ดรุณจ้าวกระบี่เซี่ยอวี้ถัง!
ตอนที่หลินสวินยังเป็นเด็กหนุ่มอ่อนแออายุสิบสามสิบสี่ ก็เคยเจอเซี่ยอวี้ถังในป่าโบราณนอกหมู่บ้านเฟยอวิ๋นครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นหลินสวินมีพลังปราณเพียงระดับกำลังภายในเท่านั้น แต่เซี่ยอวี้ถังได้ก้าวสู่ระดับมหาสมุทรวิญญาณแล้ว สามารถควบคุมดาบ สง่างามราวกับเซียน
จากนั้นในเมืองหมอกอำพรางมณฑลซีหนาน ครั้งแรกที่หลินสวินเจอหลิ่วชิงเยียน ก็ได้เจอเซี่ยอวี้ถังอีกครั้ง
เพียงแต่ตอนนั้นเซี่ยอวี้ถังเคยใช้คมกระบี่สามฉือจ่อลำคอหลินสวิน ด้วยท่าทางที่ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ ข่มขู่ให้หลินสวินปล่อยคุณชายเสเพลคนหนึ่งที่ถูกกำราบไว้
จนตอนนี้หลินสวินยังจำคำพูดที่เซี่ยอวี้ถังเคยพูดตอนนั้นได้…
‘มดปลวกตัวน้อย หากไม่รู้จักประมาณตนระวังภัยจะมาถึงตัว!’
นั่นเป็นครั้งแรกที่หลินสวินถูกข่มขู่เช่นนี้ ถูกกระบี่จ่อคอหอย มองเป็นมดปลวก ชีวิตนี้เขาไม่มีวันลืมความรู้สึกเช่นนี้
เพียงแต่หลังจากหลินสวินเข้าไปอยู่ในนครต้องห้ามได้ไม่นาน ดรุณจ้าวกระบี่เซี่ยอวี้ถังก็เดินทางมาฝึกปราณที่ดินแดนรกร้างโบราณ หลังจากนั้นหลินสวินก็ไม่เคยได้ยินข่าวของคนผู้นี้อีกเลย
แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าจะพบคนผู้นี้อีกครั้งที่หน้าเมืองก่วมหิมะ ซึ่งอยู่แถบชายแดนแคว้นล้ำเมฆาแห่งแดนฐิติประจิม
‘ดูเหมือนว่าหลังจากเขามาเยือนดินแดนรกร้างโบราณ ก็ได้กราบอาจารย์เข้าไปฝึกปราณในสำนักกระบี่โผผิน และดูจากสถานการณ์คงได้รับความสำคัญจากสำนักอย่างมาก’
หลินสวินตระหนักได้ในใจ เซี่ยอวี้ถังสามารถติดตามอยู่เคียงข้างจั๋วขวงหลันผู้เป็นหนึ่งในห้าศิษย์สืบทอดของสำนักกระบี่โผผินได้ ฐานะในสำนักกระบี่โผผินย่อมไม่ต่ำแน่
หลินสวินไม่ถึงกับรู้สึกดีกับเซี่ยอวี้ถัง แต่ก็ไม่ได้เกลียดชัง ตอนนั้นแม้เคยถูกอีกฝ่ายเอากระบี่จ่อคอข่มขู่ แต่ก่อนหน้านั้นเซี่ยอวี้ถังก็เคยบังเอิญช่วยเขาไว้ครั้งหนึ่ง
ดังนั้นสำหรับหลินสวิน เขากับเซี่ยอวี้ถังก็เท่ากับว่า ‘หมดสิ้นบุญคุณความแค้น’ ไม่มีใครติดค้างใคร
แน่นอนว่าหลินสวินมีความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีของตน แม้จะไม่ไปแก้แค้นเซี่ยอวี้ถัง แต่เขาก็ไม่มีทางจะไปปฏิสัมพันธ์กับเซี่ยอวี้ถังก่อน
แม้สำหรับดินแดนรกร้างโบราณ พวกเขาทั้งสองล้วนถือว่าเป็น ‘ศัตรู’ ที่มาจากที่เดียวกัน ทว่าเป็นคนรู้จักก็ใช่ว่าจะสามารถมองข้ามเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วให้อภัยต่อกันได้
“หลินสวิน?”
