ครั้นโจมตีพลาด กระบี่บินสีเทาเล่มนั้นพลันหลีกเร้นทันใด อันตรธานหายลับไปอีกครา
“ดูไม่ออกเลยว่าการรับรู้ของเจ้าโดดเด่นกว่าที่ข้าจินตนาการเอาไว้เสียอีก แต่ว่า วันนี้กลับไว้ชีวิตเจ้าไม่ได้!”
น้ำเสียงของชายเงาสีเทาดังก้องไปทั่วบริเวณนี้ เทียวผลุบเทียวโผล่ เจือไอสังหารเยียบเย็นเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าตระหนักถึงความเหนือธรรมดาของหลินสวินแล้ว และหมายจะลงมืออย่างอำมหิต
“ฆ่า!”
หลินสวินกลับไม่พูดพล่าม ครั้งนี้เขาสัมผัสพลังเสี้ยวหนึ่งของอีกฝ่ายได้ สำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งพุ่งปราดเข้าไปในพริบตา
ตูม!
ดาบหักหวดอากาศ ก่อให้เกิดดวงดาราพร่างพราวทั่วฟ้า แสงดาบราวกับอาทิตย์ดวงใหญ่ส่องสว่างจักรวาล อานุภาพน่าพรั่นพรึง
กลางอากาศ เงาสีเทาสายนั้นพลันถูกบีบให้ปรากฏตัว เขาเร่งขับเคลื่อนกระบี่บินพุ่งโจมตีใส่หลินสวิน กระบี่คมกริบดุดัน เคลื่อนไหวสอดประสานไร้พรมแดน
ครืนครืน~
พื้นที่บริเวณนั้นเกิดเสียงกึกก้อง มือของหลินสวินกระชับดาบหัก นัยน์ตาดำดุจอสนี พลังจิตวิญญาณแผ่ซ่าน จับจ้องอีกฝ่ายเอาไว้อย่างแน่นหนา เริ่มจู่โจมอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
แต่งาสีเทาสายนั้นก็น่ากลัวสุดขีดอย่างเห็นได้ชัด ทักษะการต่อสู้โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งยวด วิชากระบี่บินแทบจะเทียบเคียงมรรคา ไอสังหารหาที่เปรียบไม่ได้
นี่คือผู้แข็งแกร่งปลายยอดในสายคนเถื่อนมืดผู้หนึ่ง จัดเจนในวิถีลอบสังหารแต่กำเนิด ท่าร่างยากคาดเดา วิชากระบี่เร้นลับ ราวกับเงาตะคุ่มที่ไม่สามารถสัมผัสได้ พาให้หัวใจสั่นไหว
ในบรรดาเผ่าพ่อมดเถื่อนเก้าสาย คนเถื่อนมืดสายนี้เป็นสายที่ลึกลับที่สุด เผ่าพันธุ์สายพวกเขามีจำนวนน้อยอย่างถึงที่สุด ทว่าแต่ละคนล้วนดุจดั่งราชันในความมืดมิด
ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมาของจักรวรรดิ บุคคลสำคัญที่ตายด้วยน้ำมือของนักลอบสังหารสายคนเถื่อนมืด มีไม่น้อยกว่าหลายร้อยคนอย่างแน่นอน
กระทั่งมีข่าวลือว่าราชันระดับสังสารวัฏในจักรวรรดิ ล้วนเคยถูกนักลอบสังหารสายคนเถื่อนมืดซุ่มโจมตี เกือบทิ้งชีวิตวายชีวัน!
ยามอยู่ในค่ายกระหายเลือด หัวหน้าครูฝึกสวีซานชีก็เคยกล่าวมากกว่าหนึ่งครั้ง ว่าในบรรดาเก้าสายของพ่อมดเถื่อน ผู้ที่พลังต่อสู้แกร่งกล้ามากที่สุด คือผู้แข็งแกร่งของสายคนเถื่อนอสนีและสายคนเถื่อนแสงสองสายนี้
แต่ถ้าพูดถึงผู้ที่ทำให้คนปวดหัวและกริ่งเกรงมากที่สุด ย่อมเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งสายคนเถื่อนมืดอย่างไม่ต้องสงสัย!
เนื่องจากพวกเขาเหมือนเป็นนักลอบสังหารที่อาศัยอยู่ในเงามืดแต่กำเนิด ยามที่ไม่ทันตั้งตัวก็สามารถพรากเอาชีวิตของเจ้าไปได้แล้ว
ฉึก!
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไหล่ของหลินสวินถูกกระบี่บินเฉี่ยวเล็กน้อย พลันมีเลือดกระเซ็นออกมา
วิชากระบี่ที่เทียบได้กับมรรคานี้ช่างลึกลับและน่ากลัวโดยแท้ ทำให้หลินสวินเกือบจะถูกการโจมตีนี้ทำเอาบาดเจ็บสาหัส
ทว่าในเวลาเดียวกันอีกฝ่ายก็ถูกฟันด้วยแสงของดาบหัก ใบหูครึ่งส่วนถูกตัดลงมา เลือดสดไหลชุ่ม ห่างเพียงเสี้ยวเดียวก็จะฟันใส่ลำคอของเขาขาดแล้ว
“เจ้าถึงกับทำให้ข้าบาดเจ็บได้!?”
ชายเงาสีเทาดูเหมือนทั้งตกใจและเดือดดาล แผดเสียงคำรามยาวหนึ่งครา เงาร่างยิ่งเบาหวิวพิสดารมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเงาที่เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มีสายหนึ่ง เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างฟ้าดิน
ตูม!
