หลินสวินกำลังต่อสู้ ทั้งแข็งแกร่งและดุดัน เท้าใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง ทั่วร่างเปล่งประกาย ชั่วขณะนี้เขาเหมือนกับเทพมารขนานแท้ ระหว่างที่เคลื่อนไหวดูน่าหวาดกลัวเหลือล้น
นี่คืออานุภาพอันผงาดผยองอย่างหนึ่ง ใจต่อสู้ลุกโหม มีเพียงตัวข้าที่ยิ่งยง หมายกำราบศัตรูทั้งปวง
ดวงหน้าไร้ที่เปรียบของเด็กสาวชุดดำถูกหน้ากากสีเงินปกปิดเอาไว้ ทว่าแววประหลาดใจกลับไม่สามารถซุกซ่อนไว้ได้
แดนฐิติประจิมกว้างใหญ่นัก ครอบคลุมเขตแคว้นหลายพัน ไพศาลหาใดเปรียบ มีสำนักโบราณจำนวนมากตั้งตระหง่าน และมีผู้กล้าโดดเด่นที่มีชื่อเสียงเลื่องลืออยู่มากมาย
นับตั้งแต่เด็กสาวชุดดำฝึกปราณเป็นต้นมา ได้พบเจอผู้กล้าโดดเด่นมาแล้วทุกรูปแบบ และเคยประชันกับผู้มีพรสวรรค์เหนือใครอย่างแท้จริงมาบ้างแล้ว
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในระดับหยั่งสัจจะ หนำซ้ำยังอายุน้อยขนาดนี้ ดูแล้วอายุของเขาถึงขั้นน้อยกว่าตนอยู่หลายปีทีเดียว
สิ่งนี้ทำให้เด็กสาวชุดดำพิศวงยิ่งนัก คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะจับพลัดจับผลูมาเจอ ‘เจินหลง’ ตัวหนึ่งซึ่งจำศีลอยู่ในแคว้นวิญญาณอัคนีเข้าเสียได้
“แม่นาง หากเจ้ามีความสามารถแค่นี้ วันนี้คงต้องร่ำไห้วอนขอความเมตตาแล้ว”
ฝั่งตรงข้าม หลินสวินส่งเสียงหัวเราะออกมา เห็นชัดว่าผยองอวดดียิ่งนัก
เด็กสาวชุดดำลอบกัดฟันกรอด นัยน์ตาสุกใสยิงแสงประหนึ่งเจตกระบี่ออกมา นางโบกมือเรียกสัญลักษณ์พิสุทธ์อันหนาแน่นปานกระแสน้ำกระบวนหนึ่งออกมา ทลายห้วงอากาศ เฉือนพิฆาตสุริยันจันทราดุจดั่งเจตกระบี่ลึกลับอันคลุมเครือกลุ่มหนึ่ง
“คิดจริงๆ หรือว่าข้าไม่สามารถกำราบเจ้าได้”
เรือนร่างอรชรทรงสเน่ห์ของนางยิ่งดูพิสุทธ์มากขึ้นเรื่อยๆ เรือนผมดำรายล้อมด้วยแสงแวววาวเป็นประกาย อานุภาพไพศาล เป็นเอกเทศหาที่เปรียบมิได้
โครม!
เมื่อทั้งสองปะทะกันพลันปะทุแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นแถบๆ พลังหมัดและเจตกระบี่ลอยกระเซ็นดุจดั่งเปลวเพลิง โปรยปรายลงบนท้องฟ้า ทำให้พื้นที่แห่งนี้เจิดจ้าทุกอณู
พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด ประเดี๋ยวเหมือนมังกรเทพประจันกับหงส์เพลิง ประเดี๋ยวเหมือนเทพมารและเซียนฟาดฟันกัน ต่างสำแดงวิชาน่ากลัวอันเหนือกว่าระดับเดียวกันออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เด็กสาวชุดดำชายกระโปรงพลิ้วไสว ผิวพรรณสุกปลั่งเปล่งประกาย ลอยล่องดุจเซียน ต่อสู้อย่างดุเดือดกับหลินสวิน ไม่ว่าหลินสวินจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน ตั้งแต่ต้นจนจบนางก็ไม่เคยพลาดท่าเสียทีเลย
ทว่าในใจนางกลับมีเพลิงโทสะเสี้ยวหนึ่ง ครั้งแรกในชีวิตที่นางถูกต่อต้านจนถึงขั้นนี้ ไม่อาจมีข้อได้เปรียบ เห็นได้ชัดว่ายากลำบากมาก
บริเวณใกล้ๆ นาง ห้วงอากาศพังครืนอลหม่านไม่หยุด ลุกลามแผ่ขยาย นั่นคือพลานุภาพที่แข็งแกร่งขึ้นไม่หยุดรอบตัวนาง ขวางสกัดและสลายการโจมตีแข็งแกร่งที่มาจากหลินสวินไม่หยุดหย่อน
ตูม!
ทันใดนั้นเด็กสาวชุดดำเงาร่างไหววูบ มือเรียวขาวผ่องเปลี่ยนเป็นกระบี่ ฟันเป็นร่องรอยแห่งกระบี่อันเร้นลับคลุมเครือสายหนึ่งออกมา เข้าปะทะกับพลังหมัดของหลินสวิน ลำแสงบาดตาน่ากลัวพุ่งปราด ทำให้ห้วงอากาศแถบนั้นเปี่ยมด้วยกลิ่นอายพิสุทธ์และดุดัน
ตึกๆๆ!
