ที่นี่ไม่มีแม้แต่หญ้าขึ้น โลกสะท้อนสีเทามืดครึ้ม กลิ่นคาวเลือดในอากาศที่ไม่รู้มาจากไหนรุนแรงจนฉุนจมูก
หลินสวินเคลื่อนไหวอย่างสบายๆ ผ่อนคลายและเงียบสงบ ดุจดั่งเมฆเคลื่อนน้ำไหล ร่างกายราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้
เหมือนแมงมุมที่ลาดตระเวนอาณาเขตของตน ระหว่างที่ฝีเท้าเคลื่อนไหว มีความรู้สึกเหมือนเป็นผู้คุมที่แม่นยำและเชี่ยวชาญ
นี่คือท่าทางของการต่อสู้อย่างหนึ่ง ภายนอกที่ดูเหมือนผ่อนคลายและสงบนิ่ง คือความระแวงและระมัดระวัง สัมผัสเพียงนิดก็ระเบิดได้
‘นอกที่ตั้งของค่ายก็คือสนามรบ ระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการอยู่รอด!’
นี่คือประโยคที่สามในตำราคู่มือหนังสัตว์
‘ที่นี่ภูเขาเนินเหยียดสูง ภูมิประเทศซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงบ่อย หากไม่เคลื่อนไหวบนเวหา สิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือการซุ่มโจมตีและจู่โจม’
‘ฟ้าดินไม่มีพลังวิญญาณ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางกายภาพในระดับสูงสุด ต้องใช้เวลาว่างเติมเต็มพลังวิญญาณที่จำเป็น’
‘กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าที่ไม่เสื่อมคลาย เป็นการยืนยันว่าไม่นานมานี้ พื้นที่ที่ข้าผ่านนี้มีการต่อสู้นองเลือดไม่เพียงแค่ครั้งเดียว’
หลินสวินคลื่อนไหวไปข้างหน้าพลางสังเกตสิ่งที่เห็นระหว่างทาง ใช้วิธีของตนสัมผัสถึงสมรภูมิกระหายเลือดที่เต็มไปด้วยความสยดสยองแห่งนี้
ในมือของเขายังคงถือผลึกวิญญาณระดับสูง คอยเติมพลังวิญญาณที่ตนเสียไประหว่างเดินทาง แม้ว่าการสูญเสียเช่นนี้จะไม่เด่นชัด แต่หลินสวินกลับรู้ดีว่า เมื่อการต่อสู้รุนแรงเกิดขึ้น การสูญเสียความแข็งแกร่งทางกายภาพเล็กน้อย ก็อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด
นี่เป็นสัญชาตญาณการต่อสู้อย่างหนึ่งที่ได้รับการบ่มเพาะจากค่ายกระหายเลือด
จู่ๆ ในท้องฟ้าที่มืดมนเบื้องหน้าก็ปรากฏสีเลือด ราวกับแสงไฟสะดุดตาท่ามกลางรัตติกาล
หลินสวินเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ไม่นานเขาก็เห็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากศพ
พื้นดินชุ่มเลือด ซากศพยังคงมีเลือดไหลพรูออกมา มีทั้งศพผู้ฝึกปราณในเครื่องแบบทหารจักรวรรดิ และมีศพรูปร่างแปลกประหลาดของเผ่าพ่อมดเถื่อน
กลางอากาศยังคงหลงเหลือกลิ่นเขม่าปืนใหญ่ เป็นการยืนยันว่าสงครามของที่นี่เพิ่งจบลงไม่นาน
หลินสวินหรี่ตาลงกะทันหัน เห็นว่าบนศพของผู้ฝึกปราณจักรวรรดิส่วนใหญ่ล้วนไม่สมบูรณ์ มีร่องรอยการถูกผ่าชำแหละมากมาย
บางคนโดนควักหัวใจ บางคนโดนตัดหัว บางคนถูกควักลูกตาทั้งสองข้างไป บางคนถูกผ่าครึ่งและอวัยวะภายในได้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงร่างกายที่ว่างเปล่า
ถึงขั้นที่มีศพหนึ่งถูกดึงเอ็นขุดกระดูกออก เหลือเพียงแค่เลือดเนื้อกองหนึ่ง!
ภาพที่โหดร้ายและนองเลือดนี้ทำให้หลินสวินรู้สึกขยะแขยงจนคลื่นไส้
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งจึงหมุนตัวออกไป
‘สงครามนี้ผู้ฝึกปราณฝั่งจักรวรรดิพ่ายแพ้ ส่วนต่างๆ ในศพของพวกเขาถูกนำไปเป็นทรัพย์หลังศึก!’
หลินสวินได้ข้อสรุปในใจ
ในตำราคู่มือหนังสัตว์เคยอธิบายไว้ว่า คุณูปการทางทหารของสมรภูมิกระหายเลือดเปื้อนไปด้วยเลือด และคุณูปการทางทหารก็มาจาก ‘ทรัพย์หลังศึก’ อันโหดร้ายและวิปริตเหล่านี้!
