หลินสวินมุ่งหน้าไปตลอดทาง พบกับอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างทาง แต่ล้วนถูกเขาหลบเลี่ยงได้ทันเวลา หนีห่างอย่างรวดเร็ว
อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเกินไปแล้ว นอกจากหิมะน้ำแข็ง แดนลี้ลับแห่งนี้ก็ไม่มีภาพอื่นใดอีก
จู่ๆ เสียงทะลวงห้วงอากาศระลอกหนึ่งดังลอยมาจากในลมหิมะ ลมคลั่งวูบหนึ่งพัดผ่านเหนือหัวหลินสวิน
นี่เป็นชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง บังคับแสงเคลื่อนเจิดจ้า สะดุดตายิ่งยามอยู่กลางโลกแห่งหิมะน้ำแข็งขาวโพลน นี่พาให้หลินสวินรู้สึกประหลาดใจน้อยๆ อย่างอดไม่ได้
เดินทางตั้งนานป่านนี้ นี่คือผู้กล้ากลุ่มแรกที่เขาพบ
ส่วนบรรดาชายหญิงเหล่านั้นยามได้เห็นหลินสวินเดินโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางลมหิมะ ก็รู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย ผุดแววแปลกประหลาดเช่นเดียวกัน
“เจ้าหมอนี่กล้าหาญพอตัวจริงๆ ถึงกับกล้าเดินข้ามแดนเวิ้งว้างหิมะน้ำแข็งเพียงลำพังโดยไม่ได้กำบังซ่อนตัว หรือจะเป็นพวกไร้เทียมทานคนหนึ่ง แต่เหตุใดก่อนหน้านี้ถึงไม่ยักจำได้ว่ามีคนแบบนี้มาก่อน”
“พวกไร้เทียมทานอะไร มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นพวกน่าสงสารไร้มิตรสหาย ภูมิหลังไม่ยิ่งใหญ่พอก็เท่านั้น อย่าลืมสิ ในแดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปรแห่งนี้ แม้เป็นพวกไร้เทียมทานก็ยังต้องมีคู่หูร่วมเดินทาง ระแวดระวังตัว มีหรือจะใจกล้าบ้าบิ่นอย่างเขา เห็นๆ อยู่ว่าไม่รู้จักความเป็นความตาย!”
ชายหญิงเหล่านั้นกดเสียงเบาพูดคุยกัน
“ไม่จำเป็นเดาแล้ว นี่ก็คือเจ้างั่งที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง ปราศจากมิตรสหาย ได้แต่เดินทางเพียงลำพัง ซ้ำเห็นได้ชัดว่าไม่รู้ถึงความน่ากลัวของแดนลี้ลับแห่งนี้ เดี๋ยวคงจบเห่ไม่ช้าก็เร็ว”
“อีกเดี๋ยวก็จะเข้าใกล้ ‘เขาน้ำแข็งปทุมเพลิง’ หนทางยิ่งอันตรายและน่ากลัว พอดีเลย พวกเราตามหลังคนผู้นี้ไป ปล่อยให้เขาสำรวจเส้นทางแทน เมื่อปรากฏอันตรายอะไรขึ้นจะได้หลบเลี่ยงทันเวลา”
บางคนเสนอเสียงเบา
หลินสวินเหลือบสายตาขึ้นน้อยๆ ชำเลืองมองชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านั้นปราดหนึ่ง สีหน้าราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง มุ่งหน้าเดินทางต่อไป
ยามที่เข้าสู่แดนลี้ลับหิมะน้ำแข็งแห่งนี้ หลินสวินได้ใช้เคล็ดวิชามหาไร้รูป เปลี่ยนแปลงกลิ่นอายและรูปลักษณ์ตัวเอง เวลานี้ต่อให้เยวี่ยเจี้ยนหมิงมาเอง เกรงว่าก็คงมองตัวตนของเขาไม่ออกเช่นกัน
หลินสวินรู้ดียิ่ง เมื่อวานมีคนลอบโหมกระพือข่าว ปล่อยข่าวว่าที่เกี่ยวข้องกับตนออกไป ทำให้ตัวเขากลายเป็นเป้าของทุกคน อยู่ใจกลางพายุ ถูกบรรดาผู้กล้ามากมายหมายหัว เผลอๆ อาจมีพวกใจร้อนบางส่วนมาเล่นงานตนเพื่อช่วงชิงสิ่งที่เรียกว่าสมบัติอริยะและศุภโชคก็เป็นได้
หลินสวินไม่กลัวจะเกิดปัญหา แต่ก็ไม่โง่จนไม่เตรียมการตั้งรับอะไรเลย
เหตุที่ปลอมตัวก็เพราะหมายจะดูเสียหน่อยว่า ในเทศกาลโคมกถามรรคหนนี้มีคนอยากจัดการตนมากเท่าไรกันแน่ และ ‘ตัวการ’ ที่ลอบใส่ไฟอยู่ลับๆ คนนั้นเป็นใคร!
“โฮก!”
เสียงคำรามเหี้ยมโหดบาดหูเสียงหนึ่งดังลอยมาจากระยะไกล ลิงยักษ์สีขาวหิมะทั้งตัวตัวหนึ่งกระโจนออกมาจากห้วงอากาศ เส้นขนแวววาว ไอชั่วร้ายกร้าวแกร่งแผ่กระจาย ร่างสูงหลายสิบจั้งราวกับภูเขาลูกหนึ่ง ดุร้ายเกรี้ยวกราด
ร่างของมันว่องไวบึกบึน เขี้ยวราวกับใบมีดคมกริบ ดวงตาแดงฉานดั่งเลือดสด ยิงลำแสงสีเลือดน่าสะพรึงออกมา
นี่คือสัตว์ปีศาจกร้าวแกร่งน่ากลัวถึงที่สุดตัวหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย แข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์อสูรมารหิมะน้ำแข็งเหล่านั้นที่หลินสวินเคยพบระหว่างก่อนหน้านี้เสียอีก
นัยน์ตาหลินสวินหรี่ลงน้อยๆ สัมผัสได้ว่าอันตรายอย่างแท้จริงค่อยๆ เริ่มปรากฏขึ้นมาแล้ว
สวบ!
