Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 646

สรุปบท ตอนที่ 646: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 646 – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 646 ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 646 ฟ้าดินผิดปกติ สัตว์อสูรมารปรากฏ
ตอนที่ 646 ฟ้าดินผิดปกติ สัตว์อสูรมารปรากฏ
โดย
ProjectZyphon
ตายแล้ว?

เย่หลิงถงอึ้ง หรือหลินสวินที่ตนเห็น ไม่ใช่คนเดียวกันกับที่ผู้อาวุโสพูดถึง?

ทว่าหลังจากนางอธิบายรูปลักษณ์ของหลินสวิน คำตอบของเย่ฉิงเทียนทำให้นางตระหนักได้ว่า ที่แท้หลินสวินทั้งสองคนนี้ก็คือคนเดียวกันดังคาด

“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะรอดกลับมาจากส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณจริงๆ…”

แม้ว่าเย่ฉิงเทียนจะเป็นราชันระดับสังสารวัฏ แต่ตอนนี้เมื่อแน่ใจแล้วว่าหลินสวินยังมีชีวิตอยู่ ในใจก็ยังเกิดคลื่นระลอกใหญ่อย่างควบคุมไม่อยู่

ในข่าวที่เขาได้ยินมากล่าวว่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อน หลินสวินถูกตามฆ่าในส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณ คนที่ลงมือเป็นถึงกลุ่มสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับสังสารวัฏ!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แทบไม่มีใครเชื่อว่าหลินสวินจะยังสามารถรอดกลับมาได้ ตอนที่เย่ฉิงเทียนรู้ข่าวนี้ก็เคยถอนหายใจอย่างเสียดาย

เรียกได้ว่าในบรรดาคนรุ่นหนุ่มสาวของจักรวรรดิ ถ้าพูดถึงบุคคลระดับผู้กล้าที่สะดุดตาและโดดเด่นที่สุด หลินสวินคือที่หนึ่ง!

ปาฏิหาริย์และเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ที่เกิดขึ้นในตัวเขายิ่งมากจนนับไม่ถ้วน

ถ้าเด็กหนุ่มผู้กล้าระดับนี้ตายไป ถือว่าเป็นความสูญเสียอันหนักหน่วงสำหรับจักรวรรดิ

แต่ใครจะสามารถจินตนาการได้ว่า หลินสวินที่ลือกันว่าตายไปแล้วกลับรอดกลับมา! น่าทึ่งเกินไปแล้ว

ถูกราชันระดับสังสารวัฏตามฆ่าเชียวนะ! ถ้าเย่ฉิงเทียนเป็นหลินสวินยังรู้สึกหนังหัวชาวาบ

สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดคือ เขาตัวคนเดียวกลับสามารถรอดชีวิตจากส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณที่เต็มไปด้วยอันตรายได้ นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากจริงๆ

ถึงอย่างไรเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ฝึกปราณที่สามารถเข้าไปในทะเลกลืนวิญญาณได้ อย่างน้อยๆ ต้องมีพลังปราณระดับราชันสังสารวัฏ

หากผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ บุกเข้าไปโดยพลการ เก้าในสิบส่วนจะต้องมอดม้วยอย่างแน่นอน

แต่หลินสวินกลับรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย!

กลุ่มราชันระดับสังสารวัฏยังไม่สามารถพรากชีวิตเขาไปได้ แม้แต่ทะเลกลืนวิญญาณอันโหดร้ายก็ไม่สามารถหยุดฝีเท้าที่จะกลับจักรวรรดิจื่อเย่าได้

ในสถานการณ์เช่นนี้จะไม่ให้เย่ฉิงเทียนตะลึงได้อย่างไร

แน่นอนว่าเขาเป็นราชันระดับสังสารวัฏคนหนึ่ง เรื่องธรรมดาย่อมไม่สามารถทำให้เขารู้สึกอะไรได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินสวินเหลือเชื่อมากจริงๆ ทำให้เย่ฉิงเทียนไม่สามารถนิ่งเฉยไว้ได้

บรรยากาศค่อนข้างเงียบ

เย่หลิงถงสัมผัสได้อย่างมีไหวพริบว่า หลังจากมั่นใจในฐานะของหลินสวินแล้ว แม้แต่ผู้อาวุโสเองก็ดูเหมือนจะตะลึง

ทำให้นางยิ่งสงสัยว่าหลินสวินคนนั้น… เป็นใครกันแน่ เขาดูเหมือนเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่พลังต่อสู้เก่งกาจมากก็เท่านั้น ทว่าชนชั้นนำตระกูลเย่ทุกคนที่พูดถึงชื่อของเขา เหตุใดสีหน้าถึงล้วนเปลี่ยนไป

เย่หลิงถงแอบตัดสินใจ ว่าต่อไปจะรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับหลินสวิน เพื่อไปทำความเข้าใจว่าเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความลึกลับคนนี้เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์จากไหนกันแน่

“ตั้งแต่เขาหายตัวไปจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งปีเต็มแล้ว และตอนที่ข่าวการตายของเขาได้รับการยืนยัน นครต้องห้ามยิ่งเกิดความวุ่นวายขึ้นไม่น้อย แต่ตอนนี้…”

สายตาของเย่ฉิงเทียนลึกล้ำ หว่างคิ้วเผยแววประหลาด “ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว! เมื่อเขาหวนกลับนครต้องห้ามอีกครั้ง จะต้องเกิดมรสุมใหญ่โตแน่!”

