Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 687

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 687 การตรวจสอบที่ละโมบ
ตอนที่ 687 การตรวจสอบที่ละโมบ
โดย
ProjectZyphon
ความหนังเหนียวในพลังชีวิตของชายเงาสีเทาผิดมนุษย์มนาถึงขีดสุดจริงๆ อีกทั้งเขายังสันทัดวิชาลับอัศจรรย์มากมาย พลังต่อสู้ก็ดุร้ายและน่าขนลุกเหนือธรรมดา

บุคคลระดับนี้ทำให้หลินสวินยากจะฆ่าเขาในทันที เพียงจินตนาการก็รู้ได้ว่าคนผู้นี้จะต้องมีฐานะทรงเกียรติเพียงใดในเผ่าพ่อมดเถื่อน

และในสมรภูมิกระหายเลือดนี้ หากปล่อยให้เขารอดชีวิต เช่นนั้นรังแต่จะนำพาภัยเงียบที่ไม่อาจคาดเดาได้มาสู่ฝั่งจักรวรรดิ

เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงนักลอบสังหารแต่กำเนิดที่สันทัดการลอบฆ่าผู้หนึ่ง!

หลินสวินใช้กำลังออกไปอย่างสิ้นเชิง ต่อให้รู้ว่าบนสมรภูมิกระหายเลือดที่เสี่ยงอันตรายหาที่เปรียบไม่ได้แห่งนี้ การสิ้นเปลืองพลังกายอย่างต่อเนื่องจะเป็นข้อเสียเปรียบต่อสถานการณ์ของตน เขาก็ไม่นึกเสียดาย

ฟุ่บ!

ศรวิญญาณดอกหนึ่งยิงออกไปอีกครั้ง ราวกับสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์อันไกลโพ้นที่กักขังวิญญาณ เบาหวิวมิอาจคาดเดาได้ ในพริบตาร่างครึ่งหนึ่งของอีกฝ่ายพลันระเบิดออก เลือดสดซ่านกระเซ็น

ชายเงาสีเทาร้องโหยหวน เจ็บจนภาพเบื้องหน้าเป็นสีดำ เกือบหมดสติไป

นับตั้งแต่เริ่มต้นบนมรรคา เขาไม่เคยถูกคนไล่สังหารเช่นนี้มาก่อน และไม่เคยสัมผัสกับประสบการณ์น่าอับอายและอันตรายร้ายกาจเช่นนี้มาก่อน

สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธจนบ้าคลั่ง ทั้งหวาดกลัวจนตัวสั่นเทิ้ม เวลานี้ถึงได้ตระหนักอย่างลึกซึ้งถึงความน่ากลัวของสิ่งที่เรียกว่ามรรคาที่แข็งแกร่งที่สุด

แม้ว่าเขาเองก็เจียนจะสัมผัสขอบเขตนั้นได้แล้วเช่นกัน ทว่าอย่างไรเสียก็ยังไม่เคยบรรลุถึง และก็เพราะเช่นนี้ ทำให้ก่อนหน้านี้เขาประเมินความน่ากลัวของอีกฝ่ายต่ำไป

สวบ!

เงาร่างของหลินสวินไหววูบ พุ่งไปด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง อีกฝ่ายจวนจะล้มทั้งยืน ใกล้ยืนหยัดไม่ไหวแล้ว เวลานี้เป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะจู่โจมสังหาร

ทว่าระหว่างทาง หลินสวินกลับต้องชะงักเท้ากะทันหัน นัยน์ตาดำสนิทจับจ้องไปยังระยะไกลด้วยความสงสัยเล็กน้อย

“ระยำ!”

ท้ายที่สุดหลินสวินก็กลั้นคำด่าเอาไว้ไม่ได้ จากนั้นเขาก็ล่าถอยโดยไม่ลังเลสักนิด หลบหนีไปในทิศทางตรงกันข้าม ความเร็วนั้นไวยิ่งกว่าเมื่อครู่ถึงสามส่วน!

ตูม!

และขณะที่หลินสวินเพิ่งจากไป กลิ่นอายน่ากลัวหาใดปรียบสายหนึ่งพลันมาเยือนพื้นที่แห่งนี้ ราวกับผู้เป็นนายห้อทะยานมาเยือน ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี บังเกิดลมกระโชกน่ากลัว

“นายน้อย!”

