หลินสวินจะต้องจงใจอย่างแน่นอน!
จงหลีอู๋จี้สีหน้าแย่มาก อัดอั้นจนอยากจะกระอักเลือด เขาระมัดระวังและป้องกันถึงขีดสุดแล้ว ไม่คิดว่าสุดท้ายก็ยังจะโดนตบหน้าอีก
ที่น่าอับอายที่สุดคือ เขาตกหลุมพรางเดิมไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแล้ว แม้แต่กลอุบายยังเป็นแบบเดิมไม่เปลี่ยน…
ซาหลิวฉานสั่นไปทั้งกาย เหงื่อซึมท่วมตัว เขาเพิ่งเตรียมจะเอ่ยปาก กลับถูกจงหลีอู๋จี้ตัดหน้าไปก่อน จึงทำให้เขาหลบหลุมลวงนี้ได้
เทพมารหลินคนนี้ร้ายกาจเกินไป และมีความอดทนเกินไปแล้ว หลุมพรางอันเดิม แต่กลับถูกเขาหลอกด้วยกลอุบายที่แตกต่างกัน ทำให้ป้องกันไม่ทันจริงๆ
แต่ตอนนี้คนที่หัวเราะเยาะจงหลีอู๋จี้มีไม่มากนัก ด้วยทุกสายตาล้วนมองไปที่หลินสวินอย่างสงสัย
ไม่ว่าอย่างไรเทพมารหลินก็เป็นบุคคลแห่งยุคคนหนึ่ง แต่กลับเลือกอนุมานศิลาหินที่อยู่รอบนอกสุดของป่าศิลา แล้วตอนนี้เขาหยั่งถึงพลังมหามรรคอะไร
วู้ม
พลันเห็นว่ารอบตัวหลินสวินปรากฏคลื่นมหามรรคอันคลุมเครือ ราวกับหลุมดำที่ค่อยๆ โคจร ทำให้อากาศบริเวณนั้นทลายทีละน้อยอย่างไร้สุ้มเสียง ถูกฉีกทึ้งจนยุ่งเหยิง
“มรรคแห่งวังน้ำวน?”
ผู้ฝึกปราณหลายคนสีหน้าแปลกประหลาด สายตาแฝงความสงสาร
มหามรรคแห่งวังน้ำวนนับว่าเป็นมหามรรคขั้นสี่เท่านั้น พลังโจมตีแม้จะมีเอกลักษณ์และเผด็จการ แต่ไม่ต้องเทียบกับมหามรรคเทียมฟ้าเลย แม้หนึ่งใน ‘เก้ามรรคขั้นหนึ่ง’ ก็ยังสู้ไม่ได้!
เสียเวลาไปขนาดนี้ กลับหยั่งถึงได้เพียงมหามรรคขั้นสี่ หากเกิดขึ้นกับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเกิดกับเทพมารหลินก็ดูน่าเศร้าไม่น้อย
มีเพียงแค่บุคคลแห่งยุคอย่างพวกจี้ซิงเหยา อวี่หลิงคงที่ขมวดคิ้ว ดูสงสัยอยู่บ้าง
เพียงแวบเดียวพวกเขาก็ดูออกว่า พลังมหามรรคที่หลินสวินครอบครอง ไม่ใช่เพียงแค่มหามรรคแห่งวังน้ำวนแน่นอน กลิ่นอายนั่นน่าหวั่นหวาดมากเกินไป
ราวกับเหวดุจดั่งคุก!
มีกลิ่นอายที่พาให้ใจสั่น
แต่ไม่รอให้พวกเขาไปสัมผัสและสอดแนม พลันเห็นว่าปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นรอบตัวหลินสวินราวกับกระแสน้ำ หายเข้าไปในร่างกายทั้งหมดโดยไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว ทำให้พวกเขาไม่สามารถรับรู้ได้อีก
นี่…
พวกจี้ซิงเหยาหรี่ตา ยิ่งมั่นใจว่าหลินสวินน่าจะมีผลเก็บเกี่ยวอื่น ครอบครองพลังมหามรรคที่หายากอย่างมากประเภทหนึ่ง
ต้องรู้ว่าพวกเขาต่างมากจากสำนักโบราณ มีความรู้ที่กว้างขวาง กับมหามรรคเทียมฟ้าเก้าสิบเก้าประเภทในบรรพกาลก็รู้อย่างละเอียดประหนึ่งเป็นสมบัติของตน
แต่ตอนนี้พวกเขากลับอ่านพลังมหามรรคที่หลินสวินหยั่งถึงไม่ออกนัก นี่ดูจะเหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว
คืออะไรกันแน่
พรึ่บ!