……

ฟิ้ว!

ยานขนส่งอวกาศเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุดกลางอากาศ ราวกับสายฟ้าแลบที่ไหววาบและหายไปที่ปลายขอบฟ้า

ในที่สุดเขาก็กลับมาที่จักรวรรดิจื่อเย่าแล้ว ทำให้หลินสวินรู้สึกผ่อนคลายและดีใจเหมือนนกที่ได้กลับเข้ารัง

ด้วยระดับพลังปราณของเขาในตอนนี้บวกกับยานขนส่งอวกาศ แม้ราชันระดับสังสารวัฏมาเอง เกรงว่าก็คงหยุดเขาไม่ได้

เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ใช่การปะทะกันซึ่งๆ หน้า ระดับที่ต่ำกว่าราชันระดับสังสารวัฏ ไม่มีใครสามารถข่มขวัญหลินสวินได้อีกแล้ว!

ดังนั้นระหว่างทางกลับไปนครต้องห้าม หลินสวินจึงไม่อำพรางและไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่เหนือความคาดหมายขึ้น

‘ลองนับดูแล้ว ครั้งนี้ข้าจากไปครึ่งปีเต็มแล้ว ก็ไม่รู้ว่าพวกซย่าจื้อ ลุงจง เสี่ยวเคอ พญาแร้ง จูเหล่าซานจะเป็นอย่างไรบ้าง…’

ระหว่างทางความคิดของหลินสวินกำลังโลดแล่น คิดถึงญาติพี่น้องและสหายเก่ามากมาย จิตใจอดล่องลอยไม่ได้ ไม่ได้เจอกันครึ่งปี ตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

“หืม?”

ทันใดนั้นคลื่นสงครามระลอกหนึ่งพลันกระจายออกมาจากระยะไกล ทำให้หลินสวินตื่นจากห้วงความคิด

นี่เป็นเทือกเขาสลับทับซ้อนและรกร้าง รอบๆ ไม่มีบ้านเมือง ดูเก่าแก่และดั้งเดิมอย่างมาก

และตอนนี้ มีศึกหนึ่งกำลังระเบิดขึ้นที่นั่น!

ขบวนพ่อค้าประมาณสามสี่สิบคน ถูกสัตว์อสูรมารจำนวนนับไม่ถ้วนปิดล้อมอยู่ในหุบเขาและกำลังเข่นฆ่ากันอย่างรุนแรง

“ในอาณาเขตจักรวรรดิจื่อเย่ามีสัตว์อสูรมารมากมายเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

หลินสวินแปลกใจไม่น้อย พลันชะลอความเร็ว

สิ่งที่ถูกเรียกว่าสัตว์อสูรมารนี้ เป็นสัตว์ประหลาดที่เปิดสติปัญญา รู้จักการบำเพ็ญตน หรือสามารถเรียกอย่างกว้างๆ ว่าเป็นอสูรมารบำเพ็ญ

สัตว์อสูรมารระดับนี้ ความสามารถนั้นมากกว่าสัตว์ปีศาจทั่วไป เหล่าสัตว์อสูรมารระดับราชัน ถึงขั้นสามารถเทียบกับมหายุทธ์ชาวมนุษย์ได้ เรียกลมเรียกฝน ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

เพียงแต่เท่าที่หลินสวินรู้ เมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่กระจายอยู่ในจักรวรรดิจื่อเย่ามากที่สุดเป็นเพียงสัตว์ปีศาจธรรมดา น้อยมากที่จะเห็นสัตว์อสูรมาร

แต่ตอนนี้สัตว์อสูรมารในหุบเขากลับหนาแน่นราวกับกระแสน้ำ มีทั้งสัตว์ปีกสีทองอร่ามและมีสัตว์บกที่วิ่งเหมือนสายฟ้า รูปร่างแปลกประหลาด มีกลิ่นอายดุร้าย

เสียงคำรามนั่นราวกับเสียงร่ำไห้ของผีสาง ก้องกังวานอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่น

ดูผิดปกติมาก!