เพียงแต่ตอนที่หลินสวินเตรียมจะหมุนตัวกลับไปนั้น เซี่ยอวี้ถังก็สังเกตเห็นเขาเช่นกัน พลันส่งเสียงอย่างประหลาดใจ “เจ้าก็มาดินแดนรกร้างโบราณแล้วหรือ”
หลินสวินขานรับว่าอืม สีหน้าเรียบเฉย
เซี่ยอวี้ถังขมวดคิ้ว ไม่เจอกันเพียงไม่กี่ปี เขาพบว่าพลังปราณของหลินสวินอยู่ในระดับหยั่งสัจจะขั้นสมบูรณ์แล้ว ในใจยิ่งคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
“ตอนนี้เจ้ากราบอาจารย์เข้าสำนักใดหรือยัง”
เซี่ยอวี้ถังถาม ตอนนั้นเขาไม่เคยสนใจหลินสวินเลยสักนิด
และเป็นตอนที่อยู่ในนครต้องห้าม เขาถึงได้รู้ว่าหลินสวินสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่จับตามองแล้ว
เพียงแต่เขาก็ยังคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่มาจากหมู่บ้านเล็กๆ ชายขอบของจักรวรรดิจื่อเย่า ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี ก็มีความสามารถที่จะเข้ามาฝึกปราณในดินแดนรกร้างโบราณแล้ว!
นี่ทำให้อดตะลึงและประหลาดใจไม่ได้แล้ว
อย่าลืมว่าในจักรวรรดิจื่อเย่า ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถเข้าสู่ดินแดนรกร้างโบราณได้ง่ายๆ! มีเพียงขุมอำนาจใหญ่ชั้นยอดแห่งยุคเท่านั้น จึงจะสามารถส่งลูกศิษย์ของพวกเขามายังแดนฝึกปราณศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่และกว้างขวางนี้ได้!
“ยัง”
หลินสวินส่ายหน้า
เซี่ยอวี้ถังขานรับว่าอ้อคำหนึ่ง ในใจกระจ่างแล้ว
ก็จริง เด็กหนุ่มที่ไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีฐานะ สามารถเข้ามาฝึกปราณในดินแดนรกร้างโบราณได้ก็เป็นโชคดีมากแล้ว ยังจะสามารถเข้าสำนักโบราณใดได้อย่างไร
“ศิษย์น้องเซี่ย นี่คือสหายของเจ้าตอนที่อยู่โลกชั้นล่างหรือ”
ทันใดนั้นจั๋วขวงหลันพูดขึ้น เขาอยู่ในชุดเสื้อแขนกว้าง ท่าทางสง่างาม ร่างยืดตรงราวกับกระบี่ มีกลิ่นอายราวกับเมฆที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ทันทีที่อ้าปากก็กลายเป็นจุดสนใจของทั้งลาน
“ไม่ถึงขั้นเรียกว่าสหาย แค่รู้จักเท่านั้น” เซี่ยอวี้ถังพูดสบายๆ
จั๋วขวงหลันขานรับว่าอ้อคำหนึ่งก็เก็บสายตา ไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยพอเป็นพิธีกับหลินสวิน ท่ามกลางความเงียบแฝงความเย่อหยิ่งที่ดูห่างเหิน
โลกชั้นล่าง!
บริเวณรอบๆ ผู้สืบทอดสำนักกระบี่โผผินต่างชะงัก สีหน้าพลันปรากฏความไม่เห็นด้วย ต่างดูถูกเหยียดหยามไม่มากก็น้อย
ทีแรกเห็นเซี่ยอวี้ถังคุยกับหลินสวิน พวกเขายังแปลกใจในตัวหลินสวินไม่น้อย คิดว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของสำนักเก่าแก่ที่ใดที่หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์