นับแต่เขาก้าวสู่มกุฎมรรคา เพิ่งเคยพบคนรุ่นเดียวกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้เป็นครั้งแรก ซ้ำยังเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง
เมื่อเขาเปลี่ยนการเก็บงำพลังก่อนหน้านี้ โคจรพลังทั้งมวลเข้าปะทะ จิตต่อสู้ภายในใจดุจภูเขาไฟลุกโหมร้อนระอุ
ตูม!
พลังหมัดของเขาเปิดเผยยิ่งใหญ่ อานุภาพแหวกภูเขาแยกสมุทร ทลายฟ้าตัดดิน มาพร้อมเสียงหงส์ขับมังกรขาน ปั่นป่วนที่ราบโดยรอบ สั่นสะเทือนโลกาพิภพ
นี่คือเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์!
หลินสวินเวลานี้เสมือนราชันผู้มิอาจทัดเทียม ยืนตระหง่านเหนือยอดระดับ หยิ่งผยองห้าวหาญดั่งมีเพียงข้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ดวงตาเด็กสาวชุดมีแสงวาบไหว นางคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าในแคว้นวิญญาณอัคนีจะมีคนที่เรียกได้ว่าเป็นราชันในระดับหยั่งสัจจะ ท่วงท่าไร้เทียมทานเช่นนั้นเรียกได้ว่าเหนือพิภพอย่างแท้จริง
อีกทั้งอายุยังน้อยเช่นนี้ ช่างยากพบเห็นยิ่งแล้ว!
“ฮึ มีฝีมือแค่นี้รึ หากเป็นเช่นนั้น วันนี้เจ้าต้องถูกข้าซัดจนโงหัวไม่ขึ้นแน่!”
เด็กสาวชุดดำแค่นเสียงคราหนึ่ง เจตนากระตุ้นหลินสวิน หมายลองดูขีดจำกัดและศักยภาพแฝงที่แท้จริงของเขาว่าอยู่ระดับใด
ขณะเดียวกันร่างสูงโปร่งทรงสง่าของนางเปล่งประกาย ท้ายหลังศีรษะปรากฏจักระเทพวงหนึ่ง ดุจโลกศักดิ์สิทธิ์ใบเล็ก อวลแสงอัศจรรย์เจิดจรัสโชติช่วง น่าตื่นตาหาใดเปรียบ
นี่คือมรดกวิชาลับอันน่าหวาดกลัวอย่างหนึ่ง มีอานุภาพกำราบฟ้าดิน หลอมละลายสรรพวิญญาณ
ก็เห็นกลางจักระเทพนั่นมีมังกรเจินหลงท่องเหินห้วงอากาศ หงส์เพลิงเริงระบำเหนือเก้าชั้นฟ้า เต่าดำสยบทะเลคราม วิหคชาดผลาญห้วงนภากาศ ลักษณ์ประหลาดทยอยปรากฏ ชวนประหวั่นไร้ขอบเขต
ยิ่งมีเสียงธรรมปริศนารางๆ ดังออกมา คลุมเครือแผ่กว้าง ดุจอริยเจ้าแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ ทำให้ทั่วฟ้าดินแถบนี้บริสุทธิ์ผุดผ่องหาใดเปรียบ มีอานุภาพเกรียงไกรไร้สิ้นสุดปกคลุม และทั้งหมดล้วนพุ่งกำราบไปยังหลินสวินเพียงคนเดียว
แข็งแกร่งยิ่ง!
หลินสวินสั่นสะท้านใจ สัมผัสถึงพลังกดดันหาใดเปรียบ ถึงกับทำให้เขามีเค้าลางว่าจะถูกพันธนาการและกดกำราบ
ทว่าเขาไม่ตระหนกแต่กลับยินดี ใจต่อสู้เปี่ยมท้นยิ่งกว่าเดิม โลหิตเดือดพล่านดุจเพลิงผลาญ มีอานุภาพกลืนกินภูผาธารา มาดมั่นไร้คู่ต่อกร
ตูม!
ผมสีดำของเขาแผ่สยาย นัยน์ตาดำดุจเหวลึกเจิดจ้า แสงศักดิ์สิทธิ์รอบกายยิ่งเหมือนห้วงมายา ท่วงท่าไร้มลทินยิ่งกว่าเดิม
กระบวนท่าทลายภูผา ทลายสมุทร ทลายวิญญาณ ทลายอากาศ ทลายมังกร ทลายปักษาเพลิง ทลายสวรรค์ ทลายอเวจี ทลายจักรวาล…
ปริศนาแห่งเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ถูกเขาใช้อย่างชำนาญ โหมปล่อยตามสะดวก เพียงชั่วขณะบนสังเวียนเปี่ยมพลังทำลายล้างน่าสะพรึง เสมือนวันสิ้นโลกมาเยือน
สามารถพบเจอคู่ต่อสู้ระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เวลานี้หลินสวินดื่มด่ำอยู่ในการต่อสู้โดยสมบูรณ์ ลืมสิ้นโลกภายนอก
ในสายตาเขามีเพียงการต่อสู้
จิตวิญญาณเขาเปี่ยมใจต่อสู้ พลุ่งพล่านร้อนเดือดดุจหินหนืด!
