การต่อสู้ครั้งนี้มีผู้แข็งแกร่งตายไปเท่าใดกันแน่
ไม่อาจนับได้!
แต่การเข่นฆ่าแบบทำลายย่อยยับตลอดทางของหลินสวินนั้น กลับเป็นดั่งฝันร้ายซึ่งทำให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากล้วนจำขึ้นใจไม่ลืมเลือนไปชั่วชีวิต
“แย่แล้ว! เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนนั้นยังไม่ตาย ขะเขา… เขากำลังฆ่าผู้แข็งแกร่งจากทุกเผ่าอยู่!”
“น่ากลัวเกินไปแล้ว เขาเป็นราชาปีศาจชัดๆ สองมือเปื้อนคาวเลือด ไม่อาจพิชิตชัยได้!”
นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ บนท้องทะเลอันตระการตา เสียงร้องที่โกรธเกรี้ยวและตื่นตระหนกดังก้องขึ้น
ชั่วขณะนั้นแต่ละเผ่าที่รออยู่ละแวกใกล้เคียงแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างพากันตกตะลึง แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากการข้ามด่านเคราะห์อสนี ทั้งที่ถูกไล่สังหารตลอดทางจนเกือบสิ้นท่าแล้วแท้ๆ เหตุใดผลลัพธ์ถึงพลิกผันไปเสียได้
เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ถึงขั้นทำให้เขาสามารถลุยเดี่ยวขับเคี่ยวกับเหล่าผู้แข็งแกร่ง และโต้กลับอย่างทรงพลังแกร่งกล้าตลอดทาง
“พวกเด็กๆ เผ่าของข้าเหล่านั้น… ตายกันหมดแล้ว!?”
ทันใดนั้นมีคนใหญ่คนโตผู้หนึ่งคำรามอย่างดุร้าย ดวงตาแทบถลนเบ้า สุดท้ายถึงขั้นโกรธจนกระอักเลือดออกมา เกือบจะหมดสติไป
นี่คือบุคคลสำคัญแห่งเผ่าสิงห์โลหิต ผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตที่เข้าสู่แดนลับอสูรมารอริยะ เดิมทีก็ถูกทำลายราบคาบไปแล้ว เหลือแค่ธิดาเทพหลินหลางเพียงคนเดียวเท่านั้น
ใครเลยจะคาดคิด ครั้งนี้แม้แต่ธิดาเทพหลินหลางก็ประสบเคราะห์ เหลือเพียงจิตวิญญาณกลุ่มหนึ่งถูกเคลื่อนย้ายกลับมาเท่านั้น กระทั่งศุภโชคที่นางชิงมาจากเกาะอริยะปัญจธาตุก็ตกหล่นสูญหายไปสิ้น สิ่งนี้จะไม่ทำให้บุคคลสำคัญของเผ่าพวกเขาบันดาลโทสะได้อย่างไร
“น่าชังนัก! เจ้าเหลือเดินเผ่ามนุษย์คนนี้อาละวาดเกินไปแล้ว ไม่ว่าเขาเป็นใคร จะต้องไม่ปล่อยให้เขารอดชีวิตออกไปเป็นอันขาด!”
บุคคลสำคัญรุ่นอาวุโสอีกคนแผดเสียงคำราม แทบจะบ้าคลั่ง สถานการณ์ที่ทั้งเผ่าของพวกเขาพบเจอนั้น แทบจะไม่ต่างอะไรจากเผ่าสิงห์โลหิตเลย ถูกสังหารทำลายราบเช่นเดียวกัน
“อ๊าก สมควรตายนัก ข้าแทบอยากจะพุ่งเข้าแดนลับอสูรมารอริยะนั่น ไปทำลายล้างเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่ไร้มโนธรรมคนนั้นให้รู้แล้วรู้รอด!”
