ตอนที่ 749 บาดเจ็บ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 749 บาดเจ็บ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เห็นได้ชัดว่าเขาคิดจะกำราบหลินสวินอย่างแข็งกร้าว เหยียบหลินสวินไว้แทบเท้าด้วยท่าทีดูหมิ่นทรงพลัง!
หลินสวินไม่ได้หลบเลี่ยง โบกฝ่ามือขวาออกมา สำแดงประทับปี้อั้นซัดโจมตีไปเบื้องหน้า ดุจดังสัตว์เทพปี้อั้นตัวหนึ่งผงาดขึ้นสู่ฟากฟ้า ท่วงท่าบารมีก็น่าทึ่งเช่นเดียวกัน ทำให้ห้วงอากาศระเบิดคำราม
ตูม!
ที่แห่งนี้เหมือนภูเขาถถล่มผืนดินทลาย เสียงปะทะกันราวกับเก้าชั้นฟ้าคำราม ดังกึกก้องกำทวน สะเทือนจนบาดแก้วหู เลือดลมพลิกตลบ
ผู้ฝึกปราณของจักรวรรดิต่างตกประหม่าหาใดเปรียบ รู้สึกกังวลแทนหลินสวิน กลัวว่าเขาจะรับการโจมตีรุนแรงของชิงเจ๋อไม่ไหว อย่างไรเสียเจ้าหมอนี่ก็น่ากลัวเกินไปจริงๆ
ส่วนคนตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างตระกูลจั่วและฉินกลับแย้มยิ้ม รู้สึกผ่อนคลายและฮึกเหิมอย่างยิ่ง ต่างไม่คิดว่าหลินสวินเป็นคู่ต่อสู้ของชิงเจ๋อ เพราะพลังของทั้งสองต่างชั้นกันเกินไป
มีเพียงกู้ตงถิงที่นิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา ในใจของเขารู้ดีว่า หากเด็กหนุ่มคนนั้นเหยียบย่างบนมกุฎมรรคาแล้วจริงๆ จะต้องไม่ถูกกำราบอย่างง่ายดายเป็นแน่
ในลาน แสงเรืองรองพังทลายสั่นสะเทือนรุนแรง เสมือนภูเขาไฟสองลูกปะทะกัน ปลดปล่อยความแสงผันผวนน่าหวาดกลัวออกมา แผ่กระจายไพศาล กวาดม้วนทั่วสารทิศราวกับคลื่นมหึมา
แนวหินภูเขา ถนนหนทาง ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ละแวกใกล้เคียงต่างถูกทำลายในบัดดล ฝุ่นควันคละคลุ้ง
ทั้งสองดวลกันด้วยหมัดเปล่า คนหนึ่งรูปร่างสูงโปร่ง ดุกร้าวผ่าเผย ดุจดังกระบี่สมบัติไร้เทียมทานออกจากฝัก อีกคนเงาร่างโดดเด่นเหนือโลกีย์ รอบกายรายล้อมด้วยแสงพิสุทธิ์เรืองรอง ต่างฝ่ายต่างฟาดฟัน คลื่นปั่นป่วนอันน่าหวาดกลัวนั้นลุกโชน บาดตาจนผู้คนไม่อาจลืมตาขึ้นได้
เพียงชั่วขณะเท่านั้นก็ประมือกันกว่าสิบครั้ง ว่องไวอย่างยิ่ง ความน่าหวาดกลัวแห่งพลังทำให้พื้นที่ตรงนั้นตกสู่ความโกลาหลใหญ่ เมฆลมเปลี่ยนสี สรรพสิ่งแตกทลาย
นี่…
คนตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างตระกูลจั่วและฉินต่างอึ้งค้าง ชิงเจ๋อซึ่งครองพลังแกร่งกล้าไร้เทียมทาน มีพลังโจมตีดุกร้าวน่ากลัวเพียงใด แต่ถึงกับถูกสกัดไว้ได้!
ทั้งยังกำลังปะทะกันซึ่งๆ หน้า!