เสียงร้องอุทานเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมปรากฏร่างชายชราผอมซูบ ผิวดำเกรียม ทั่วสรรพางค์กายคละคลุ้งด้วยไอสีเทาหม่น

มองดูชายเงาสีเทาที่ร่างครึ่งซีกถูกระเบิด ดูน่าสังเวชหาใดเปรียบ ใบหน้าของชายชราพลันเขียวคล้ำ กลางนัยน์ตาสาดลำแสงน่าสยดสยองออกมา

“นายน้อยอดทนไว้ บ่าวจะไปฆ่าเจ้าโจรผู้นั้นก่อน!”

ชั่วขณะ ภายใต้การกวาดสายตาอันแสนน่ากลัวของชายชรา ก็พลันพบหลินสวินที่หนีห่างออกไปไกล

“อย่าไป!”

เพียงแต่ยามที่ชายชรากำลังจะลงมือ ชายเงาสีเทากลับร้องตะโกนห้ามปราม

“นายน้อย โอกาสกำลังหลุดลอยไปนะ!”

ชายชรากระวนกระวายยิ่ง

“ข้าบอกว่าอย่าไป!”

ชายเงาสีเทาตวาด สีหน้าแปลกประหลาดหาใดเปรียบ

เขาอ้าปากกลืนลูกกลอนโอสถลงไปหนึ่งเม็ด บัดนั้นทั่วสรรพางค์กายมีเลือดลมพวยพุ่งออกมา ร่างครึ่งซีกที่เดิมทีผุพัง ถึงกับฟื้นตัวคืนมาในพริบตา

เพียงแต่สีหน้าของเขากลับขาวซีดหาที่เปรียบไม่ได้ จวนเจียนโปร่งใส ลมหายใจก็รวยรินประหนึ่งแสงตะเกียงริบหรี่ ราวกับสามารถล้มครืนลงไปเมื่อไรก็ได้

“เจ้านั่นเป็นเหยื่อของข้า นอกจากข้า ใครก็ห้ามแตะต้องเขา!”

ชายเงาสีเทากัดฟัน นัยน์ตาฉายแววโหดเหี้ยม

ความพ่ายแพ้ในวันนี้ เขามองว่าเป็นความอัปยศใหญ่หลวง ภายในใจมีเพลิงโทสะคุกรุ่นอยู่

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เขาฝึกปราณจนป่านนี้ ในที่สุดก็ได้เห็นมรรคาที่แข็งแกร่งที่สุดในตำนานเป็นครั้งแรก กระทั่งสัมผัสได้ว่าหากตนหมายจะเหยียบอยู่ในขอบเขตนี้ การฆ่าเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนนั้นก็คือวิธีที่ได้ผลที่สุด!

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาขวางชายชราคนนั้นเอาไว้

“นายน้อย เมื่อครู่เป็นใครกันแน่ ถึงกับทำร้ายท่านได้เลยเชียว”

ชายชรารู้ดีว่าเวลานี้เสียโอกาสในการสังหารศัตรูไปแล้ว เพียงแต่เขาไม่เข้าใจยิ่งนัก ในสมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้ ถึงกับยังมีคนสามารถเอาชนะนายน้อยได้

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

แต่เขารู้ดีว่า นายน้อยที่เป็นองค์ชายแห่งสายคนเถื่อนมืด มีพรสวรรค์บันลือโลกเพียงใด เป็นอันดับหนึ่งในชนรุ่นเยาว์แห่งสายคนเถื่อนมืดอย่างไร้ข้อกังขา

ถึงขั้นที่แม้แต่ราชันแห่งสายคนเถื่อนมืดยังเคยกล่าวว่า อาศัยเพียงบุคลิกของนายน้อย ก็เพียงพอจะตั้งตนเป็นใหญ่ยามมหาสงครามมาเยือนแล้ว!

ทว่าตอนนี้นายน้อยกลับพ่ายแพ้ แพ้อย่างน่าสังเวชเช่นนี้ เกือบมีอันตรายถึงแก่ชีวิต สิ่งนี้จะไม่ทำให้ชายชราตกใจได้อย่างไร

เรื่องพรรค์นี้หากแพร่กลับไปยังสายคนเถื่อนมืด จะต้องเกิดแรงสะเทือนยกใหญ่ครั้งหนึ่งเป็นแน่!

แม้จะเป็นการถูกสายเผ่าอื่นอีกแปดสายของเผ่าพ่อมดเถื่อนรู้เข้า ก็คงจะสั่นสะเทือนเลือนลั่นเช่นเดียวกัน!

