แต่เวลานี้ทุกคนในโถงกลับประหนึ่งร่วงหล่นสู่ถ้ำน้ำแข็ง ทั่วสรรพางค์ถูกความเย็นเยียบบุกจู่โจม รู้สึกถึงไอสังหารเสียดแทงกระดูก ทำเอาพวกเขาจิตวิญญาณสั่นสะท้าน
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
หลินสวินเวลานี้แม้เงียบสงบไม่พูดจา แต่กลิ่นอายเขากลับประหนึ่งเทพสังหารที่โผล่ออกมาจากภูเขาศพทะเลเลือด น่าหวาดกลัวชวนตระหนก
พวกเขาทั้งหมดต่างรู้ดี รายชื่อฉบับนี้ต้องมีผลกระทบอย่างยิ่งยวด ทำให้หลินสวินแทบไม่อาจควบคุมไอสังหารภายในใจ
ตึง!
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดตึงเครียดหาใดเปรียบนี้ ในฐานะหัวหน้าตระกูลหลินแห่งแสงอุดร หลินไหวหย่วนถึงกับคุกเข่าลงบนพื้นโขกศีรษะกล่าว “ขอผู้นำตระกูลให้โอกาสสุดท้ายแก่ตระกูลหลินแห่งแสงอุดรของข้า!”
ทุกคนตื่นตระหนก หลินไหวหย่วนคุกเข่าครานี้ประหนึ่งฟ้าถล่มดินทลาย!
ชั่วดีอย่างไรเขาก็เป็นผู้อาวุโส เป็นลุงของหลินสวิน ในนครต้องห้ามถือเป็นคนใหญ่คนโตผู้หนึ่ง แต่ตอนนี้เขากลับคุกเข่าต่อหน้าหลานชายตัวเอง!
หากแพร่งพรายออกไป หลินไหวหย่วนต้องกลายเป็นตัวตลกของผู้อื่น แต่หลินสวินเองก็ต้องติดร่างแหเช่นเดียวกัน
ถึงอย่างไรในฐานะผู้น้อย กลับบีบจนผู้อาวุโสท่านหนึ่งไม่อาจไม่คุกเข่าร้องขอความเมตตา นี่มันเห็นได้ว่าเนรคุณเกินไปแล้ว!
“หัวหน้าตระกูล!”
“หัวหน้าตระกูล! ไม่ได้เด็ดขาดนะขอรับ!”
คนสำคัญของตระกูลหลินแห่งแสงอุดรเหล่านั้นต่างลนลานรีบห้ามปราม แต่หลินไหวหย่วนกลับไม่สนใจ โขกศีรษะกับพื้นนิ่งไม่ไหวติง
แม้แต่พวกพญาแร้ง หลินจงล้วนรู้สึกเกินคาดหมาย การคุกเข่านี้ของหลินไหวหย่วนมีความนัยไม่ธรรมดาเกินไปแล้ว หลินสวินจะรับมืออย่างไร
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดจึงกล่าวราบเรียบ “ข้าสามารถให้โอกาสตระกูลหลินแห่งแสงอุดร แต่ผู้คิดคดวางแผนครั้งนี้ต้องรับโทษมหันต์!”
พูดถึงตรงนี้เขาไม่เหลือบและหลินไหวหย่วนบนพื้นอีกแม้เพียงวูบ นัยน์ตาดำขลับราวอสนี กวาดผ่านใบหน้าคนใหญ่คนโตตระกูลหลินแห่งแสงอุดรพวกนั้นในโถงทีละคน ทำเอาพวกเขาพลันรู้สึกอึดอัด
“ตอนนี้คือเวลาไถ่บาปของพวกเจ้า ผู้สำนึกผิดยอมรับด้วยตนเองจะลงโทษสถานเบา ผู้โง่เขลาดึงดันสังหารไม่ละเว้น!”
หลินสวินเน้นย้ำทีละคำ เสียงกึกก้องสะท้านปฐพี
“ขอบคุณผู้นำตระกูลที่ใจกว้างเมตตา!”
หลินไหวหย่วนที่อยู่บนพื้นรู้ดี นี่คือผลลัพธ์ดีที่สุดซึ่งเขาสามารถไขว่คว้าไว้ได้
เขาลุกขึ้นจากพื้นพลางกล่าว “ผู้นำตระกูล เรื่องนี้แม้มิได้เกิดจากข้า แต่กลับเพราะการวางเฉยของข้าจึงก่อให้เกิดผลอันน่าขมขื่นเช่นวันนี้ ข้าหวังว่าจะสามารถชดเชยด้วยตนเอง”
“ท่านคิดจะชดเชยอย่างไร” หลินสวินถาม
หลินไหวหย่วนกัดฟัน สีหน้าปรากฏความทรหดวูบหนึ่ง “ที่ควรฆ่าก็ฆ่า ที่ควรลงโทษก็ลงโทษ ยอมฆ่าผิดลงโทษผิด ดีกว่าปล่อยให้หลุดรอดไปแม้สักคน!”
