กลางฟ้าดินเปี่ยมด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายออกไป ก่อให้เกิดระลอกคลื่นแปลกประหลาด พาให้ผู้ฝึกปราณทั้งหมดในเมืองผาดาราแตกตื่นทันที
“เทศกาลโคมกถามรรคเริ่มขึ้นแล้ว!”
เสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดังขึ้นเป็นระยะๆ ฮือฮาไปทั่วราวกับพายุกาฬวาตก็ไม่ปาน
สวบๆๆ!
เพียงชั่วครู่เท่านั้น ลำแสงนับไม่ถ้วนทะยานขึ้นจากกลางมือง แน่นขนัดปานสายฝน สดใสเจิดจรัส ทั้งหมดต่างพุ่งหวือไปนอกเมือง
“เขาพยับครามกำลังจะปรากฏแล้ว!”
“เร็วเข้า นี่เป็นถึงเทศกาลเอิกเกริกที่ไม่เคยมีมาก่อน ต่อให้ไม่สามารถเข้าร่วมได้ ก็ต้องจับจองตำแหน่งได้เปรียบสักแห่งเพื่อรอชมให้ได้”
“ระยำเอ๊ย อย่าเบียดสิ!”
คลื่นเสียงอลหม่านดังก้องกลางฟ้าดิน คึกคักเอ็ดอึงเป็นที่สุดราวกับผึ้งแตกรัง
“โฮก!”
อสูรกิเลนเพลิงเขียวตัวหนึ่งห้อทะยานสู่อากาศ เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ลุกโชน แหวกว่ายกลางห้วงอากาศ กลิ่นอายราวกับราชัน ทุกที่ที่เคลื่อนผ่านเหล่าผู้ฝึกปราณต่างต้องหลบฉาก
ขบวนของมู่เจี้ยนถิงแห่งอารามพรางมรกตนั่งอยู่บนนั้น ท่วงท่าแสนสบาย
อีกด้านหนึ่งเสียงร้องก้องกังวานสายหนึ่งดังหนึ่งราวกับอสนีคลอนเก้าสวรรค์ ก็เห็นแสงสีทองแถบหนึ่งโฉบปราดขึ้นไป นั่นคือนกจาบกาฬทองตัวหนึ่งที่เรียวปีกงดงาม เรือนร่างราวกับหลอมสร้างมาจากทองคำ มีความยาวหลายสิบจั้ง
มันบรรทุกนคนจากตำหนักปรกอุดมหายลับไปในห้วงอากาศเพียงชั่วขณะ รวดเร็วถึงขีดสุด
โครม!
พื้นดินสั่นสะเทือน คชสารมังกรหยกดำตัวมหึมาดั่งภูผาแบกบรรทุกขบวนของจงหลีอู๋จี้ แหวกพุ่งทะลุโดยตรง ห้อทะยานออกไปพาให้เกิดฝุ่นควันโขมง
และละแวกใกล้เคียง สิงห์อสนีหยกขาวที่ทั่วร่างอาบสายฟ้าพร่าตาตัวหนึ่งส่งเสียงคำรามแห่งลมสายฟ้า พุ่งทะยานขึ้นสู่เวิ้งนภาอย่างแรง เหลยเชียนจวินที่มาจากเผ่ามหาอสนีนั่งหลังเหยียดตรงชายเสื้อโบกสะบัดอยู่บนหลังของมัน
“โฮก!”
ทันใดนั้นเสียงคำรามดุจดั่งมังกรดังก้องทั่วฟ้าดินเป็นระลอก ก็เห็นแสงสีทองบาดตาหาใดเปรียบแผดร้องอยู่บนเวิ้งฟ้า
นั่นคือเจียวทองเก้าหัวตัวหนึ่งที่บรรทุกตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลังหนึ่ง ลอยล่องแหวกผ่านใต้ผืนฟ้า ทอดมองจากไกลๆ ดูประหนึ่งอาทิตย์สีทองดวงใหญ่เคลื่อนผ่านเวิ้งนภา น่าตกตะลึงเป็นล้นพ้น
นั่นคือผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะซึ่งมาจากแดนกาฬทักษิณอย่างไม่ต้องสงสัย!
ประเดี๋ยวเดียวในเมืองผาดารามีทั้งปักษาเทพร่ายระบำ สัตว์ปีศาจห้อทะยาน ลำแสงสารพัดตัดสลับ ภาพที่แสนเกรียงไกรระดับนั้นเรียกได้ว่าสะท้านโลก ร้อยพันปียังยากจะพานพบสักครั้ง
นี่ก็คืออิทธิพลของเทศกาลโคมกถามรรค!
“คนมากมายขนาดนี้เชียว”
หลินสวิน เยวี่ยเจี้ยนหมิงและไป่เฟิงหลิวก็เร่งออกเดินทางมุ่งสู่นอกเมืองแล้วเช่นกัน
“ส่วนใหญ่คือคนที่มาชมดูเรื่องสนุก ผู้ที่สามารถเข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคอย่างแท้จริงก็มีเพียงบรรดาผู้กล้าอย่างพวกเจ้าเท่านั้น”
ไป่เฟิงหลิวทอดถอนใจ บนใบหน้าชราเปี่ยมด้วยแววละห้อย กล่าวอย่างเนิบนาบว่า “คิดถึงในตอนนั้น ผู้เฒ่าอย่างข้าก็นับว่าเป็นอัจฉริยะสะท้านโลกที่คนทั้งเผ่าวาทวาโยต่างเคารพเลื่อมใส มีความสามารถรอบรู้ครอบจักรวาล องอาจสั่นคลอนรอบทิศ เสียดายก็แต่เกิดไม่ถูกจังหวะ มีเจตจำนงสูงส่งแห่งการเข้าถึงมรรคในใต้หล้า กลับได้แต่ทอดถอนใจจนปัญญา!”