‘ร้ายกาจนัก ท่วงท่าแห่งการไร้คู่ต่อกรในระดับเดียวกันรึ หรือว่าเขาสัมผัสถึงธรณีประตูแห่งมกุฎมรรคา เข้าใจแก่นแท้แห่งราชันเสี้ยวหนึ่งแล้ว’
เด็กสาวชุดดำนัยน์ตาดุจสายฟ้า ในใจเองก็สั่นสะท้านไม่หยุด ควรรู้ว่านางบำเพ็ญเพียรมาจนถึงปัจจุบัน แต่นานมากแล้วที่ไม่เคยต่อสู้เช่นนี้มาก่อน
ผ่านผู้แข็งแกร่งที่ประลองกับนางในอดีต ไม่เคยมีใครเหมือนเจ้าหมอนี่ที่สามารถยืนหยัดได้ถึงขั้นนี้ ซ้ำยังไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
นี่ทำให้ใจต่อสู้ของเด็กสาวชุดดำถูกกระตุ้น กำหนดเวลาของมหาสงครามขยับใกล้เข้ามาทีละก้าว ก่อนหน้านั้นสามารถพบเจอคู่ต่อกรเช่นนี้ได้ เป็นเรื่องโชคดีโดยไม่ต้องสงสัย
ทั่วร่างนางถูกกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ปกคลุม เจิดจ้าดั่งเซียนลงจากสวรรค์มาเยือนโลกา รูปร่างท่าทางทรงสง่า ผิวพรรณกระจ่างเป็นประกายไม่แปดเปื้อนฝุ่นธุลี
ตูม!
ไม่นานนักค่ายกลป้องกันบนสังเวียนแห่งนี้ก็แบกรับต่อไม่ไหว ระเบิดแตกเสียงดังสนั่น คลื่นพลังน่าสะพรึงดุจเขาถล่มสมุทรคำรามแผ่กระจาย
ในลานประลองเต็มไปด้วยเสียงร้องแตกตื่น ผู้ฝึกปราณซึ่งเดิมถูกการประลองชิ้นเอกทำเอาสะท้านสะเทือน บัดนี้ต่างลนลานหนีหัวซุกหัวซุน ถอยห่างไปยังพื้นที่ห่างไกล
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ต้องรู้ว่าค่ายกลป้องกันบนสังเวียนนั้น สามารถต้านทานคลื่นพลังของผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติได้ แต่ยามนี้กลับถูกทำลายเละ…
นี่ไม่ได้หมายความว่าการต่อสู้ระหว่างชายหญิงคู่นี้ มีพลังพอจะกำราบผู้ที่อยู่ในระดับกระบวนแปรจุติหรอกรึ
“สวรรค์! หนุ่มสาวคู่นี้ดุดันเกินไปแล้วกระมัง” ผู้ฝึกปราณมากมายตกตะลึงอ้าปากค้าง ล้วนสั่นสะท้านจนจิตวิญญาณสูญเสียการควบคุม
‘ท่าทางเช่นนี้ อาจมีเพียงผู้กล้าแห่งยุคชั้นยอดที่สุดในปัจจุบันจึงจะสามารถครอบครองได้!’ ผู้ฝึกปราณอาวุโสส่วนหนึ่งในใจต่างสะท้านขวัญ แม้แต่พวกเขายังตระหนกและไหวหวั่นอย่างลึกซึ้ง
การต่อสู้แห่งยุคเช่นนี้ ต้องเรียกว่าเป็นประวัติการณ์เหนือกาลเวลา ยากพบเห็นและพิเศษโดดเด่นเกินไป
“พี่หลินสวิน อัดนาง!” ซย่าเสี่ยวฉงกวัดแกว่งกำปั้นเล็กนุ่มพลางตะโกนลั่น นางตื่นเต้นยิ่งนัก ดวงตาเปล่งประกายวาววาม
ฟุ่บ!
ในสังเวียนเงาร่างเด็กสาวชุดดำวาบไหวแล้วขึ้นมาอยู่บนชั้นเวหา ดวงตากระจ่างราวอสนีก้มมองหลินสวิน “กล้าขึ้นมาสู้ให้หนำใจสักตั้งไหม”
บริเวณลานประลองยุทธ์แม้ใหญ่โต แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับนางกลับเห็นได้ว่าจำกัดมือเท้าอยู่บ้าง ทันทีที่ต่อสู้ตามอำเภอใจอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติมิอาจจินตนา
“ดั่งเจ้าปรารถนา!”
หลินสวินยิ้มร่า เขามีความคิดเช่นนี้นานแล้ว เงาร่างวูบไหวทะลวงขึ้นเหนือเมฆโดยพลัน
ครืน!
บนท้องฟ้า แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจาย เปล่งแสงแรงกล้าเจิดจรัส ตามมาด้วยเสียงกึกก้องน่าสะพรึง ราวฟ้าคะนองสั่นสะเทือนเก้าชั้นฟ้า พลานุภาพน่าหวาดกลัว
ทั้งสองโรมรันดุเดือดอีกครา
ในลานประลองยุทธ์หมอกสน ผู้ฝึกปราณทั้งหมดอึ้งงัน พวกเขาแหงนมองขึ้นไปกลับเห็นแค่สัญญาณการต่อสู้เลือนรางบางส่วน เพราะที่นั่นช่างเจิดจรัสพาให้ตาพร่าเกินไป เสมือนการต่อสู้ระหว่างเทพไท้ที่ไม่อาจมองจ้องโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์