เขาก่อนหน้านี้ยังยุยงให้หลินไหวหย่วนยึดอำนาจของภูเขาชำระจิต ตวาดเสี่ยวเคอ ด่าว่าพญาแร้งเป็นคนพิการที่ถูกทำลายปราณ ยิ่งไม่เห็นหลินจงในสายตา เห็นได้ว่าไม่เกรงกลัวสิ่งใด คิดใช้อำนาจบาตรใหญ่
แต่ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับนัยน์ตาเย็นชานั่นของหลินสวิน เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงพลังกดดันอันน่าหวาดกลัวที่ถาโถมเข้าใส่
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ในใจเขามีสัญญาณอันตรายหนึ่ง
แต่ทว่าเรื่องราวพัฒนาไปในทางที่ผิดจากที่หลินสวินคาดอีกครั้ง ไม่รอให้หลินไหวถังเอ่ยปาก ก็มีคนโกรธจนลุกขึ้นตวาดลั่น “หลินสวิน เจ้าผู้น้อยคนหนึ่งมาพูดจาเช่นนี้กับท่านอาท่านลุงรึ ยังมีกฎเกณฑ์ตระกูลอยู่หรือไม่”
เมื่อมีคนนำหน้า ก็พาให้พวกเบื้องบนของตระกูลหลินแห่งแสงอุดรคนอื่นใจกล้าขึ้นทันควัน เปิดปากพูดกันเซ็งแซ่
“ใช่แล้ว ตามลำดับอาวุโสนั่นคือท่านลุงเจ้า ตัวเองเป็นผู้น้อย เจ้าตำหนิเช่นนี้เห็นชัดว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพ”
“หึ! แม้แต่ตอนที่บิดาเจ้ามีชีวิตอยู่ยังไม่กล้าพูดจาเช่นนี้กับพวกเรา หลินสวิน เจ้าน่ะทำเกินไปแล้ว!”
“นี่มันใช้ได้ที่ไหน ทันทีที่เจ้ากลับมาก็ไม่ไต่ถามผิดถูก ยกตนข่มท่าน ชักสีหน้าใส่ผู้อาวุโสทั้งหมด ยังมีกฎมีเกณฑ์อยู่หรือไม่”
เห็นดังนี้หลินไหวถังที่เดิมใกล้จะพังทลายแอบเป่าปากโล่งอกทันที มุมปากปรากฏรัศมีกระหยิ่มยิ้มย่องวูบหนึ่ง
ต่อให้เจ้าหลินสวินจะกำเริบเสิบสานแค่ไหน ท้ายที่สุดก็แค่เด็กรุ่นหลังตระกูลหลินเท่านั้น แม้เจ้าจะครอบครองภูเขาชำระจิต เป็นผู้สืบทอดตระกูลโดยชอบธรรม แต่เจ้าจะกล้าไม่สนกฎเกณฑ์ตระกูล เผ็นผู้น้อยละเมิดผู้ใหญ่ได้เชียวรึ
ไร้เดียงสา!
ถูกทุกคนต่อว่า หลินสวินสีหน้าไม่เปลี่ยน แต่นัยน์ตาดำขลับเยียบเย็นยิ่งกว่าเดิม มุมปากเขาปรากฏแววเย้ยหยันวูบหนึ่ง “อ้างกฎเกณฑ์? นำลำดับอาวุโสมาบีบข้า? ดูเหมือนก่อนหน้านี้ข้าคงผ่อนปรนพวกเจ้าเกินไป ทำให้พวกเจ้าไม่เห็นข้าหลินสวินอยู่ในสายตาตั้งแต่ต้นจนจบสินะ”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
หลินไหวถังเวลานี้ก็มีความกล้าเพิ่มขึ้นมาก ตวาดเสียงกร้าว “หรือเจ้าคิดว่าที่ผู้อาวุโสเหล่านี้พูดมันผิดงั้นรึ”
“ดูท่า พวกเจ้ายังไม่เห็นว่าตนเองผิด”
หลินสวินพลันถอนหายใจ สีหน้าปรากฏแววหน่ายใจวูบหนึ่ง
ภายใต้สายตาจับจ้องอย่างไม่เข้าใจ เขาโบกมืออย่างเงียบๆ
ฟึ่บ!
