Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 636

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 636 ยานขนส่งอวกาศ
ตอนที่ 636 ยานขนส่งอวกาศ
โดย
ProjectZyphon
สวบ!

ยานเล็กสีเงินทอประกาย รูปร่างคล้ายกระสวยแหลม มีค่ายกลกระบวนโบราณแน่นขนัดไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งลำ กำลังแหวกห้วงอากาศเป็นเส้นตรงหนึ่งสาย พริบไหวบางเบาก็ข้ามผ่านไปหลายร้อยลี้

ยามที่มันอันตรธานลับไป ในอากาศจึงมีเสียงหวีดแหลมดังขึ้นระลอกหนึ่ง ซ่านกระจายบนเวิ้งนภา บดขยี้ปุยเมฆจนกลายสภาพเป็นเส้นฝอย

ความเร็วไวเกินไปแล้ว!

แทบเหมือนการเคลื่อนย้ายในพริบตา ทำให้ผู้คนยากจะจับร่องรอยของมันได้

“นี่ก็คือยานขนส่งอวกาศ สมบัติที่เลื่องระบือจากยุคบรรพกาล ทั้งยังหลอมจาก ‘ผลึกอากาศ’ ที่อริยะเก็บรวมมาจากนอกดินแดน บนนั้นปกคลุมด้วยกระบวนค่ายกลต้องห้ามหนึ่งหมื่นสามพันเก้าร้อยภาพ เมื่อเปิดใช้งาน ได้ฉายาว่า ‘พันลี้เพียงชั่วพริบตา หมื่นลี้ไร้ร้องรอย’ เมื่อเทียบกับวิชาเคลื่อนย้ายที่แท้จริงแล้วก็ต่างกันไม่เท่าไร”

ในยานเล็ก เสียงกระจ่างใสราวเสียงแห่งธรรมชาติของอาหูดังก้องขึ้น

นางสวมชุดกระโปรงสีเหลืองขนห่าน เรือนผมปลิวสยาย ดวงหน้างามงอนขาวเนียน ยืนอยู่ด้านหน้าของห้องโดยสาร รูปร่างอ้อนแอ้นสูงโปร่งมีกลิ่นอายโดดเด่นพิสุทธิ์อย่างหนึ่ง

“น่าเสียดาย พอผ่านการกัดเซาะแห่งกาลเวลา สมบัติชิ้นนี้ตกทอดมาถึงปัจจุบัน กระบวนค่ายกลส่วนใหญ่ล้วนสึกกร่อนเสียหาย สูญสิ้นแสนยานุภาพ ที่พอจะสามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน ก็หลงเหลือไม่ถึงสามพันค่ายกลต้องห้ามเท่านั้น”

อาหูถอนหายใจเนือยๆ คล้ายกับสลดใจ

หลินสวินและเจ้าคางคกที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างพิศวงเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าอาหูถึงขั้นรู้จักสมบัติชิ้นนี้เป็นอย่างดี กระทั่งยังรู้ถึงการสืบสานและต้นกำเนิดของมันด้วย ข้อนี้เห็นได้ชัดว่าดูผิดวิสัยมากเกินไปแล้ว

“แน่นอน แม้ว่าสมบัติชิ้นนี้จะชำรุดเสียหาย ความเร็วอันน่าทึ่งของมันก็ไม่ใช่สิ่งที่สมบัติชิ้นอื่นๆ จะเทียบเคียงได้เลย”

อาหูช้อนสายตาขึ้น ใบหน้าดวงน้อยที่เจือกลิ่นอายงามพิสุทธิ์เรียบง่ายพลันฉายรอยยิ้มขึ้น “สิ่งสำคัญที่สุดคือ การป้องกันของมันก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ยามที่ข้ามผ่านทะเลกลืนวิญญาณ มันมีความสามารถเพียงพอจะสลายพิบัติภัยมากมายที่เข้ามากล้ำกราย”

เจ้าคางคกแค่นเสียงเย็นชา “ต่อให้ร้ายกาจแค่ไหน ก็สกัดกั้นการจู่โจมของราชันระดับสังสารวัฏไม่ได้ไม่ใช่หรือ?”