ไม่เพียงแค่เผ่าพ่อมดเถื่อน หากผู้ฝึกปราณจักรวรรดิเป็นฝ่ายชนะศึก ก็จะเอาอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของเผ่าพ่อมดเถื่อนไปด้วยเช่นกัน
นี่ก็คือคุณูปการทางทหาร!
ครืนโครม…
เคลื่อนไหวไปข้างหน้าต่อไปได้ไม่นาน บนท้องฟ้าก็ปรากฏรอยแตกร้าว สามารถมองเห็นแสงแพรวพราวมากมายกะพริบอยู่ภายใน ดูงดงามและสะดุดตาอย่างที่สุด
แต่ในใจหลินสวินกลับเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ
อากาศแตกร้าว!
ภายนอกที่ดูงดงามนี้ กลับเป็นอันตรายอย่างที่สุดที่สามารถทำให้ราชันระดับสังสารวัฏหวาดหวั่นได้ หากถูกม้วนเข้าไปจะต้องตายอย่างแน่นอน
‘คาวเลือด ความมืดมน ความวุ่นวายอลม่าน ความรุนแรง…’
แม้จิตใจของหลินสวินจะแข็งแกร่งราวกับเหล็ก ก็ยังรู้สึกหนักอึ้ง
สมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้เป็นน่าสยดสยองราวกับวันโลกาวินาศ เต็มไปด้วยคาวเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าทุกหนทุกแห่ง แต่กลับมองไม่เห็นพลังชีวิต
เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดแผ่วเบาดังมาพร้อมกับสายลม คล้ายมีคล้ายไม่มี แต่กลับไม่อาจรอดพลังจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่และไม่มีใครเทียบของหลินสวิน
เงาร่างของหลินสวินหายไปจากที่เดิมทันที
ห่างออกไปหลายพันจั้ง ตรงหน้าเนินดินเตี้ยๆ มีร่างหนึ่งคืบคลานอยู่
เป็นผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนหนึ่ง เลือดไหลท่วมตัว สองขาของนางแหลกสลายด้วยถูกอาวุธทื่อบางชนิดทุบ เลือดเนื้อเปื่อยยุ่ย ได้แต่ใช้สองมือคลานบนพื้น
บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น ถูกร่างของนางละเลงเป็นทางสีเลือดยาว
หลินสวินเฝ้ามองอยู่เงียบๆ สุดท้ายก็ตามไปโดยไม่ได้พูดอะไร
ราวกับรับรู้ได้ถึงการมาเยือนของหลินสวิน ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ากลับมาอย่างยากลำบาก เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เจ็บปวด เปื้อนไปด้วยเศษโคลนและคราบเลือด
เบ้าตาของนางว่างเปล่า ยังคงมีเลือดหยดลง ลูกตาไม่รู้ว่าถูกควักออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูสยดสยองและน่าสะพรึงกลัวผิดปกติ
สีหน้าของหลินสวินเงียบสงบ เขาดูออกว่าเดิมทีผู้หญิงคนนี้ต้องงดงามมากแน่ เครื่องหน้าของนางโดดเด่นมาก แม้ว่าผิวจะเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น กลับไม่สามารถซ่อนความขาวเนียนผุดผ่องของนาง
แต่ในตอนนี้สองขาของนางแหลกเละ ดวงตาถูกควัก ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบเลือด คลานอยู่บนพื้น ท่าทางเหมือนกำลังจะตาย ดูไร้ที่พึ่งและเจ็บปวดอย่างมาก
ทันใดนั้นหลินสวินสังเกตเห็นว่า นิ้วมือที่เปื้อนเลือดของหญิงสาวกำลังเขียนอะไรบางอย่างบนพื้นอย่างสั่นๆ เขาอดขึ้นไปดูไม่ได้
ตูม!
แต่ในตอนนี้เอง ร่างของหญิงสาวก็ระเบิดฉับพลัน!
พลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากร่างกายที่ระเบิดออก ผสมกับเลือดเนื้อที่แหลกสลายปกคลุมไปทางหลินสวิน
หลินสวินลอบถอนหายใจ ราวกับคาดการณ์ถึงฉากนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ร่างกายวูบไหวหายไปจากจุดเดิม หลบหนีกระแสทำลายล้างนี้ล่วงหน้าหนึ่งก้าว
“ตั้งกี่ปีมาแล้ว ยังไม่เคยเห็นไก่อ่อนแบบนี้มาก่อนเลย ฮ่าๆ หรือจักรวรรดิเผ่ามนุษย์นั่นไม่มีผู้แข็งแกร่งที่สามารถสู้ได้แล้ว”
“เหยื่อที่ชัดเจนเพียงนี้ยังดูไม่ออก น่าผิดหวังจริงๆ รีบฆ่าเขาให้สิ้นเรื่อง”
“ข้าอยากได้ตาเขา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์