อนตัวอยู่ไกลๆ เห็นเข้าก็ตกใจเนื้อกระตุก สูดหายใจเย็นเยียบ
ไม่เพียงแค่เขา แม้แต่บุคคลชั้นยอดอย่างพวกธิดาเทพเผ่ากาฬพฤกษ์ บุตรเทพเผ่ากวางหยก บุตรเทพเผ่าคชามารต่างก็หนาวเยือกในใจ ราวกับตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
แรกเริ่มเดิมทีพวกเขายังใคร่ครวญว่าจะฉวยโอกาสนี้ อาศัยตอนที่หลินสวินไม่ทันตั้งตัวลงมือกับเขาอีกครั้งหรือไม่
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหากทำเช่นนี้ ก็เห็นชัดว่าไม่ต่างอะไรกับการทิ้งชีวิตเลย เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนนี้โหดเหี้ยมเหลือล้นนัก!
“เดรัจฉาน! เจ้ากล้าโจมตีแต่ผู้อ่อนแอเท่านั้นหรือ”
บุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรโกรธจนดวงตาสองข้างแทบลุกเป็นไฟ เพียงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น เผ่าวิญญาณสมุทรของพวกเขาก็มีผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งถูกฆ่าอีกครั้ง นี่จะไม่ทำให้เขาโกรธได้อย่างไร
สิ่งที่ทำให้เขาบ้าคลั่งมากที่สุดคือ ตั้งแต่ต้นจนจบหลินสวินเอาแต่หลบเลี่ยงเขา ไม่เผชิญหน้ากับเขาซึ่งหน้าเลยแม้แต่น้อย ทำเอาเขาโมโหแทบกระอักเลือด
เคยมีหรือที่เขาต้องทนกล้ำกลืนกับการเพิกเฉยเช่นนี้ เห็นชัดว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาสักนิด!
“ใจเสาะ! ขี้ขลาด! ปอดแหก! ขายขี้หน้าเผ่ามนุษย์ของพวกเจ้าสิ้นดี พวกต่ำช้าพรรค์นี้อย่างเจ้า แม้จะแข็งแกร่งเพียงใดก็เป็นได้แค่คนไร้ค่าที่รังแกเฉพาะคนไม่มีทางสู้เท่านั้น!”
บุตรเทพเผ่าวิญญาณสมุทรคำรามเสียงกร้าว
น่าเสียดาย หลินสวินยังคงเมินเขา พุ่งสังหารเข่นฆ่าเต็มกำลัง ไม่คิดจะปล่อยศัตรูคนใดไป เงาร่างไหววูบพลิ้วล่อง ดำเนินการสังหารหมู่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้
“อ๊าก…”
ท้ายที่สุดผู้แข็งแกร่งจำนวนมากต่างเสียขวัญ ตระหนักว่าหลินสวินผงาดขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว หาใช่ตะเกียงไร้น้ำมันไม่ หากแต่หวนสู่พลังต่อสู้สูงสุดอีกครั้ง
กอปรกับเป็นสักขีพยานเห็นการสังหารหมู่ที่อำมหิตเลือดเย็นของหลินสวินกับตา ได้เห็นว่าผู้แข็งแกร่งคนแล้วคนเล่าถูกเข่นฆ่าประหนึ่งของเปราะบางแตกหักง่าย ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ทำให้พวกเขาจิตหลุดวิญญาณกระเจิง ร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว พุ่งออกไปยังสี่ทิศแปดด้าน แตกตื่นไปทุกทิศทาง
เพราะพวกเขาล้วนถูกทำให้ตระหนกหวาดหวั่น สั่นเทิ้มหนาวเยือกไปทั้งตัว พลังอำนาจนั้นของหลินสวินไม่สามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้สักนิด มีหรือพวกเขาจะยังกล้าต่อต้านอีก
“มากันหมดแล้ว ยังคิดจะจากไปอีกหรือ”
น้ำเสียงของหลินสวินราบเรียบไม่ได้ดังกังวานแต่อย่างใด ทว่าเปี่ยมด้วยไอสังหารเย็นเยียบ พาให้บรรดาผู้แข็งแกร่งยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น
ตูม!
แสงศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้น แพรวพราวดุจธารดารา เปล่งประกายถึงขีดสุดโดยมีหลินสวินเป็นจุดศูนย์กลาง ราวกับภูเขาไฟอันไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งชนและระเบิดออกมา
แสงศักดิ์สิทธิ์น่าสะพรึงกลัวนั่นแผ่คลุมทั่วฟ้าดิน กวาดม้วนทั่วทศทิศ ปกคลุมบริเวณนี้เอาไว้สิ้น
ฉัวะๆๆ!
เพียงชั่วอึดใจเท่านั้น ไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งสักกี่มากน้อยที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์กวาดล้างกลายเป็นเศษเลือดชิ้นเนื้อกองหนึ่ง ตายในที่ต่างกันออกไป โลหิตไหลเป็นสายน้ำ ย้อมฟ้าดินเป็นสีแดงฉาน
ฉากนองเลือดอันโหดร้ายน่าสะพรึงกลัวนั้นทำให้อวี่เซียวเซิงที่อยู่ห่างออกไปแทบกลั้นหายใจ เขาเองก็หนีไปโดยไม่ล่าช้าอีก
พร้อมกันนั้นบุคคลระดับชั้นยอดของเผ่ากวางหยก เผ่าคชามาร และเผ่ากาฬพฤกษ์ก็เลือกจะหลบเลี่ยงลำแสงนั้นชั่วคราว เคลื่อนตัวหนีไปไกล
การเป็นปฏิปักษ์กับหลินสวินในเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตายเลยจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์