Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 830

สรุปบท ตอนที่ 830 ดุจอริยะจรจรัล: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 830 ดุจอริยะจรจรัล จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 830 ดุจอริยะจรจรัล คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 830 ดุจอริยะจรจรัล
จบความแค้นหรือ

นี่หมายความว่าอย่างไร

โก่วหยางป๋อและโก่วหยางทงไม่ได้โง่เขลา ก่อนหน้านี้เป็นเพราะถูกสั่นคลอนจึงควบคุมความรู้สึกไม่ได้ แต่เวลานี้เมื่อใคร่ครวญเล็กน้อยก็ได้สติกลับมา

ในใจพวกเขาตื่นกลัว กลิ่นอายเจ้าเด็กนั่นก็หายลับไปภายในถ้ำนั้น ส่วนสตรีทรงอำนาจหาใดเทียบผู้นี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่เดินออกมาจากถ้ำนั้นหรอกหรือ

นี่เป็นการออกหน้าแทนเด็กนั่นหรือ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ทั้งสองคนก็รู้สึกอัดอั้นแทบพังทลาย จะคิดได้อย่างไรว่าเพียงแค่ตามสังหารเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะผู้หนึ่งเท่านั้น กลับไปล่วงเกินผู้ทรงฤทธิ์เช่นนี้ได้

“ผู้อาวุโส นี่เป็นการเข้าใจผิดขอรับ!”

โก่วหยางป๋อเหงื่อออกไปทั้งหัว ร้องขอชีวิตอย่างกริ่งเกรง

สวบ!

แต่โก่วหยางทงกลับหนีไปแล้ว เขาดูออกว่าต่อให้ร้องขอชีวิตไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่างไรเสียพวกเขาก็ตามฆ่าเจ้าเด็กนั่นมาตลอดทาง

ในสถานการณ์เช่นนี้จะยังมีทางให้หันหลังกลับได้เสียที่ไหน

ดังนั้นโก่วหยางทงจึงหนีทันทีโดยไม่ลังเล อีกทั้งยังใช้พลังทั้งหมดที่มี เงาร่างหายวับ ทั้งร่างมีแสงกาฬพลุ่งพล่าน แปรสภาพเป็นสุนัขสวรรค์มายาทมิฬยาวถึงร้อยจั้งเสียงดังโครมคราม สั่นสะเทือนห้วงอากาศให้แหลกสลาย ท่าทางหนีเอาชีวิตรอด

“เจ้า…” โก่วหยางป๋อเดือดดาล เขาตกตะลึง ไม่อาจคาดคิดได้ว่าอีกฝ่ายกลับทิ้งตนไปได้

ทั้งร่างของหญิงสาวโอบล้อมไปด้วยรัศมีเทพงดงามสะดุดตาสายแล้วสายเล่า ราวกับสายโซ่มีระเบียบ นางสีหน้าเรียบเฉย แม้จะเห็นโก่วหยางทงหนีไป สีหน้าก็ไม่หวั่นไหวตื่นตระหนก

“หนีไปสุดขอบฟ้าแล้วอย่างไรเล่า หนีความตายไม่พ้นอยู่ดี…”

หญิงสาวยื่นมือเรียวงามเปล่งปลั่งข้างหนึ่งบีบเบาๆ ไปในอากาศ

การเคลื่อนไหวตามใจนึกและเป็นธรรมชาติ

แต่ห่างออกไปหลายพันลี้ โก่วหยางทงที่กำลังหนีอย่างบ้าคลั่งกลับค้นพบอย่างตื่นตะลึงว่าร่างของตนกลับกำลังถอยหลัง!

เขายิ่งหนีไวขึ้นเท่าไรก็ถอยหลังเร็วขึ้นเท่านั้น!

“ไม่…!”

โก่วหยางทงตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบหลุดออกมา หวาดกลัวสุดขีด ส่งเสียงร้องคำรามลั่นฟ้า

ถึงกระนั้นที่ทำให้เขาสิ้นหวังก็คือ เขาเป็นถึงบุคคลระดับราชัน เวลานี้กลับประหนึ่งมดตัวจ้อย ไร้พลังดิ้นรนหรือต้านทาน!

ทำได้เพียงเบิกตามองตัวเองถอยหลังไป… ถอยหลังไป…

แต่ในสายตาของโก่วหยางป๋อแล้ว กลับเห็นเป็นอีกภาพหนึ่ง

ร่างมหึมายาวร้อยจั้งของโก่วหยางทงนั้นกลับหดเล็กลงไม่หยุด กระทั่งภายหลังถึงกับแปรเปลี่ยนเป็นเล็กเท่ามด ถูกหนีบเข้าไประหว่างสองนิ้วของสตรีลึกลับนางนั้น!

เฮือก!

โก่วหยางป๋อสูดหายใจเย็น สับสนงงงวยไปหมดแล้ว นี่เป็นวิชาไร้เทียมทานชั้นไหนกัน เหตุใดถึงมีพลานุภาพน่ากลัวเหลือเชื่อเช่นนี้

บุคคลระดับระชันดุจดังมด!

ภาพนี้ไม่ใช่การเปรียบเปรย แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว!

“อ๊าก!”