พวกเขาหัวใจสะท้าน เบิกตากว้างด้วยรู้สึกยากจะเชื่อ ความผ่อนคลายก่อนหน้านี้หายลับไป รอยยิ้มก็แข็งทื่ออยู่บนใบหน้า
“ชิงเจ๋อกดพลังของตัวเองเอาไว้ ถึงได้ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่มีโอกาสโจมตีโต้กลับ วางใจเถิด ความพ่ายแพ้ของเขาถูกกำหนดไว้แล้ว อยู่ที่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น”
บุคคลชั้นแนวหน้าของตระกูลจั่วคนหนึ่งปลอบใจเช่นนี้
โครมๆ!
พื้นดินแตกระแหงทั่วบริเวณ เศษหินดินโคลนกวาดม้วนลอยล่องราวกับคลื่นสมุทร ห้วงอากาศส่งเสียงหวีดคำรามบาดแก้วหู แสงเรืองรองแหลกลาญในความว่างเปล่า
นี่คือภาพน่ากลัวที่เกิดจากการปะทะดุเดือดระหว่างทั้งสองคน
รุนแรงเกินไปแล้วจริงๆ
เวลานี้มีผู้ฝึกปราณของขุมอำนาจต่างๆ ตั้งไม่รู้เท่าไรรวมตัวอยู่หน้าประตูภูเขาชำระจิต สายตาทั่วทั้งนครต้องห้ามต่างกำลังจับจ้องมาที่การต่อสู้ในครั้งนี้
แรกเริ่มเดิมทีผู้ฝึกปราณจักรวรรดิมากมายยังกังวล ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แทนหลินสวิน แต่ไม่นานสภาพจิตใจของพวกเขาล้วนสั่นสะท้าน และถูกดึงดูดเข้ามาในการต่อสู้สะท้านโลกครั้งนี้
นี่เรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้สะท้านโลกอันยอดเยี่ยม หาพบได้ยากและเป็นประวัติการณ์โดยไม่ต้องสงสัย
ฉึบ!
ไม่นานนัก สองคนที่กำลังสู้กันดุเดือดล้วนล่าถอย ต่างฝ่ายต่างแยกจากกัน
เพียงแต่ไม่นานทั้งสองก็เริ่มการโจมตีอันน่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าเดิมขึ้นอีกครั้ง
ฝนแสงเรืองรองเจิดจรัสราวกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำ ปกคลุมเงาร่างของทั้งสอง พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เงาร่างไหววูบ ทำเอาผู้คนมองจนลานตา เกือบลืมหายใจไปสิ้น
แม้จะเป็นคนใหญ่คนโตรุ่นอาวุโสล้วนอดไหวหวั่นไม่ได้ ไม่อาจจิตนาการได้ว่าคนรุ่นหลังสองคนที่อายุน้อยเช่นนี้ ไฉนถึงครอบครองพลังน่าสะพึงเช่นนี้ได้ นี่มันวิปริตชัดๆ
ส่วนผู้ฝึกปราณทั่วไปบางคนกลับตกตะลึงโดยสิ้นเชิง ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น สำหรับพวกเขาแล้วพลังเช่นนี้เหนือจินตนาการเกินไป ทุกครั้งที่ปะทะกันก็เพียงพอจะทำลายภูผามหาสมุทร ปั่นป่วนจักรวาลได้แล้ว ดูเหมือนกับสุริยันจันทรากำลังประชันแสงกันไม่มีผิด
“เฮอะ!”
ในลาน ชิงเจ๋อแค่นเสียงเย็นชา การโจมตีแข็งกร้าวของเขาถึงขั้นถูกหยุดยั้ง ไม่สามารถพิชิตชัยคู่ต่อสู้คนนี้ได้ในทันที สิ่งนี้ทำให้เขาค่อนข้างไม่สบอารมณ์
ตูม!
อานุภาพของชิงเจ๋อยิ่งแกร่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ รอบกายมีแสงเรืองลุกโชน พวยพุ่งสู่ท้องฟ้าราวกับเตาไฟขนาดใหญ่ ผมยาวสีเงินปลิวสยาย องอาจดั่งเทพไท้ สุกสกาวชัชวาล
“แข็งแกร่งยิ่ง!”
มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติบางคนต่างหน้าเปลี่ยนสี รับรู้ถึงความน่ากลัวในพลังของชิงเจ๋อ
“ปะทะฟู่ซี่!” เงาร่างของหลินสวินพลันสำแดง แผ่นหลังแผ่แสงเรืองออกมาดูประหนึ่งมังกรตัวใหญ่ ปรากฏภาพมายาแห่งสัตว์เทพฟู่ซี่ตัวหนึ่ง
นี่คือมรดกวิชาลับร่างหนึ่งในมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร ถูกหลินสวินในตอนนี้สำแดงออกมา พลังอำนาจนั้นแตกต่างจากที่ผ่านมา พลันเห็นฟู่ซี่โฉบขึ้นกลางอากาศ ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างอันน่าหวาดกลัวออกมา ดูราวกับจะจมฟ้าดินผืนนี้ไปสิ้น
ปัง!
พริบตานั้นทุกคนต่างมองเห็นเต็มตา เงาร่างของชิงเจ๋อถึงกับถูกชนจนเซ เกือบกระเด็นลอยออกไป
ทั่วลานต่างฮือฮา!
แม้แต่กู้ตงถิงที่สุขุมเยือกเย็น เวลานี้ยังอดหรี่ตาลงน้อยๆ ไม่ได้
และเมื่อผ่านการโจมตี นัยน์ตาของชิงเจ๋อเปลี่ยนเป็นเย็นชา ผมเงินเต้นพล่าน รอบกายโอบล้อมด้วยแสงเรืองสีเขียวดุจเปลวไฟเผาผลาญ
ครืน ครืน~
พลานุภาพของเขากำลังปะทุสูงขึ้น ห้วงอากาศรอบกายล้วนพังครืนอลหม่าน ลมเมฆละแวกใกล้เคียงต่างผันแปร ถูกแสงเรืองที่แน่นขนัดนั้นย้อมให้กลายเป็นสีเขียว
ในตอนท้าย ฟ้าดินล้วนสั่นสะเทือนตามการหายใจเข้าออกของเขา ดูน่าตระหนกยิ่งนัก
ไม่ว่าจะเป็นคนตระกูลจั่วและฉินเหล่านั้น หรือผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิคนอื่นๆ เวลานี้หัวใจต่างเต้นระรัว รับรู้ถึงความน่ากลัวของชิงเจ๋อ นี่คือคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นน่ากลัวยิ่งยวดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆ ในลานพลันมีเลือดสดสายหนึ่งพุ่งออกมา สะดุดตายิ่งนัก และในเวลาเดียวกันนั้นเงาร่างสายหนึ่งที่อยู่กลางอากาศก็ซวนเซถอยออกมาสิบกว่าจั้ง มุมปากหลั่งเลือด
“นี่…”
ทุกคนตะลึงพรึงเพริด เนื่องจากผู้นี่ถูกโจมตีคนนั้นไม่ใช่หลินสวิน แต่เป็นชิงเจ๋อ!