พวกเขาหันสายตาไปมองศิลาหินเก่าแก่ที่เก่าคร่ำ กระดำกระด่างและดูเหมือนธรรมดาตรงหน้าหลินสวินทันที
เพียงแต่แตกต่างจากเมื่อครู่นี้ ในสายตาของพวกเขาศิลาหินหลักปรากฏสีสันอันลึกลับเพิ่มขึ้นมา
นี่มันเกินอะไรขึ้น
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ตะลึงงัน เมื่อสังเกตเห็นการกระทำที่ผิดปกติของพวกจี้ซิงเหยาก็อดมองตามไม่ได้
แคร่ก! แคร่ก!
แต่ยังไม่รอให้พวกเขาเห็นชัด พลันเห็นศิลาหินนั่นพังทลายไปทุกส่วน เศษหินร่วงหล่นแปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นละอองปลิวว่อน
ทุกคนนัยน์ตาหดรัดลงโดยพร้อมเพรียง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เทศกาลโคมกถามรรคในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ไม่เคยได้ยินเรื่องที่ศิลาหินถูกทำลายมาก่อนเลย!
อย่าว่าแต่ถูกทำลาย เพียงสัมผัสก็ยังเป็นไปไม่ได้ เพราะศิลาหินทุกหลักล้วนปกคลุมด้วยพลังต้องห้ามน่ากลัว สัมผัสเพียงนิดก็อาจจะถูกพลังต้องห้ามสะเทือนถอย หากดื้อดึงไม่ยอมหลาบจำ ถึงขั้นมีความเป็นไปได้ที่จะสะเทือนจนบาดเจ็บสาหัส ถูกคัดออกออกจากตรงนั้น
แต่ตอนนี้กลับมีศิลาหินหลักหนึ่งทลายไปเองต่อหน้าต่อตา นี่ดูผิดปกติเกินไปแล้ว
‘ตามคาด พลังมหามรรคที่หลินสวินหยั่งถึงไม่มีทางธรรมดาแน่!’
ทันใดนั้นสายตาของพวกจี้ซิงเหยาที่มองไปทางหลินสวินก็เปลี่ยนไป มีทั้งความแปลกใจและความระแวง
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ หากหยั่งถึงเพียงมรรคแห่งวังน้ำวนขั้นสี่ จะเกิดเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไร!
เทพมารหลินหยั่งถึงสิ่งใดจากศิลาหินหลักนั้นกันแน่
……
หลินสวินไม่ได้สนใจสายตารอบข้าง เขาได้ตื่นจากการหยั่งรู้แล้ว
เพียงแต่ตอนที่มั่นใจแล้วว่าพลังมหามรรคที่ตนครอบครองคืออะไร ในใจเขาเองก็มีความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
บนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจ ชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดบริสุทธิ์ขาวกระจ่างเปล่งแสง เดี๋ยวแปรเปลี่ยนเป็นลักษณ์แห่งหลุมดำคลื่นดารา เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นลักษณ์หุบเหวกลืนท้องฟ้า แผ่กลิ่นอายอันน่าสะพรึงออกมา
มรรคนี้นามว่า ‘ดับดารากลืนกิน’!
มหามรรคที่สูญหายไปตั้งแต่สมัยบรรพกาล แต่อานุภาพของมันกลับเรียกได้ว่าน่ากลัวไร้ขีดสุด เมื่อฝึกถึงขั้นสูงสุด ตัวคนจะประหนึ่งหุบเหว สามารถกลืนกินท้องฟ้า ทลายวัฏจักรหมู่ดาว!
หลินสวินไม่ลืมชายชราที่วิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ในส่วนลึกของดารานภา และไม่ลืมอานุภาพอันน่าหวั่นหวาดที่สะเทือนท้องฟ้า ทำให้วัฏจักรธารดาราสั่นสะเทือนนั่น
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า ชายชราผู้นั้นก็มีพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน และครอบครองพลังมรรคแห่งดับดารากลืนกินเช่นเดียวกัน!
‘พลังมรรคนี้คลุมเครือและน่ากลัว กลิ่นอายทำลายล้างเผด็จการเหนือท้องฟ้า เพียงแต่การหยั่งถึงก็ยากลำบากมากเช่นกัน อนุมานอยู่นานก็ทำได้เพียงพอจะฝืนครอบครองแก่นแท้จริงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เรียกได้ว่าเล็กน้อยมาก…’
หลินสวินพึมพำในใจ
ทว่าแม้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังมีความตะลึงที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ อย่าเห็นว่าเป็นเพียงแก่นแท้จริงเสี้ยวเดียว แต่เมื่อนำมาใช้ในการต่อสู้ พลังที่ปลดปล่อยออกมานั้นกลับแข็งแกร่งเหนือจินตนาการอย่างแน่นอน!
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์