เจ้าเฒ่าสากกะเบือคนนี้ยิ่งโม้ก็ยิ่งเกินธรรมดา หลินสวินทำหน้าดูแคลน คร้านจะสนใจเขาแล้ว
ไม่นานนักพวกเขาก็เหินออกนอกเมือง พริบตาเดียวนัยน์ตาหลินสวินพลันหดรัดลง
ก็เห็นว่าในป่าเขากว้างใหญ่ ยามนี้ถึงกับมีกลิ่นอายปานอริยเทพชโลมอยู่ชั้นหนึ่ง ละอองแสงแต้มสีสันพันหมื่นสายโปรยปรายลงมาจากเวิ้งฟ้าประดุจสายน้ำตก ลุกโชนเจิดจรัส ส่องสะท้อนที่แห่งนั้นให้เป็นดั่งภาพฝันมายา
โครมครืน!
ผืนแผ่นดินของที่แห่งนั้นกำลังเคลื่อนไหว ส่งเสียงสะเทือนเลือนลั่นน่าสะพรึงออกมา ราวกับมีบางสิ่งกำลังทำลายพื้นดินตรงนั้นออกมา
ในความเลือนราง แว่วเสียงสัทครรลองมหามรรคเสียงแล้วเสียงเล่าก้องสะท้อนฟ้าดิน เบาหวิวแต่เคร่งครัด ดุจดั่งกระแสเสียงของอริยบุคคลบรรพกาลกำลังท่องคัมภีร์
“แสงอรุณศักดิ์สิทธิ์ฟ้าประทาน เสียงธรรมก้องกระหึ่ม นี่คือนิมิตแห่งการปรากฏเขาพยับคราม!”
ผู้ฝึกปราณรุ่นอาวุโสส่วนหนึ่งโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
ชั่วขณะนั้นผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนต่างเร่งฝีเท้าไปทางนั้น ล้วนมีท่าทางเร่งรีบถึงที่สุด
หลินสวินก็อดไหวหวั่นไม่ได้เช่นกัน ยังไม่ทันปรากฏ ก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินปั่นป่วนอันยิ่งใหญ่เช่นนี้แล้ว ที่มาของเขาพยับครามแห่งนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่!
ไม่นานนักบนเวิ้งนภาถึงกับมีดอกไม้พิสุทธิ์มหามรรคดอกแล้วดอกเล่าปรากฏขึ้น ร่วงสยายลอยล่องลงมา ทั้งศักดิ์สิทธิ์และไร้อัตตา
หลังจากนั้นก็มีนิมิตต่างๆ ปรากฏตามมา ทั้งมังกรฟ้าเหินทะยาน นกเซียนบินฉวัดเฉวียน รุ้งวิเศษแหวกห้วงอากาศ เมฆมงคลรวมตัว ขับเน้นฟ้าดินบริเวณนั้นให้ประหนึ่งดินแดนพิสุทธิ์แห่งเซียน น่าอัศจรรย์ถึงขีดสุด
ผู้ฝึกปราณมากมายต่างสูดหายใจเฮือก ล้วนเข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคเป็นครั้งแรก มีหรือจะคิดถึงว่าจะได้เห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์เช่นนี้กับตา
ส่วนบรรดาผู้กล้าบางส่วนแววตาลุกวาว จิตใจสั่นสะท้าน เปี่ยมด้วยความปรารถนา พวกเขากำลังจะเข้าร่วมในเทศกาลโคมกถามรรค ได้เห็นปรากฏการณ์ประหลาดสะท้านโลกเช่นนี้ต่อหน้า ย่อมคิดเตลิดเปิดเปิงอย่างเลี่ยงไม่ได้เป็นธรรมดา
“การปรากฏตัวของเขาพยับครามในครั้งนี้ไม่ธรรมดาเกินไปแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอดีต หรือเพราะมหาสงครามใกล้มาเยือนจึงทำให้บริเวณนี้แตกต่างออกไปหรือ”
ผู้ฝึกปราณรุ่นอาวุโสบางส่วนรู้สึกหวั่นหวาด สั่นสะท้านอย่างอธิบายไม่ถูก
พวกเขาเคยพบเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของเทศกาลโคมกถามรรคมาก่อนในอดีต แต่ก็ไม่เหมือนครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าความมหัศจรรย์เช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอน
“ปีนั้นตอนที่มู่ซางเสวี่ยเจ้าสำนักเรือนกระบี่เร้นปุจฉายังเยาว์วัย ก็เคยได้รับศุภโชคชิ้นใหญ่ในเทศกาลโคมกถามรรค ความสำเร็จครั้งเดียวก็ทำให้มีตำแหน่งในปัจจุบันแล้ว ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้บุคคลไร้เทียมทานคนใดจะได้รับวาสนาระดับนี้อีก”
บางคนหวนรำลึก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์