พวกเขาสายคนเถื่อนมืด เป็นถึงสายที่ลึกลับและโดดเด่นที่สุดในบรรดาเก้าสาย ทว่าตอนนี้องค์ชายผู้มากพรสวรรค์ที่สุดแห่งสายคนเถื่อนมืดของพวกเขากลับเกือบจะถูกฆ่าตาย ใครเล่าจะไม่สั่นสะท้าน

เมื่อนึกถึงว่าหากครั้งนี้ตนมาช้าไปอีกนิด ชายชราก็หวาดหวั่นจนเหงื่อโซมกาย สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเขายิ่งเหยเกมากขึ้นเรื่อยๆ แทบอดรนทนไม่ไหว อยากพุ่งเข้าไปฆ่าศัตรูคนนั้นโดยพลัน

“หมานจิ่ว เจ้ารู้ว่าจุดประสงค์ที่ข้ามาเคี่ยวกรำในสมรภูมิกระหายเลือดมานานหลายปี ไม่มีอะไรมากไปกว่าคิดอาศัยการเข่นฆ่า เหยียบย่างลงบนมกุฎมรรคาอย่างแท้จริง”

ชายเงาสีเทาสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เอ่ยวาจาเนิบนาบ “และในวันนี้ ข้าก็ได้เห็นแล้ว! ข้าได้สัมผัสความร้ายกาจของมกุฎมรรคาด้วยตัวเอง พลังระดับนั้น… อยู่เหนือจินตนาการอย่างสิ้นเชิง ดุจดั่งราชันแห่งระดับ ไร้ศัตรูในระดับเดียวกัน!”

กล่าวถึงตอนท้าย นัยน์ตาของเขาฉายแววลุกโชนออกมา “และสิ่งที่ข้าต้องการ ก็คือคู่ต่อสู้เช่นนี้ มีเพียงสังหารเขา จึงจะทำให้ข้าได้โอกาสเหยียบย่างบนปลายยอด!”

คู่ต่อสู้คนนั้นเป็นถึงมกุฎราชันแห่งระดับหยั่งสัจจะของเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่งเชียว!

ชายชราเองก็ลอบสูดหายใจเย็นเยียบ เขาค่อนข้างตกใจ กี่ปีมาแล้วล้วนไม่เคยได้ยินว่าผู้แข็งแกร่งระดับนี้ถือกำเนิดในจักรวรรดิมาก่อน

ไฉนจู่ๆ วันนี้จึงโผล่ขึ้นมาคนหนึ่ง

ทันใดนั้นหัวใจของชายชราพลันบังเกิดความเสียใจอย่างรุนแรงวูบหนึ่ง หากรู้ก่อนแต่แรก เขายิ่งควรลงมือสังหารอีกฝ่ายโดยพลัน!

คนเช่นนี้หากผงาดขึ้นมา สำหรับทั้งเผ่าพ่อมดเถื่อนของพวกเขาแล้ว ย่อมเป็นหายนะยิ่งใหญ่อย่างที่สุด!

“หมานจิ่ว ข้าต้องการให้เจ้าทำสิ่งหนึ่ง”

ทันใดนั้นชายเงาสีเทาพลันเอ่ยปาก “ช่วยสืบข่าวคราวคนผู้นี้มาสักหน่อย ต้องละเอียดที่สุด ข้าจำเป็นต้องทำความเข้าใจคู่ต่อสู้คนนี้ให้รอบด้าน!”

ชายชราที่ถูกเรียกว่าหมานจิ่วกล่าวถาม “นายน้อย คนผู้นี้มีรูปร่างเป็นอย่างไร อายุเท่าใด มีลักษณะเฉพาะเจาะจงหรือไม่”

ชายเงาสีเทาครุ่นคิด อธิบายรูปลักษณ์ของหลินสวินหนึ่งรอบ จากนั้นจึงกล่าวว่า “น่าจะหาเขาพบได้ง่าย เพราะอายุของเขาจะต้องไม่เกินยี่สิบปีเป็นแน่ ยังเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง! หากคาดไม่ผิด เขาน่าจะเพิ่งมาถึงสมรภูมิกระหายเลือด”

เด็กหนุ่ม!

เหยียบย่างบนมกุฎมรรคาแห่งระดับหยั่งสัจจะ?

หัวใจของหมานจิ่วพลันไหวระริก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อ่อนวัยเช่นนี้ ก็เหยียบย่างขอบเขตแห่งราชันเสียแล้ว สิ่งนี้เห็นได้ชัดว่าน่ากลัวยิ่งนัก!

“จำไว้ เจ้ามีหน้าที่แค่สืบหาข่าวสาร หากกล้าลงมือกับเขา ทำข้าเสียการใหญ่ ข้าจะไม่เอาเจ้าไว้แน่!”

ชายเงาสีเทาเอ่ยปากอย่างเย็นเยียบ สายตาจ้องหมานจิ่วเขม็ง มีกลิ่นอายที่มิอาจฝ่าฝืนประการหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์