“น่าชังนัก! เผ่าของข้าเคยต้องประสบกับความอัปยศอดสูถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน เกือบถูกเจ้าเด็กเผ่ามนุษย์คนหนึ่งล้างบาง ไม่อาจให้อภัยได้แล้ว!”
ณ ที่นั้น เสียงตะคอกคำราม เสียงตะโกนเดือดดาลดังอย่างต่อเนื่องเป็นระลอกสั่นสะเทือนฟ้าดิน ทำให้ขุมกำลังแต่ละเผ่าต่างมองหน้าสบสายตากัน ภายในใจหวาดผวาและงงงัน
เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ไม่ถูกฆ่าตาย ตรงกันข้ามกลับกวาดล้างเหล่าผู้แข็งแกร่งทั้งหมด โหมกระพือพายุคาวเลือดเพียงลำพัง!
ครั้นข่าวนี้แพร่ออกมา ไม่ว่าใครต่างก็บันดาลโทสะ ทำให้ขุมกำลังแต่ละเผ่าในที่นั้นต่างอยู่ไม่สุข อึงคะนึงไม่สิ้น
ใครจะกล้าเชื่อ
เพิ่งจะบรรลุระดับหยั่งสัจจะก็น่ากลัวถึงเพียงนี้ แข็งกร้าวพลิกฟ้า สิ่งนี้จะให้ผู้ใดเชื่อถือได้ลงกันเล่า
ทว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน
เนื่องจากในวันนั้น บนแท่นบูชาวิญญาณที่สร้างขึ้นโดยเผ่าต่างๆ แทบจะมีความเคลื่อนไหวทุกชั่วขณะ เคลื่อนย้ายจิตวิญญาณชุดแล้วชุดเล่าออกมา ล้วนเป็นคนสำคัญของแต่ละเผ่าที่ถูกหลินสวินสังหารด้วยตัวคนเดียวทั้งสิ้น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามธิดาเทพหลินหลางปรากฏขึ้น ยิ่งเรียกความตื่นตะลึงไปทั่ว เพราะนั่นมีนัยว่าพลังต่อสู้ในปัจจุบันของหลินสวินมีอานุภาพในการกำราบและสังหารบุคคลระดับบุตรเทพธิดาเทพแล้ว!
พื้นที่ทะเลแห่งนี้ไม่อาจสงบได้อีกต่อไป คนใหญ่คนโตแทบทั้งหมดโกรธจนเต้นเร่า และมีบางส่วนที่สงสัยระคนตกใจไม่คลายลองคาดเดา ทุกคนล้วนถูกพายุนองเลือดฉากนี้เขย่าขวัญ สับสนอลหม่านไปหมด
“เด็กนี่ก้าวข้ามด่านเคราะห์อสนีไร้เทียมทานหกรอบโดยไม่ตาย เรียกได้ว่าหาตัวจับยากนับแต่บรรพกาล ซ้ำตอนนี้ยังพลิกสถานการณ์จากที่บาดเจ็บเจียนตาย กลายเป็นเปิดฉากตอบโต้รุนแรง กวาดล้างสังหาร เขา… เกรงว่าอาจจะเหยียบอยู่บนมรรคาในตำนานแล้ว!”
มีอาวุโสบางคนคาดการณ์เช่นนี้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่อาจอธิบายเรื่องนี้ได้
“มรรคาแห่งมกุฎที่แข็งแกร่งที่สุดในตำนานบรรพกาลหรือ เป็นไปไม่ได้ มรรคาสายนี้ฝืนฟ้าตัดวิถี ไม่รู้ว่ามีผู้กล้าไร้เทียมทานตั้งเท่าไรต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำบนหนทางสายนี้ แค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้นจะทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร”
มีคนใหญ่คนโตหลายคนไม่เชื่อ
“แม้จะเป็นมรรคาแห่งมกุฎ แต่อย่างไรเสียเขาก็เพิ่งบรรลุสู่ระดับหยั่งสัจจะ ไม่มีทางครอบครองพลังต่อสู้ที่แข็งกร้าวขนาดนี้ ต้องมีอะไรแปลกๆ ในนี้เป็นแน่!”