ผลลัพธ์นี้ทำเอาคนมากมายปากอ้าตาค้าง ล้วนแทบไม่อยากเชื่อ นี่ผิดคาดเกินไป กลายเป็นพลังโจมตีอันยิ่งใหญ่เหลือล้น
ส่วนบุคคลสำคัญของตระกูลจั่วและฉินยิ่งตาแทบถลนออกมา นี่เป็นไปได้อย่างไร
พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้
ก่อนหน้านี้คนมากมายต่างเป็นกังวลแทนหลินสวิน แทบจะไม่คิดว่าเขามีโอกาสกำชัย อย่างไรเสียชิงเจ๋อคนนั้นก็แข็งแกร่งเกินไป ผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติขั้นสมบูรณ์ยังรับสามกระบี่ของเขาไม่ได้เลยสักคน
ทว่าตอนนี้เขากลับได้รับบาดเจ็บก่อนในการประลอง ถูกหลินสวินที่เพิ่งมีปราณระดับหยั่งสัจจะทำให้ปราชัย การพลิกผันครั้งนี้ค่อนข้างกะทันหันมากเกินไปจริงๆ
‘ถ้ากดพลังต่อไป เกรงว่าคงไม่ได้แล้ว…’ กู้ตงถิงมุ่นคิ้ว
พลันเห็นกลางลาน ผมดำสนิทของหลินสวินพลิ้วไสว ทั่วกายรายล้อมด้วยแสงพิสุทธิ์เปล่งประกายดุจภาพมายา ยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้นประดุจเทพเซียนสันโดษ ทั่วร่างไร้ซึ่งการบาดเจ็บใดๆ
เขาเหลือบมองชิงเจ๋อแล้วกล่าวว่า “สำแดงพลังทั้งหมดของเจ้าดีกว่า ไม่เช่นนั้นเจ้าคงต้องพ่ายแพ้อย่างไม่น่าพิสมัยเท่านั้นแล้ว”
ทั่วลานไร้สุ้มเสียง เงียบสงัดหาที่เปรียบ
ไกลออกไป ชิงเจ๋อปาดคราบเลือดตรงมุมปากออกเบาๆ สีหน้าเริ่มขาวซีดเล็กน้อย บริเวณไหล่ซ้ายของเขาประทับรอยฝ่ามือที่กดลึกรอยหนึ่ง มีเลือดสดไหลนองออกมา น่าสยดสยองยิ่ง
ภาพเช่นนี้ทำให้ทุกคนล้วนสะท้านไหว
ก่อนหน้านี้ชิงเจ๋อแสดงออกอย่างถือดีและเหยียดหยามมากเพียงใด ทำเอาผู้ฝึกปราณมากมายต่างคิดไปว่าการดวลครั้งนี้หลินสวินคงเสียเปรียบ ตกที่นั่งลำบาก และเป็นไปได้ว่าอาจพ่ายแพ้
ทว่าเมื่อการต่อสู้เปิดม่านขึ้น ทั้งสองห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ความน่าทึ่งของหลินสวินดลให้ทั่งลานตะลึงพรึงเพริดไม่ขาดสาย จวบจนบัดนี้ภาพการบาดเจ็บของชิงเจ๋อปรากฏขึ้น ทำเอาทั่วทั้งลานมีความรู้สึกคล้ายไม่สมจริง ประหนึ่งกำลังฝันอยู่ก็ไม่ปาน
“นี่เป็นถึงศิษย์สืบทอดของสำนักกระบี่เทียมฟ้า ผู้กล้าทรงอำนาจอย่างแท้จริงคนหนึ่ง เหตุใดถึงถูกโจมตีจนบาดเจ็บไปก่อนเสียได้”
บุคคลสำคัญของตระกูลจั่วและฉินต่างคับข้องยิ่งนัก ในใจไม่อยากเชื่อความจริงข้อนี้
“เขากดพลัง ไม่ได้สำแดงพลังทั้งหมด อีกอย่างท่านทั้งหลายอย่าลืมเชียว ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของชิงเจ๋อคือวิถีกระบี่ แต่จนป่านนี้เขายังไม่เคยงัดพลังระดับนั้นออกมาใช้เลย! อดใจรอดูต่อไป คนที่พ่ายแพ้ในตอนสุดท้ายย่อมไม่ใช่ชิงเจ๋อแน่”
ประโยคนี้ของกู้ตงถิงทำให้บุคคลสำคัญตระกูลจั่วและฉินต่างคืนสติ กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ในความเป็นจริง ถ้อยคำของกู้ตงถิงหาได้โป้ปดไม่ เขารู้จักชิงเจ๋อดี ผู้สืบทอดคนนี้ครอบครองความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมความถือดีของเจ้าตัว ในสำนักกระบี่เทียมฟ้าถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นผู้ปรีชาโดดเด่น อานุภาพไม่ธรรมดาถึงที่สุด
การบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของเขานับว่าแค่เลินเล่อเท่านั้น
กู้ตงถิงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ตอนที่ชิงเจ๋อเริ่มเอาจริง ทุกอย่างนี้ย่อมแปรเปลี่ยนกลับตาลปัตรแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์