“หรือเพราะพิบัติมหามรรคที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ฟ้าดินผืนนี้จึงค่อยๆ เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงแปลกประหลาดบางอย่างขึ้น”

หลินสวินขมวดคิ้ว

ไม่นานเขาก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าขบวนพ่อค้าที่ถูกสัตว์อสูรมารจำนวนนับไม่ถ้วนล้อมโจมตีอยู่นั้น มีธงของอัครการค้าแขวนอยู่!

หลินสวินหยุดนิ่งทันใด และเก็บยานขนส่งอวกาศอย่างไม่ลังเล เคลื่อนไหวลงจากอากาศและเข้าไปใกล้หุบเขา

มู่หวั่นซูแปลกใจ

“ใช่แล้ว ข้าเพิ่งตื่นจากการหลับใหล ต้องการเข้าใจโลกนี้ใหม่ และพวกเจ้าก็คือคนที่ข้าเลือก”

ราชันอินทรีแดงน้ำเสียงเรียบเฉย แฝงกลิ่นอายที่ไม่เปิดโอกาสให้สงสัย

“เจ้าให้มนุษย์อย่างข้ายอมจำนนต่อสัตว์เดรัจฉานอย่างเจ้างั้นหรือ”

มู่หวั่นซูหนาวเยือกอย่างสิ้นเชิง ราวกับตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง “ช่างเถอะ ตายก็ตาย แต่ก่อนตายข้าขอเอาสัตว์เดรัจฉานพวกนี้ไปลงนรกด้วย!”

เห็นว่ามู่หวั่นซูจะเข้าไปสู้สุดชีวิต หวังหลินก็ตาแทบถลน อดส่งเสียงตะโกนอย่างเศร้าโศกไม่ได้ “คุณหนูหวั่นซู…!”

“รนหาที่ตาย!”

ราชันอินทรีแดงเหินขึ้นกลางอากาศ กระพือปีกเกิดเป็นเปลวไฟสูงพันจั้ง เดือดดาลพลุ่งพล่าน ราวกับสามารถหลอมสรรพสิ่งได้

มันโดดเด่นมาก สติปัญญาและพลังนั้นไม่ต่างอะไรกับมหายุทธ์มนุษย์เลยสักนิด

ตอนนี้หวังหลินหมดหวังอย่างสิ้นเชิง ราชันอินทรีแดงนั่นน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ คุณหนูหวั่นซูจะยังมีโอกาสรอดชีวิตได้อย่างไร

ฉัวะ!

ทันใดนั้นแสงดาบสีเงินปรากฏขึ้น สว่างไสวอย่างหาที่เปรียบมิได้ พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

นั่นอะไร หวังหลินตกใจทันที

“หืม?”

ยามนี้ราชันอินทรีแดงเองก็หวาดหวั่น มันปล่อยมู่หวั่นซู แล้วเปลี่ยนทิศทางหมายจะหนีการโจมตีนี้

แต่แสงดาบนั่นว่องไวและรุนแรงเกินไป รวดเร็วจนเหลือเชื่อ ราวกับธารดาราที่โคจรย้อนกลับ หลั่งไหลเข้ามาในโลก

พลันได้ยินเสียงฟุ่บหนึ่ง ราชันอินทรีแดงไม่สามารถหลบได้ ปีกที่ราวกับสร้างขึ้นด้วยหินหนืดของมันถูกผ่าแหวกเป็นรอยแตก เลือดไหลทะลัก

“สวรรค์! มีมหายุทธ์ชั้นยอดลงมือช่วยหรือ”

หวังหลินอุทานด้วยความตกใจ เกือบจะไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง การรอดพ้นจากความตายทำให้ความสิ้นหวังและโศกเศร้าในใจเขาหายไปเป็นปลิดทิ้ง ตื่นเต้นอย่างหาที่สุดไม่ได้

ด้านมู่หวั่นซูเองก็ตกใจ ทีแรกนางหมดกำลังใจ หมายจะทุ่มเดิมพันทั้งหมดในการวัดดวงครั้งสุดท้าย คิดไม่ถึงว่าแสงดาบที่ราวกับมาจากนอกโลกกลับเปลี่ยนทุกอย่าง

ราชันอินทรีแดงนั่นแข็งแกร่งเพียงใด กลับยังไม่สามารถหลบไปได้ เหลือเชื่อมากจริงๆ ราวกับปาฏิหาริย์ ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้น

ใครกันที่มาช่วยไว้ได้ทันเวลา

ราวกับได้ยินเสียงจากหัวใจของมู่หวั่นซู เงาร่างสง่างามได้ลอยพลิ้วลงมาสะท้อนอยู่ในสายตาของนางแทบจะในขณะเดียวกัน

คนผู้นั้นสายตาลุ่มลึก ผมดำแผ่สยาย ชุดสีขาวพระจันทร์ทั้งตัว รูปร่างสง่างามเหยียดตรงราวกับต้นสน แฝงกลิ่นอายโดดเด่น

……………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์