น้ำในน่านน้ำนี้ใสสะอาด แสงอาทิตย์อบอุ่น ฟองคลื่นพลิ้วไหว มองไปไร้ที่สิ้นสุด กว้างใหญ่ไพศาลราวกับดินแดนเซียน
เรือเล็กลำหนึ่งลอยอยู่บนผิวน้ำ แล่นเอื่อยเฉื่อยไปทางทิศตะวันตก
ในเรือเล็กมีเสียหัวเราะแหะๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าคางคกดังขึ้นตลอด เขากำลังจัดการสิ่งที่ได้มาจากแดนลับอสูรมารอริยะ ริบฝีปากฉีกยิ้มกว้าง
ของที่ได้รับมากมายเกินไปแล้ว!
ทั้งโอสถวิญญาณและแร่ธาตุหายากแน่นขนัด ทั้งสมบัตินานาชนิดที่ปล้นจากศพของศัตรู ของล้ำค่าเต็มไปหมด แสงสมบัติไหลเวียน
นี่ทำให้เจ้าคางคกพึงพอใจอย่างยิ่ง
ที่ทำให้เขาปรีดาที่สุดก็คือ เขายังค้นพบมรดกพรสวรรค์อันเป็นของเผ่าคางคกทองสามขาของเขา ในระหว่างหยั่งรู้ในตำหนักโบราณที่ยอดเขา!
ตัวเขาในอดีตพลังการต่อสู้ไม่โดดเด่นมาโดยตลอด ถูกตามเล่นงานจนสะบักสะบอมอยู่เสมอ หากไม่ใช่ว่าหนังเหนียว พลังชีวิตแข็งแกร่ง ไม่รู้ว่าจะถูกฆ่าตายไปกี่ครั้งแล้ว
แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน เขาเริ่มหยั่งรู้วิชามรดกพรสวรรค์ที่อยู่ในสายเลือดคางคกทองสามขาแล้ว พลังการต่อสู้จะแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่นับวันรอได้เลย!
“ให้ตายสิ นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว!”
ทว่าเมื่อเจ้าคางคกเห็นหลินสวินที่กำลังจัดการทรัพย์หลังศึกอยู่อีกด้านหนึ่งก็พลันตะลึงงัน ดวงตาเหม่อลอย ความได้ใจมลายหาย แปรเปลี่ยนเป็นอิจฉาตาร้อน
ด้วยเห็นว่าบนพื้นเบื้องหน้าหลินสวินมีโอสถวิญญาณ สมบัติล้ำค่าและวัตถุดิบวิญญาณหายากกองเป็นภูเขาลูกย่อมๆ
ทั้งยังมีสมบัตินานาชนิดกองเป็นภูเขาลูกน้อย ของจำพวกอาวุธนั้นมีอยู่มากมายไม่ต้องพูดถึง ที่หายากที่สุดก็คือ ยังมีสมบัติโบราณมากมาย!
นอกจากนี้ก็มีตำราวิชาสิบกว่าม้วน โอสถลูกกลอนวิญญาณชั้นเลิศหลายขวดหลายไห ผลึกวิญญาณชั้นเยี่ยมหายากกองแล้วกองเล่า…
มากมายเกินไปแล้ว!
เมื่อทอดสายตามองไป แสงสมบัติงดงามเปล่งประกายเจิดจ้า พาให้คนอิจฉาจนบ้าคลั่งได้
เหล่านี้ย่อมเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวิน!
ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่เขาค้นพบเก็บเกี่ยวด้วยตัวเอง แต่โดยมากเป็นสิ่งที่ได้มาจากศัตรู
ดังคำกล่าวที่ว่าคนเราไม่มีความโหดเหี้ยมไม่อาจมั่งคั่ง ม้าไม่ได้หญ้ายามค่ำไม่อาจอวบอ้วน
มิเน่าเล่าในแดนลับอสูรมารอริยะ ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าถึงได้ชอบสังหารผู้อื่นแล้วชิงสมบัติ การได้มาซึ่งวาสนาโดยใช้ความรุนแรงเช่นนี้ ช่างเป็นวิธีการที่ตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพที่สุดในการสั่งสมความมั่งคั่ง
“อ๊บ!”
เจ้าคางคกกระโจนออกไปอย่างลับๆล่อๆ ท่าทีหมายจะแบ่งเอาผลประโยชน์เข้าตัวด้วย
“ไปตายซะ!”
ฝ่ามือข้างหนึ่งของหลินสวินตบลงบนท้ายทอยของเจ้าคางคก จากนั้นก็ใช้เท้าข้างหนึ่งเตะเขาให้กระเด็นออกไป
“ข้าคอยระวังให้เจ้าตลอดทาง ต่อให้ไม่มีความดีก็ต้องมีความชอบนะ เจ้าหนูเจ้ายังคิดจะอมของที่ได้มาทั้งหมดไว้คนเดียวหรือ”
เจ้าคางคกสีหน้าขัดเคือง
หลินสวินเก็บทรัพย์หลังศึกทั้งหมดลงไปในคราวเดียวแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้าก็ไม่ได้ขาดสมบัติ ให้เจ้าก็เปลืองเปล่า”
เจ้าคางคกโกรธจนกัดฟัน “ไม่คิดเลยว่าเจ้าถึงกับพูดว่าจะฮุบทุกอย่างได้หน้าตาเฉยเช่นนี้ ช่างไร้ยางอายไปแล้ว! ข้าไม่เคยพบเคยเห็นคนแล้งน้ำใจไร้ยางอายกว่าเจ้ามาก่อนเลย!”