เขาไม่พอใจอาหูมาโดยตลอด คิดว่านี่คือตัวต้นเหตุคนหนึ่ง ถึงแม้จะงามน่าตะลึง ทว่ากลับเป็นนางมารคนหนึ่ง

“สกัดไม่ไหวอยู่แล้ว”

อาหูไม่ใส่ใจ กล่าวพลางหัวเราะร่วน “แต่ว่า อาศัยสมบัติชิ้นนี้ ก็เพียงพอทำให้พวกเราหลบเลี่ยงการจู่โจมของราชันระดับสังสารวัฏได้”

ทันทีที่ประโยคนี้เอ่ยออกมา แม้กระทั่งเจ้าคางคกก็จนคำจะตอบโต้ ตะลึงงันไปหนึ่งยก

สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของราชันระดับสังสารวัฏได้ สมบัติชิ้นนี้ก็เรียกได้ว่าเย้ยฟ้าแล้ว เป็นอาวุธชั้นยอดที่หลีกหนีสิ่งที่ต้องการได้อย่างสิ้นเชิง!

“กระทั่งอยู่ในสภาพชำรุดยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าตอนที่ยังสมบูรณ์พร้อมสมบัติชิ้นนี้จะวิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อสักแค่ไหน…”

นัยน์ตาดำสนิทของหลินสวินฉายประกายแห่งความประหลาดใจ

เขาเป็นปฐมาจารย์สลักวิญญาณ ตั้งแต่เข้ายานขนส่งอวกาศลำนี้ ก็ถูกกระบวนแผนภาพเก่าแก่ที่ปกคลุมทั่วดึงดูดความสนใจไปสิ้น ย่อมมองออกได้ไม่ยาก กระบวนแผนภาพส่วนใหญ่ภายในนั้นล้วนสึกกร่อนและแตกหัก สูญเสียความสามารถอันทรงพลังดังเช่นที่ผ่านมาแล้ว

ทว่าแม้จะเป็นดังนี้ก็ยังทำให้หลินสวินลอบอุทานด้วยอารามตกใจ กระบวนแผนภาพโบราณเหล่านี้ ไม่มีภาพไหนเลยที่ไม่เจือร่องรอยอันเกี่ยวข้องกับมหามรรค น่าอัศจรรย์สุดหยั่งรู้

“ตอนที่สมบัตินี้สภาพสมบูรณ์ ก็เป็นถึงสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่อริยะผู้หนึ่งหลอมขึ้น อานุภาพนั้นมีหรือจะปกติธรรมดา” อาหูแย้มสรวลอธิบาย

หลินสวินตระหนักได้โดยพลัน รอยสลักวิญญาณที่แฝงอยู่ในกระบวนแผนภาพโบราณเหล่านั้นเรียกไม่ได้ว่าลี้ลับมากมาย สิ่งที่ร้ายกาจอย่างแท้จริงคือร่องรอยมหามรรคที่ประทับอยู่บนกระบวนแผนภาพนั่นต่างหาก!

นั่นเป็นพลังที่อริยะหลงเหลือไว้ ไม่ใช่สิ่งที่หลินสวินสามารถทำความเข้าใจและหยั่งถึงได้ในตอนนี้

“แม่นางอาหู เจ้าเองก็จะไปจักรวรรดิจื่อเย่าด้วยหรือ” หลินสวินถามอย่างกะทันหัน

แม้รับปากแล้วว่าจะเดินทางกับอาหู ทว่าจนบัดนี้หลินสวินก็ยังมองไม่ออกถึงเจตนาของหญิงนางนี้

อาหูยิ้มบางๆ แววตาสุกปลั่งทอประกาย เรียวฟันขาวกระจ่าง กล่าวว่า “คุณชาย รอยามที่สถานการณ์ของพวกเราปลอดภัย ข้าย่อมแถลงไขด้วยตัวเอง”

“เฮอะ! อ้ำๆ อึ้งๆ จะต้องมีเจตนาเป็นอื่นแน่” เจ้าคางคกยิ่งเขม่นอาหูมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้แผนการลึกล้ำเกินไป

ตูม!

