ลมหิมะตลบอบอวล เหนือพื้นที่มีชั้นน้ำแข็งหนาแน่นธารหินหนืดสีแดงเพลิงสายหนึ่งไหลคดเคี้ยว กระแสหินหนืดแสบตาพลุ่งพล่าน ส่งเสียงคำรามราวฟ้าร้อง
โครม!
นกกระเรียนยักษ์ปีกเพลิงตัวหนึ่งกรงเล็บคมราวดาบ แผ่รังสีเพลิงน่าหวาดหวั่นออกมา ฉีกห้วงอากาศออกเป็นรอยแยกตรงแน่วเส้นแล้วเส้นเล่า
พลังของมันน่ากริ่งเกรงนัก เหมือนสามารถประชันกับเหล่าผู้กล้าระดับกระบวนแปรจุติได้
เพียงแต่คราวนี้มันโชคร้ายมาพบกับหลินสวินเข้า
พรึ่บ!
เพียงครู่เดียวหลินสวินก็สำแดงวิชามรรคธารดาราหลอมเพลิง ชั่วพริบตาก็เหมือนมีธารดาราที่ลุกโหมแผ่กระจายทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน กระเรียนปีกเพลิงตัวนั้นหลบไม่ทันถูกกลบอยู่ภายในนั้น ตายคาที่
ซ่า! ร่างของมันแปรสภาพเป็นละอองแสงสีแดงเพลิงลอยละล่อง ในขณะเดียวกันก็มีแหล่งผลึกเจตะเปล่งประกายราวเพชรเพลิงชิ้นหนึ่งตกลงมา
หลินสวินยื่นมือไปรับแล้วเก็บเข้าไปในแหวนเก็บของ
จากนั้นเขาก็ไม่หยุดพัก แต่เดินหน้าต่อไปตามธารหินหนืดสายนี้ ชุดสีขาวพระจันทร์ปลิวไสวกลางลมหิมะดับพึบพับ สง่างามโดดเด่น
……
ในช่วงเวลาสี่วันนี้ หลินสวินเดินไปมาทั่วดินแดนลับหิมะน้ำแข็งแห่งนี้ แม้ตลอดทางจะพบอันตรายไม่น้อย แต่ก็ถูกเขาคลี่คลายไปได้อย่างปลอดภัย
‘เก็บแหล่งผลึกเจตะได้สามสิบเก้าชิ้นแล้ว ขอเพียงหลอมพวกมันก็น่าจะสามารถเลื่อนขั้นพลังปราณเป็นระดับกระบวนแปรจุติขั้นกลางได้’
หลินสวินเดินหน้าไปพลางครุ่นคิด
‘น่าเสียดาย นอกจากเขาน้ำแข็งปทุมเพลิงลูกนั้น ก็หาที่ที่มีโอสถวิญญาณเจตะขึ้นอีกไม่เจอ…’
ในช่วงหลายวันนี้หลินสวินหาโอสถวิญญาณเจตะอยู่เสมอ แต่ตลอดทางกลับไม่ได้เลยสักชิ้น
เดิมทีเขายังคิดจะกลับไปเขาน้ำแข็งปทุมเพลิงลูกนั้นใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อวานซืนก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น ทำให้เขาน้ำแข็งปทุมเพลิงลูกนั้นหายเข้ากลีบเมฆ
ตามที่ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งซึ่งบังเอิญเจอระหว่างทางแพร่งพราย ตั้งแต่หลินสวินเด็ดดอกบัวเพลิงเก้ากลีบมาได้แล้วจากไป เขาน้ำแข็งปทุมเพลิงลูกนั้นก็ไม่มีดอกบัวเพลิงเก้ากลีบดอกที่สองปรากฏขึ้นอีก
นี่ทำให้หลินสวินรับรู้ได้ว่า วาสนาที่ว่าก็มีจำนวนจำกัด ร่อยหรอหาใดเทียบ และไม่ใช่ใครจะได้รับง่ายๆ
วิ้ง!