หลินสวินไม่เอ่ยวาจา มีเพียงนัยน์ตาเท่านั้นที่ยิ่งเยือกเย็นลุ่มลึกมากขึ้นเรื่อยๆ รอบกายของเขารายล้อมด้วยแสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์สีเขียว ท่วงทำนองแห่งมรรคสัมบูรณ์ไหลเวียน วิชาอริยะยุทธ์ถูกเขานำมาใช้ประโยชน์
ท่าร่างของคู่ต่อสู้เดี๋ยวมีเดี๋ยวหาย ทว่าหลินสวินกลับเร่งความเร็วขึ้นกะทันหัน ก้าวย่างชือน้ำแข็งราวกับภาพมายา ว่องไวอย่างน่าเหลือเชื่อ
ปึงๆๆ!
ทั้งสองปะทะกัน ดาบหักและกระบี่บินสั่นอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดพลังทำลายล้างน่าหวาดกลัวกวาดม้วนทั่วสารทิศ แสงดาบและไอกระบี่ฉีกอากาศเป็นเสี่ยงๆ จนเป็นรอยนับไม่ถ้วน
คู่ต่อสู้แข็งแกร่งนัก!
มีพลังระดับ ‘จอมเวท’ ในแง่การฝึกปราณไม่ได้แตกต่างจากหลินสวินเลย แต่ทว่ากลับเป็นศัตรูตัวฉกาจซึ่งอยู่ในระดับเดียวกัน ที่หลินสวินได้พบเจอหลังกลับมาจากทะเลกลืนวิญญาณ!
ในระหว่างการต่อสู้ มีอยู่ชั่วครู่หนึ่งที่หลินสวินถึงขั้นคิดว่าอีกฝ่ายได้เหยียบย่างลงบนมกุฎมรรคาเช่นเดียวกับตน
ลำพังแค่จุดนี้ก็เพียงพอจะทำให้หลินสวินตกใจได้แล้ว นักลอบสังหารในสายคนเถื่อนมืดคนหนึ่ง กลับสามารถครอบครองพลังต่อสู้เช่นนี้ในระดับจอมเวทได้ ฐานะในเผ่าพ่อมดเถื่อนของอีกฝ่ายจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
ควรรู้ว่าก่อนหน้านี้หลินสวินถึงขั้นเคยโจมตีสังหารมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติหกคนเพียงลำพัง แต่ตอนนี้ คู่ต่อสู้ที่แทบจะอยู่ในระดับเดียวกัน กลับสามารถประลองกับหลินสวินมาจนป่านนี้ได้ เช่นนี้มีหรือที่ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนทั่วไปจะเทียบชั้นได้
“ฆ่า!”
ไอสังหารพวยพุ่งในใจฃหลินสวิน เขาเองก็มีความคิดจะสังหารอย่างเด็ดขาด กำจัดภัยในภายหน้าไปให้สิ้นเช่นเดียวกัน
หากปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่ จะต้องนำมาซึ่งการผลาญชีวิตอีกไม่รู้เท่าไรของจักรววรดิอย่างแน่นอน
ปังๆๆ!
นี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างยิ่ง ดาบกระบี่ฟาดฟันกัน พลังชนกระแทก สะเทือนเลือนลั่นฟ้าดิน
ทั้งสองต่างช่ำชองในวิชาต่อสู้ เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ไม่ได้ซับซ้อนมากมาย แต่กลับรับรู้ถึงแก่นแท้ของการต่อสู้เป็นอย่างดี
นี่ก็คือการประชันของยอดฝีมือ เวลานี้ถ้าหากผู้ฝึกปราณคนอื่นผลีผลามเข้ามา คาดว่าคงถูกปลิดชีพในทันที
“ฟัน!”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หลินสวินก็โดดผลุงขึ้นมา ดาบหักราวกับสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์กวาดไพลิน ผ่าฟันออกไป
ตูม!
แม้ว่าชายเงาสีเทาจะหลบการโจมตีครั้งนี้ได้ ทว่าแรงสะเทือนอันน่ากลัวนั้นกลับทำให้ร่างของเขาซวนเซ ใบหน้าที่แต่เดิมเกลี้ยงเกลาขาวเนียนก่ำแดงขึ้นมา
‘หรือว่าเขาเหยียบย่างบนเส้นทางในตำนานสายนั้นไปแล้ว’
ชายเงาสีเทามีอาการประหลาดใจและเคร่งขรึม นัยน์ตาสีเทาลุกโชนด้วยจิตต่อสู้อันพลุ่งพล่าน ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ทำให้ความฮึกเหิมในใจของเขาสั่นคลอนอีกครั้ง
“ฆ่า!”
หลินสวินไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ด้วยซ้ำ ดาบหักระเบิดปะทุประหนึ่งย้ายขุนเขาทลายสมุทร ท้วมท้นด้วยพลังโจมตี สั่นสะเทือนพื้นที่รกร้างทั้งแถบ เมฆลมปั่นป่วน
ฉัวะ!
เพียงชั่วขณะเท่านั้น ชายเงาสีเทาก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ถูกดาบหักเฉือนผมยาวหนึ่งช่อ ผิวตรงแผ่นหลังถูกไอดาบคมกริบฟันเป็นรอยแผลยาวชุ่มเลือด ลึกจนเห็นกระดูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์