ผู้อาวุโสส่วนหนึ่งสัมผัสถึงความผิดปกติได้อย่างเฉียบคม
เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนนั้นโหดเหี้ยมเหลือล้น ประดุจมารบาปที่ไม่ยี่หระใต้หล้า ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ระดับหยั่งสัจจะมานานส่วนหนึ่งล้วนถูกเขาสังหาร นี่เป็นการทำลายความรู้ความเข้าใจที่คุ้นเคยกันมาแต่โบราณ เห็นชัดว่าผิดประหลาดมากเกินไป
“สนใจไปไยว่าเขาก้าวสู่มรรคาอะไร ตัวหายนะที่สร้างความเคียดแค้นชิงชังพรรค์นี้ ต้องกำจัดให้สิ้นซาก!”
นี่คือความในใจของบุคคลสำคัญจำนวนมาก ผู้แข็งแกร่งในเผ่าของพวกเขาได้รับความสูญเสียหนักหนาสาหัสเกินไป นี่เป็นความอัปยศอดสู หนี้แค้นโลหิต ไหนเลยพวกเขาจะยอมปล่อยให้หลินสวินมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ในที่นั้นมีเพียงผู้เฒ่าเกาหยางเท่านั้นที่นิ่งเงียบอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เปล่งเสียงสักคำ
ผู้แข็งแกร่งเผ่ามนุษย์ที่เข้าสู่แดนลับอสูรมารอริยะในครั้งนี้ มีเพียงผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณของพวกเขาและผู้ติดตามส่วนหนึ่งเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้ผู้เฒ่าเกาหยางมั่นใจมากว่า ‘เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์’ ที่ก่อเรื่องจนเดือดร้อนไปทั่วคนนั้น จะต้องมาจากฝั่งของตนอย่างแน่นอน
กระนั้นในใจเขายังสงสัยยิ่งว่า ‘เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์’ ผู้นี้คือผู้ติดตามที่มีนามว่าหลินเสวียนคนนั้น!
เพียงแต่เขาไม่กล้าปักใจเชื่อ เนื่องจากเขาเองก็ค่อนข้างงุนงงเช่นเดียวกัน พลังต่อสู้ของเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนนั้นแข็งกร้าวและเย้ยฟ้าเกินไป ถ้าเป็นหลินเสวียนจริงๆ ก็เหลือเชื่อเกินไปแล้ว
อย่างไรเสียหลินเสวียนก็ไม่ใช่ผู้ฝึกปราณของดินแดนรกร้องโบราณ เขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มจากจักรวรรดิจื่อเย่าผู้เติบโตขึ้นมาในโลกชั้นล่างที่แห้งแล้งคนหนึ่งเท่านั้น
เด็กหนุ่มเช่นนี้ จะมีพรสวรรค์และพลังที่พลิกฟ้าเยี่ยงนี้ได้หรือ กระทั่ง… เป็นไปได้ว่าจะก้าวลงบนมกุฎมรรคาอันแข็งแกร่งที่สุดด้วย
ไม่นานผู้เฒ่าเกาหยางก็ไม่อาจคิดมากได้อีกต่อไป เนื่องด้วยบุคคลสำคัญจำนวนมากต่างจ้องเขาด้วยความโกรธ หันปลายหอกพุ่งมาที่ตัวเขา ทยอยข่มขู่และซักไซ้ไล่เลียงที่มาของ ‘เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์’ คนนี้
ถึงขั้นที่เผยจิตสังหารอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย แสดงออกว่าจะไม่ปล่อยให้ ‘เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์’ มีชีวิตรอดออกไปจากทะเลกลืนวิญญาณ
สิ่งนี้นอกจากทำให้ผู้เฒ่าเกาหยางปวดหัวแล้ว ในใจยังมีความภาคภูมิประหลาดอย่างหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์