ไม่ทันที่โก่วหยางป๋อจะมีปฏิกิริยา ร่างของเขาก็ถูกจับไปอย่างเสียการควบคุมเช่นกัน จนอดส่งเสียงคำรามพรั่นพรึงไร้ทางสู้ไม่ได้

เวลานี้ หากมีโอกาสเลือกใหม่อีกครั้ง ต่อให้ให้เขามีจิตใจกล้าหาญร้อยดวงก็จะไม่ไปตามฆ่าหลินสวินอีกเด็ดขาด

น่าเสียดาย มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว

เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น สัตว์ประหลาดระดับราชันสองคนก็หายไปจากที่นั้น

ส่วนในฝ่ามือของหญิงสาวผู้นั้น กลับมีสุนัขสีดำขนาดเท่ามดสองตัวกำลังดิ้นรนเห่าหอนอย่างคลุ้มคลั่ง แต่เสียงกลับเบานัก ไม่ได้ยินเลย

ภาพนี้ช่างสั่นสะท้านใจคนเกินไปแล้ว!

ราชันที่ผงาดผยองเหนือพลังปราณห้าระดับสองคน กลับถูกหยิบขึ้นเหมือนต้นหญ้า ราวกับมดที่ไม่อาจสลัดพ้นนิ้วมือของหญิงสาวผู้นั้น!

ประหนึ่งวิชาลับไร้เทียมทานยุคบรรพกาลในตำนาน… จักรวาลปลายหัตถ์!

หากภาพนี้กระจายออกไปต้องก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่โตแน่!

“ผ่านไปหลายปีขนาดนี้ ระดับราชันในตอนนี้อ่อนแอขนาดนี้เลยหรือ ขนาดเมล็ดพันธุ์แห่งมรรคยังไม่รวมตัวกันเลย มีดีเพียงเปลือกนอกจอมปลอม…”

หญิงสาวอึ้งไป ในความทรงจำของนาง อานุภาพของระดับราชันสามารถกลับภูเขาพลิกสมุทร คำรามก้องจักรวาล ทรงพลังและโอหัง เดิมไม่ควรอ่อนแอเช่นนี้

ไป่เฟิงหลิวเกิดสัญชาตญาณแรงกล้าขึ้นในใจ

แม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าบุคคลไร้เทียมทานดั่งอริยะสตรีผู้นี้เป็นไปได้สูงมากที่จะเกี่ยวข้องกับเทพมารหลิน!

คราวนี้เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬเตะโดนแผ่นเหล็กยิ่งใหญ่เสียแล้ว จะโชคร้ายหรือไม่

ไป่เฟิงหลิวผุดลุกขึ้น สูดลมหายใจลึก กลับมามีสภาพจิตใจไร้ความกริ่งเกรงไม่กลัวความตาย กัดฟันครั้งหนึ่งแล้วรีบจากไป

เขาจะไปสืบเสาะการเคลื่อนไหวของผู้ที่ดูเหมือน ‘อริยะสตรี’ ผู้นี้!

……

ในวันนี้แดนฐิติประจิมสั่นสะเทือนรุนแรง ผู้ฝึกปราณแต่ละล้วนหวาดผวา กดดันจนรู้สึกหายใจไม่ออก พวกเขาสังหรณ์ว่าใต้หล้านี้จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

ส่วนสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันบางตนกลับออกจากการปิดด่าน ใช้พลังทั้งหมดสืบหาข่าวคราว ก่อนหน้านี้พวกเขาก็สะท้านสะเทือน ในใจตื่นกลัว

หญิงสาวเยื้องย่างในอากาศ เงาร่างอรชร เพียงแค่หนึ่งเค่อก็ตัดผ่านร้อยเขตแคว้นกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง เหมือนว่าตลอดทางมานี้ทำให้นางนึกถึงเรื่องราวในอดีตมากมายขึ้นมาได้

“นั่นคือ…”

“เป็นอริยเทพเดินทางอยู่ใช่ไหม”

“สวรรค์!”

ส่วนตลอดทางนี้ผู้แข็งแกร่งระดับราชันจากที่ต่างๆ ล้วนได้เห็นรอยเท้าของหญิงสาวผู้นั้น เสียดายที่กลับเลือนรางและไร้เทียมทาน ภาพนั้นปราดเดียวก็เลือนหายไป

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันเหล่านั้นล้วนอกสั่นขวัญแขวน มีความกริ่งเกรงแทบจะก้มหัวกราบกราน

ครู่ใหญ่หญิงสาวหยุดอยู่หน้าภูเขาวิญญาณเก่าแก่สูงใหญ่ลูกหนึ่ง ยืนอยู่เหนือห้วงอากาศแล้วมองลงมา

ภูเขานี้เกรียงไกร ด้านบนนั้นมีหมอกเซียนตลบอบอวล ไอสีม่วงพลุ่งพล่าน ท่ามกลางแสงสายัณห์ยามเย็น อาบไล้ไปด้วยรังสีศักดิ์สิทธิ์สีทองระเรื่อ

อาคารเก่าแก่เป็นทิวแถวกระจัดกระจายอยู่ภายในนั้น ดูงดงามและเงียบสงบราวเป็นสถานที่มงคลซึ่งเป็นที่พำนักของเซียน อยู่เหนือมรรตยะ แปลกแยกจากโลกา

ภูเขานี้มีนามว่าคุนอู๋!

เรือนกระบี่เร้นปุจฉา สำนักอันดับหนึ่งของแดนฐิติประจิมก็ตั้งตระหง่านอยู่บนนี้!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์