หลินสวินกลอกตา ไม่สนใจเขาอีก แล้วนำเจดีย์สมบัติไร้อักษรออกมา
แท้จริงแล้ว ผลเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างเข้าไปในแดนลับอสูรมารอริยะครั้งนี้ ล้วนเก็บไว้ในชั้นหนึ่งของเจดีย์สมบัติไร้อักษรนี้
เพราะสิ่งที่เก็บไว้ในนั้นคือทรัพย์หลังศึกที่ได้มาจากเหล่าบุคคลระดับบุตรเทพ!
อย่างหลินหลางธิดาเทพเผ่าสิงห์โลหิต อวี่เซียวเซิงบุตรเทพเผ่าวาฬมังกร
หรืออย่างบุตรเทพเผ่ากวางหยกกับกงหยางอวี่ ที่ถึงกับถูกสังหารอย่างสิ้นซาก สมบัติที่พวกเขาทิ้งไว้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างหาใดเทียบ
เช่นเดียวกัน พวกหนิวทุนเทียน ข่งซิ่ว เสวียนหลัวจื่อก็ถูกหลินสวินเอาชนะ ท้ายที่สุดแม้จิตวิญญาณหลบหนีไปได้ แต่ร่างกายกับสมบัติที่อยู่กับตัวล้วนทิ้งไว้ในที่นั้น
สิ่งเหล่านี้กลายเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวินเพียงผู้เดียวไปโดยปริยาย
หลินสวินในตอนนี้ก็กำลังจัดระเบียบทรัพย์หลังศึกที่คุณค่าเลิศล้ำเหล่านี้
ในระหว่างที่จัดระเบียบทำให้เขารู้สึก ‘ตื่นตะลึงเมื่อได้เห็น’ อยู่บ้าง สูดลมหายใจหนาวเยือกไม่หยุดหย่อน
ไม่ใช่เรื่องอื่นใด สมบัติมีมากมายหลายชนิดเกินไปแล้ว ทั้งยังล้วนเป็นของชั้นเลิศ ขนาดจะหาของทั่วไปสักชิ้นยังยาก!
โดยเฉพาะ ในนั้นยังมีทวนกระดูกมังกรเล่มหนึ่งที่อวี่เซียวเซิงทิ้งไว้ กับบรรทัดหยกสีเขียวเจิดจ้าเล่มหนึ่งที่บุตรเทพเผ่ากวางหยกทิ้งไว้
เห็นได้ชัดว่าสองชิ้นนี้เป็นอาวุธบรรพบุรุษ สมบัติลับของเผ่าพวกเขา!
ทวนกระดูกมังกรนามว่า ‘ทวนศึกผนึกฟ้า’
บรรทัดหยกสีเขียวนามว่า ‘บรรทัดทลายปั่นป่วน’
แม้จะถูกกำราบอยู่ในเจดีย์สมบัติไร้อักษร สมบัติลับสองชิ้นนี้ก็ยังคงดิ้นรนอยู่ จิตวิญญาณไม่อาจสยบยอม ดูมหัศจรรย์ถึงที่สุด
หลินสวินไม่สงสัยเลยว่า ทันทีที่เอาพวกมันออกมา เพียงอาศัยพลังของตนย่อมไม่มีทางควบคุมมันได้ กลับกันจะทำให้พวกมันหนีไป!
โชคดีที่เจดีย์สมบัติไร้อักษรอัศจรรย์ยิ่ง พันธนาการพวกมันไว้ทั้งหมด แต่ในเวลาอันสั้นเกรงว่าหลินสวินจะไม่อาจนำมาใช้ได้
นอกเสียจากว่าเขามีความสามารถหลอมสมบัติลับสองชิ้นนี้ได้อย่างหมดจด แต่เห็นได้ชัดว่าเขาในตอนนี้ยังทำไม่ได้อีกนาน
นอกจากนี้ สิ่งที่อยู่กับตัวบุคคลระดับบุตรเทพเหล่านี้มากที่สุดก็คือยาลูกกลอนวิญญาณและวิชาที่จำเป็นต่อการฝึกปราณนานาชนิด
อย่าง ‘คัมภีร์ยุทธจักร’ ของเผ่าสิงห์โลหิต ‘วิชาสำรอกรู้ตน’ ของเผ่าวาฬมังกร ‘วิชาสมบัติร่างค้อนอสนีแกร่งของเผ่าวัวมารทรงพลัง ‘คัมภีร์หกเกราะผนึกมาร’ ของเผ่าโห่วเมฆาเป็นต้น
วิชายุทธ์ทุกเล่มล้วนมีความมหัศจรรย์ของมันเอง เป็นมรดกลับของแต่ละเผ่า ภายในมีแก่นอัศจรรย์มหามรรค คุณค่าเหลือคณา
หากแพร่งพรายออกไปต้องก่อให้เกินความโกลาหลครั้งใหญ่ พาให้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนห้ำหั่นแก่งแย่ง
ทว่าตอนนี้ มรดกลับเหล่านี้ล้วนกลายเป็นของที่อยู่ในการครอบครองของหลินสวินแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์