ร่างของหลินสวินถูกซัดถอยหลัง เขาค่อนข้างประหลาดใจ จากนั้นนัยน์ตาดำราวมีสายอสนี พุ่งยิงแสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์ ซัดโจมตีออกไปอีกครั้ง เหี้ยมหาญทรงพลังยิ่งกว่าเดิม ทุกๆ ครั้งที่ย่ำเท้า ชือน้ำแข็งสีขาวหิมะผงาดคำราม กู่ก้องทั่วสารทิศ สั่นสะเทือนภูผาวารี แข็งแกร่งถึงขีดสุด
นัยน์ตาของเด็กสาวชุดดำหดรัดทันใด ตระหนักถึงแรงกดดันอันน่ากลัว
นางไม่กล้าอืดอาด มือเรียวโบกสะบัด เจตกระบี่พิสุทธ์เจิดจ้าเป็นประกายสายหนึ่งปรากฏขึ้น สำแดงไอสังหารดุกร้าวไร้เทียมทานหาที่ทัดเทียมมิได้
พริบตานี้ห้วงอากาศหวีดคำราม ระหว่างฟ้าดินเต็มไปด้วยกลิ่นอายน่าหวาดกลัว ผู้ฝึกปราณที่ชมการต่อสู้จากบนพื้นต่างตัวสั่นงันงก ขนลุกขนตั้งประดุจตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง
เจตกระบี่พิสุทธ์สายนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว เพียงแค่สามชุ่น กลับบางเฉียบคมกริบไร้เทียมทาน คล้ายสามารถทะลวงผ่านกาลเวลา สังหารสรรพวิญญาณจนสิ้นซาก
‘ถึงขนาดบีบให้คุณหนูใช้ ‘ประทับกระบี่ไตรภพ’ เชียว!’ หญิงชราชุดเขียวไหวหวั่นโดยสิ้นเชิง นัยน์ตาเปี่ยมด้วยแสงน่าสะพรึงกลัว
ประทับกระบี่ไตรภพ คือมรดกตกทอดไร้เทียมทานอย่างหนึ่งนับตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน สามารถตัดสิ้นกรรมแห่งชาติปางก่อน ชาตินี้ และชาติหน้าได้ ความหมายลึกซึ้งทั้งหมดขมวดรวมอยู่ในประทับเดียว เมื่อสำแดงออกมา มีพลังแห่งการผันผวนป่วนปั่นจักรวาล!
นี่เป็นถึงวิชาลับที่ถ่ายทอดจากอริยบุคคลบรรพกาลอย่างแท้จริง!
หลินสวินขนลุกขนพอง วิกฤตรุนแรงไหลเอ่อขึ้นในหัวใจ นัยน์ตาของเขาหรี่ลง ตระหนักถึงความน่ากลัวในการโจมตีครั้งนี้
เพียงแต่ยามนี้เขากลับไม่ถอยหนีแต่ยังพุ่งเข้าใส่ ส่งเสียงคำรามยาวคราหนึ่ง จิตวิญญาณและพลังทั้งหมดในร่างกายโคจรถึงสภาวะสูงสุดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งตัวปลดปล่อยกลิ่นอายเต็มสมบูรณ์ถึงขีดสุดออกมา
ตูม!
เขาซัดหมัดหนึ่งออกไป
ท่ามกลางความเลือนราง พลังหมัดดูคล้ายแหวกว่ายข้ามกาลเวลา มีกลิ่นอายทำลายล้างยิ่งใหญ่ดุจดั่งมหากาพย์อย่างหนึ่ง คล้ายสามารถสะเทือนอุปสรรคขวางกั้นแห่งเวิ้งนภา ทลายบานประตูแห่งแดนมายา
น่าตะลึงเกินไปแล้ว!
ผู้ฝึกปราณในที่นั้นต่างมีความรู้สึกราวกับหายใจไม่ออก เหมือนกับมองเห็นเทพมารผู้หนึ่งกำลังซัดหมัดใส่เวิ้งฟ้า หมายทำลายบ่วงพันธนาการทั้งปวง
หยั่งถึงแล้ว!
และชั่วขณะที่ซัดหมัดนี้ออกมา หัวใจของหลินสวินกลับสงบนิ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน ปริศนาเร้นลับนานาประการของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ปรากฏขึ้นภายในใจ ท้ายที่สุดปริศนาเร้นลับเหล่านี้ผนึกรวมเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นหนึ่งหมัดในมือ
นี่… ก็คือหนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์!
ในความมึนงง ไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนไหนก็ตามที่จับจ้องศึกครั้งนี้ราวกับมองเห็นว่าบนท้องฟ้า จู่ๆ มีเงาร่างกำยำหาใดเปรียบสายหนึ่งปรากฏขึ้น เท้าเหยียบบนยอดพยับเมฆ ร่างกายประดุจตีหลอมด้วยเหล็กทองแดง มีกลิ่นอายแกร่งกล้าน่ากลัวพลุ่งพล่านออกมา
เหมือนดังเทพไท้ในตำนานที่หยัดกายขึ้นมาและส่งหนึ่งหมัดทะยานฟ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์