ก็เห็นรุ้งเทพแดงเข้มสายหนึ่งพุ่งทะยานจากนอกโถงมาถึง แปลงเป็นอินทรีแดงที่ราวกับเกิดจากการอาบไล้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง
ปีกของมันปล่อยละอองแสงเปลวไฟ ดูเหมือนสูงแค่สองฉื่อแต่กลับมีพลังอำนาจผงาดผยองน่าหวาดกลัว ชั่วขณะเดียวอุณหภูมิในโถงใหญ่พลันปะทุขึ้นประหนึ่งอยู่ในเตาหลอม
เป็นราชันอินทรีแดงนี่เอง
ทันใดนั้นทุกคนอึ้งงัน คาดคะเนไม่ออกอยู่บ้างว่าหลินสวินต้องการทำอะไร
“เจ้า… นี่ต้องการจะทำอะไร”
หลินไหวถังเดือดดาล “หรือเจ้าคิดจะลงมือที่นี่งั้นรึ ช่างเนรคุณจริงๆ!”
แต่หลินไหวหย่วนเหมือนตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ในใจกลับตระหนกวูบหนึ่งอย่างไม่อาจควบคุม เขาหน้าพลันเปลี่ยนสี กล่าวเสียงหลง “ไม่นะ…”
แต่สายไปแล้ว!
พรึ่บ!
ก็เห็นราชันอินทรีแดงยิงแสงอัคคีน่าหวาดกลัวออกจากนัยน์ตา ปีกดั่งปลายดาบสยายแหวกอากาศแผ่วเบา เปลวเพลิงหนึ่งพลันปรากฏโหมออกไป
ดุดันดุจคมศาสตรา เผาผลาญห้วงอากาศ!
“นี่…”
ทุกคนต่างตื่นตะลึง หลินสวินถึงกับกล้าทำเช่นนี้จริงๆ!
ฟิ้ว!
เร็วเกินไปแล้ว ต่อให้ความสามารถของหลินไหวถังจะแข็งแกร่งพอควร จัดอยู่ในกลุ่มบุคคลสำคัญเบื้องบนของตระกูลหลินแห่งแสงอุดร แต่ที่เขาเผชิญหน้าด้วยคือการโจมตีของราชันอินทรีแดง อสูรมารบำเพ็ญที่อยู่ปลายยอดระดับหยั่งสัจจะ
ซ้ำยังเป็นการจู่โจมฉับพลัน ชั่วขณะเขาก็ถูกเปลวเพลิงนั่นกวาดซัด ทั่วสรรพางค์ลุกโหมมอดไหม้
“เจ้ากล้าทำจริงๆ…” หลินไหวถังตาถลน สีหน้ายากจะเชื่อและหวาดกลัวพูดไม่ออกถึงขีดสุด
ตูม!
เพลิงอัคคีปกคลุม เกิดพลังเผาผลาญน่าพรั่นพรึง แค่ชั่วพริบตาทั้งตัวหลินไหวถังก็กลายเป็นเถ้าถ่านไม่เหลือซาก
กระทั่งตายไปแล้วเขายังไม่อาจเชื่อว่าหลินสวินจะลงมือเช่นนี้!
ไม่สนกฎเกณฑ์และมูลเหตุอะไร ไม่สนใจสายตาของผู้อาวุโสทุกคนตรงนั้น ทำอะไรตามใจ เห็นต่างคนละทางก็ลงมือฆ่าสังหาร เห็นชัดว่าทำเอาผู้คนคาดไม่ถึงยิ่งนัก
หลินไหวถังตายแล้ว!
โถงใหญ่เงียบสงัดราวป่าช้า ไร้ซึ่งสรรพเสียง
น้องชายแท้ๆ ของหลินไหวหย่วนคนนี้ บุคคลสำคัญเบื้องบนซึ่งมีอำนาจยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ถูกหลินสวินสังหารทั้งอย่างนี้!
กล่าวถึงลำดับอาวุโสและความเกี่ยวพันทางสายเลือด หลินไหวถังคือลุงของหลินสวิน แต่กลับสิ้นชีพลงเช่นนี้!
อีกทั้งไม่ได้ตายด้วยน้ำมือหลินสวิน แต่ดับชีวาภายใต้การโจมตีของสัตว์สงครามตัวหนึ่งข้างกายหลินสวิน วิธีการตายเช่นนี้เป็นการลบหลู่และดูถูกอย่างหยาบคายที่สุดโดยมิต้องสงสัย
ไม่ยอมรับหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์