ไกลออกไป จู่ๆ คลื่นอากาศดังแสบแก้วหูระลอกหนึ่งก็กระจายออกมาดึงดูดความสนใจของหลินสวิน
เขาเข้าไปใกล้ ก็เห็นเข้าพอดีว่ามีหนุ่มสาวสี่คนส่งเสียงคำรามดาลเดือดไม่พอใจ ถูกเคลื่อนย้ายพาตัวไป ชั่วพริบตาก็หายลับไปจากสายตา
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกคัดออกแล้ว
ส่วนสิ่งที่กำราบพวกเขากลับเป็นค้างคาวที่แปรสภาพมาจากหิมะน้ำแข็งฝูงหนึ่ง แต่ละตัวขนาดเท่าหินโม่ นัยน์ตาแดงฉาน เขี้ยวขาวราวหิมะ มีพลังเทียบได้กับมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ พวกมันปรากฏตัวเป็นฝูง คำรามก้องฟ้าดิน กระจัดกระจายทั่วทุกที่ ดุร้ายหาใดเทียบ
แม้แต่หลินสวินก็ไม่อยากยุ่งกับพวกมัน มีมากเกินไปแล้ว ฆ่าอย่างไรก็ไม่หมด
‘มีผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งถูกคัดออกแล้ว…’
หลินสวินไม่ได้ทอดถอนใจอะไร หลังจากหลบค้างคาวหิมะน้ำแข็งฝูงนั้น เขาก็เดินไปตามธารหินหนืดสายนั้นต่อ
ในช่วงเวลาสี่วันนี้ เขาได้เห็นเหตุการณ์มากมาย มีคนถูกคัดออกจากบททดสอบตลอดเวลา เห็นจนชาชินมานานแล้ว
ทว่าอัตราการคัดออกที่น่าตื่นตระหนกเช่นนี้ ก็ยังทำให้หลินสวินใจหายอยู่ดี
นี่เพิ่งเป็นบททดสอบด่านแรกของเทศกาลโคมกถามรรคเท่านั้น ก็มีเหล่าผู้กล้าที่มาจากทั่วสารทิศของแดนฐิติประจิมมากมายขนาดนี้ถูกคัดออก แค่คิดก็รู้ว่า หากคิดจะผ่านบททดสอบทุกด่านอย่างราบรื่น และไปถึงหน้าต้นโคมสำริดมรรคโบราณในที่สุด ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน!
หืม?
ท่ามกลางลมหิมะ จู่ๆ หลินสวินก็หยุดเดิน เหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
แต่ไม่นานนักเขาก็เดินหน้าต่อด้วยสีหน้าไม่หวั่นไหว
โครม!
ทว่าเพียงชั่วอึดใจ บนผืนน้ำแข็งที่ห่างจากเขาไปสิบกว่าจั้งพลันระเบิดกระจุย มีรังสีเย็นเยียบแสบตาสายหนึ่งพุ่งออกมา แทงตรงมาที่หลินสวินราวสายฟ้าแลบ
“ฆ่า!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน ทิศอื่นที่อยู่ใกล้กันก็เกิดเรื่องทำนองเดียวกัน การจู่โจมน่าหวาดหวั่นสายแล้วสายเล่าปล่อยรัศมีเทพช่วงโชติออกมาล้อมโจมตีหลินสวินจากทิศต่างๆ
รวดเร็วเกินไปแล้ว!
ทุกอย่างนี้สิ้นสุดลงในชั่วพริบตา เห็นได้ชัดว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ไตร่ตรองไว้นานแล้วครั้งหนึ่ง
หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น เผชิญการล้อมโจมตีที่โผล่มาโดยกะทันหันเช่นนี้ เกรงว่าคงไม่ทันได้ตอบโต้
แต่หลินสวินเหมือนคาดการณ์ทุกอย่างนี้ไว้ก่อนแล้ว ก่อนที่การสังหารจะเกิดขึ้น เขาก็ใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง เงาร่างหายลับไปจากที่เดิมทันที
โครม!
การจู่โจมทั้งมวลล้มเหลว จุดที่หลินสวินยืนอยู่เดิมถูกระเบิดเป็นโกรกธารมหึมาขนาดราวพันจั้ง เศษน้ำแข็งปลิวว่อน ฟ้าดินสั่นไหวเพราะการโจมตีนี้
“หืม? แล้วเจ้าเด็กนั่นล่ะ”
“เวรเอ๊ย เหยื่อหายไปแล้ว”
“ออกจะชอบกลนะ ทุกคนระวังตัว!”
เสียงฉงนดังขึ้นแถวนั้น เงาร่างหนุ่มสาวแต่ละคนปรากฏขึ้นกลางลมหิมะ ทอดตามองไปโดยรอบกลับหาร่องรอยใดของเป้าหมายไม่พบ
“ปาหี่ฆ่าคนปล้นสมบัติอีกแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง ทิ้งสมบัติที่เก็บสะสมไว้กับตัวพวกเจ้า ข้าก็จะปล่อยผ่านไป”
กลางฟ้าดินไพศาล เสียงของหลินสวินดังขึ้น แม้วาจาจะเรียบเฉยแต่กลับประหนึ่งอสนีบาต ทำให้หนุ่มสาวเหล่านั้นล้วนตัวแข็งทื่อหน้าเปลี่ยนสี
สวบๆๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์