เงาร่างของเขาไหววูบ หลบห่างออกไป อ้อมผ่านอีกด้านหนึ่ง
“โอ๋ มองไม่ออกว่าเจ้างั่งนี่ก็ระวังตัว รู้จักหลบเลี่ยงภัยอันตรายด้วย”
“นี่ปกติมาก ยิ่งเป็นคนพรรค์นี้ก็ยิ่งกลัวตาย อย่างไรเขาก็สามารถเข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคได้ ก็ย่อมไม่ใช่พวกธรรมดานัก”
ชายหญิงเหล่านั้นที่ตามหลังหลินสวินมาตลอดทางต่างหัวเราะร่วน ในคำพูดเจือแววล้อเลียน
หืม?
เดิหน้าต่อไปอีกหลายสิบลี้ สีหน้าหลินสวินผุดแววแปลกประหลาดขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง ในลมหนาวสะท้านบาดกระดูกหาใดเปรียบนั้น ถึงกับมีกลิ่นคาวเลือดบาดจมูกลอยออกมาเป็นระลอก
ไม่ทันไรหลินสวินก็สัมผัสได้ว่าบนชั้นน้ำแข็งห่างออกไปไกลโพ้น มีควันลอยคลุ้ง มีทั้งเศษขนที่แตกเป็นเสี่ยง ท่อนกระดูกหัก เกล็ดกระจัดกระจาย มีคราบเลือดอยู่บนพื้นหลายจุด
ที่นี่มีการเข่นฆ่ารุนแรงฉากหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง!
หลินสวินรู้สึกหวั่นหวาดในใจ
พร้อมกันนั้นเขาตรวจสอบผ่านจิตรับรู้ ก็เห็นภาพที่ผิดปกติถึงที่สุดภาพหนึ่งทันที
ทะเลสาบหินหนืดแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนชั้นน้ำแข็งสีขาวหิมะ โปร่งแสงแดงสด มีอาณาเขตหลายสิบจั้ง หมอกสีขาวขมุกขมัวพวยพุ่งกลางทะเลสาบ เต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถันแสบจมูก
โลกที่ราวกับเป็นหิมะน้ำแข็งถึงกับปรากฏทะเลสาบหินหนืดขึ้นมา แต่ชั้นน้ำแข็งละแวกใกล้เคียงกลับไม่เคยถูกหลอมละลาย ตรงข้ามกลับเหมือนเพลิงน้ำแข็งสอดประสาน กลายเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง
‘แดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปร… ผันแปร… หรือคำว่าผันแปรก็คือปรากฏการณ์ที่อยู่เบื้องหน้านี้’
หลินสวินจมสู่ภวังค์ความคิด
เขาไม่ได้เข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ ในทันที บริเวณใกล้เคียงทะเลสาบหินหนืดนั้นเพิ่งเกิดศึกนองเลือดรุนแรงขึ้นไม่นาน ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายเสี้ยวหนึ่ง
“เฮ้ เจ้าคนนั้นน่ะ ไปสำรวจก้นทะเลสาบนั่นหน่อยสิ!” ชายหญิงทั้งหมดที่ตามหลังมาก็ก้าวมาข้างหน้าด้วยเช่นกัน ส่งเสียงตะโกนลั่น คิดจะให้หลินสวินไปเสี่ยงอันตราย
หลินสวินขมวดคิ้ว กวาดมองพวกเขาปราดหนึ่งแล้วกล่าว “อยากไปก็ไปเอง เลิกแหกปากร้องอยู่ที่นี่”
เขากำลังคาดเดาสภาพการณ์เบื้องหน้า สงสัยว่าสิ่งที่เรียกว่าแดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปรอาจซุกซ่อนนัยอย่างอื่นเอาไว้ เหมือนกับสภาพเบื้องหน้านี้ หิมะน้ำแข็งและหินหนืดสอดประสานเข้าด้วยกัน แต่กลับไม่เคยเกิดการปะทุ สิ่งนี้เห็นได้ชัดว่าผิดธรรมชาติเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังคำกล่าวที่ว่าน้ำกับไฟไม่ถูกกัน นี่ก็คือกฎธรรมชาติ
แต่ยามนี้กลับปรากฏความสมดุลแสนประณีตเช่นนี้ สิ่งที่เรียกว่า ‘ผันแปร’ อาจจะเป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งของ ‘สรรพสิ่งเมื่อถึงขีดสุดแล้วต้องพลิกกลับ’ ก็เป็นได้
และก็เพราะกำลังคาดเดาปริศนาเหล่านี้อยู่ เขาจึงมองข้ามและผรุสวาทใส่ชายหญิงกลุ่มนี้โดยตรง
“ไม่ได้ยินหรือ พูดถึงเจ้าอยู่นะ!”
ชายหญิงเหล่านั้นต่างหน้าเคร่ง ชักไม่สบอารมณ์เข้าแล้ว ในสายตาพวกเขาเด็กหนุ่มคนนี้ตัวคนเดียวโดดเดี่ยว เรียกได้ว่าอ่อนแอเปราะบาง ซ้ำยังแปลกหน้ายิ่งนัก ไม่เหมือนพวกไร้เทียมทานคนใดๆ ที่เข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นจึงคร้านจะเกรงใจ มองหลินสวินเป็นพวกอ่อนแอรังแกง่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์