และในเวลานี้เอง การเปลี่ยนแปลงประหลาดพลันอุบัติขึ้น

พลังไร้รูปสายหนึ่งปิดฟ้าคลุมดิน ร่วงหล่นจากเวิ้งนภา บดขยี้ห้วงอากาศทั่วทั้งผืน เกิดเป็นเสียงคำรามน่ากลัว

ภายใต้อิทธิพลของพลังน่าหวาดกลัวระดับนี้ ยานขนส่งอวกาศทั้งลำพลันสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง บังเกิดเสียงดังหึ่ง โคลงเคลงอยู่ไม่ขาด

ในใจหลินสวินและเจ้าคางคกต่างสั่นเทิ้มตามๆ กัน พลังน่าสะพรึงยิ่งนัก!

“คุณชาย เคราะห์สังหารมาเยือนแล้ว”

กลับเห็นอาหูทัดผมดำไว้ข้างหู บนดวงหน้างามวิไลแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังจริงจังอย่างที่พบไม่บ่อยนัก

กล่าวไปพลาง นางบังคับยานขนส่งอวกาศไปด้วย เริ่มทำการหลบเลี่ยง

ครืนครืน~

กระบวนแผนภาพโบราณนับไม่ถ้วนปานกระแสน้ำต่างเปล่งแสง เอ่อล้นรอบยานขนส่งอวกาศ เจิดจ้าพราวตา เพียงชั่วขณะเท่านั้นความเร็วก็เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งเท่าในบัดดล!

พลันเห็นว่ากลางอากาศ สมบัติชิ้นนี้ดุจดั่งแสงวาววับสายหนึ่ง ไหววูบไม่อยู่นิ่ง เหินล่องราวกับสายฟ้าแลบ รอดพ้นไปจากการปกคลุมของพลังอันน่าสะพรึงนั่นได้อย่างรวดเร็ว

และในขณะเดียวกันนั้น หลินสวินกับเจ้าคางคกตระหนักได้ว่า ในบริเวณอันไกลโพ้นปรากฏเงาร่างกำยำร่างหนึ่ง กลิ่นอายพวยพุ่งฟ้าดิน สั่นคลอนภูผาธารา ประดุจราชันอย่างแท้จริงมาเยือนโลกมนุษย์!

นั่นคือชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีม่วงผู้หนึ่ง ผมเคราดำสนิทราวกับหมึก ในดวงตาประหนึ่งมีสุริยันจันทราดาราปรากฏอยู่ในนั้น พลังอำนาจไม่อาจวัดได้

นี่ต้องเป็นราชันระดับสังสารวัฏผู้หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!

การโจมตีเมื่อครู่นั้น ก็ย่อมมาจากชายกลางคนชุดคลุมม่วงด้วยเช่นกัน

“ข้าเคยพบชายคนนั้นในงานชุมนุมประมูลสมบัติ เป็นผู้อาวุโสของเผ่าวิหคเพลิงคะนอง มารดามันเถอะ แบบนี้ก็หมายความว่าพวกเขาไล่สังหารมาแล้วจริงๆ!?”

สีหน้าของเจ้าคางคกเปลี่ยนไปอย่างมาก

การไล่สังหารของราชันระดับสังสารวัฏเชียวนะ ใครไม่อกสั่นขวัญแขวนได้

เวลานี้ปราศจากการช่วยเหลือจากวานรเฒ่าลึกลับผู้นั้นแล้ว มีก็แต่ยานสมบัติลำหนึ่งเท่านั้น จะสามารถทำให้พวกเขาหลีกเลี่ยงเคราะห์สังหารระดับนี้ไปได้หรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์