“ดี งั้นข้าจะให้โอกาสท่านครั้งหนึ่ง”
หลินสวินจ้องมองหลินไหวหย่วนครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดจึงพยักหน้ารับ
แต่เหล่าคนเบื้องบนของตระกูลหลินแห่งแสงอุดรในโถง แต่ละคนต่างราวสูญพ่อสิ้นแม่ นิ่งอึ้งโดยสมบูรณ์ ให้อย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า ท้ายที่สุดคนที่ยกดาบสังหารจะเป็นหลินไหวหย่วน…
…
สองชั่วยามหลังจากหลินสวินกลับมายังภูเขาชำระจิต
ในตระกูลหลินแห่งแสงอุดร ผู้ดููและอาวุโสสี่คนถูกลอบสำเร็จโทษ ผู้อาวุโสในตระกูลสิบสามคนถูกเพิกถอนตำแหน่งหน้าที่ทั้งหมด กักขังไว้ในเขตหวงห้ามในภูเขาชำระจิต ให้ปิดด่านคิดทบทวน
ยังมีเก้าผู้ดูแลต่างสกุล เจ็ดผู้ดูแลอาวุโสต่างสกุล ลูกหลานตระกูลสิบเก้าคน ผู้คุ้มกันอารักขาตระกูลหกสิบสามคน… ล้วนประสบบทลงโทษระดับต่างกันไป
ครั้งนี้ดูเหมือนเพื่อแสดงออกถึงท่าทีของตน และเพื่อเรียกความเห็นอกเห็นใจของหลินสวินคืนมา หลินไหวหย่วนจึงลงมือกวาดล้างดุจอสนีบาต ฆ่าสังหารเด็ดขาด ใช้วิธีแข็งกร้าวที่อำมหิตและรวดเร็วรุนแรง
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ชั่วขณะหลินไหวหย่วนประหนึ่งสูญเสียกำลังทั้งหมด ทรุดลงบนเก้าอี้ สีหน้ามืดมนและผิดหวัง
ผ่านการสะสางบัญชีครานี้ พูดได้ว่าพวกเขาตระกูลหลินแห่งแสงอุดรบาดเจ็บสาหัส กล้ามเนื้อทลายกระดูกเคลื่อน คิดอยากฟื้นคืนกลับมาเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น
แต่นี่คือผลลัพธ์ซึ่งดีที่สุดแล้ว!
อย่างน้อยที่สุด ตระกูลหลินแห่งแสงอุดรยังมีต้นกล้ารุ่นเยาว์มากมาย ขอแค่พวกเขายังอยู่ จากนี้ก็มีหวังที่จะเติบใหญ่เข้มแข็งใหม่อีกครั้ง
แต่หากครานี้ให้หลินสวินลงมือ…
ผลลัพธ์นั้นมิกล้าจะจินตนา!
“หลินเหวินจิ้งเอ๋ยหลินเหวินจิ้ง เจ้าน่ะให้กำเนิดบุตรชายที่ดีคนหนึ่งจริงๆ… ตระกูลหลินมีผู้สืบทอดเช่นนี้นำพา หลังจากนี้คิดอยากฟื้นคืนเกียรติยศเมื่อห้าร้อยปีก่อน ก้าวเข้าสู่อันดับตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงใหม่อีกครั้ง บางทีอาจไม่ใช่เป็นไปไม่ได้…”
หลินไหวหย่วนพึมพำ หว่างคิ้วปรากฏความอ่อนเพลียและทอดถอนใจสุดซึ้งวูบหนึ่ง
“หัวหน้าตระกูลขอรับ!”
เวลานี้ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเดินเข้ามา และนำสารลับออกมาฉบับหนึ่ง กล่าวว่ามีคนเพิ่งส่งมาถึง ระบุว่ามอบแก่หลินไหวถัง
หลินไหวหยวนมุมปากกระตุกเล็กน้อย ในใจพรั่งพรูความเจ็บปวดรวดร้าวยากจะเอ่ยวูบหนึ่ง
หลินไหวถังเป็นถึงน้องชายแท้ๆ ของเขา ถูกอินทรีแดงตัวหนึ่งข้างกายหลินสวินสังหารไปนานแล้ว!
“ไม่ถูกสิ!”
ขณะรับสารลับและกำลังเปิดออก หลินไหวหย่วนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย คล้ายตระหนักถึงอะไรได้ ท้ายที่สุดจึงเก็บสารลับอย่างระมัดระวัง
จากนั้นเขาผุดลุกขึ้นและจากไปอย่างรีบเร่ง มุ่งสู่ตำหนักชำระจิต
…
“ก็ประมาณนี้แหละนะ”
ในโถงใหญ่บนตำหนักชำระจิตเวลานี้ หลินสวินเล่าประสบการณ์บางส่วนของตนในส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณออกมาอย่างกระชับ
ทว่าแม้เขาพูดอย่างเรียบง่าย แต่เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้พวกเสี่ยวเคอ หลินจง พญาแร้งยังคงตื่นตระหนกอยู่ตรงนั้น เนิ่นนานไม่อาจนิ่งสงบได้
ในแดนลับอสูรมารอริยะ เขาเคลื่อนกวาดสังหารเหล่าวีรชนแต่ละเผ่า ฆ่าจนบุตรเทพทั้งมวลไม่กล้าหันปลายกระบี่เข้าใส่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์