Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 899

ตอนที่ 899 วิญญาณดำประทานมาร
ครืนโครม!

พร้อมๆ กับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เขาพยับครามทั้งลูกพลันส่งเสียงคำราม ฟ้าสั่นดินสะเทือน เกิดปรากฏการณ์ประหลาดตะลึงโลกขึ้น

พลันเห็นว่าบนภูเขานั่นแสงม่วงพวยพุ่ง สายฟ้าแทรกสอด รุ้งศักดิ์สิทธิ์แสงมงคลสาดส่อง เป็นประกายระยับราวกับเม็ดฝน ทำให้เขาพยับครามทั้งลูกถูกปกคลุมด้วยไออันยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ชั้นหนึ่ง

“สวรรค์!”

ผู้ฝึกปราณหลายคนใจสั่น รู้สึกกดดันจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว คนที่พลังปราณค่อนข้างต่ำยิ่งเหงื่อท่วมตัว เกือบจะทรุดนั่งกับพื้น

อานุภาพที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นราวกับภูผาถล่มคลื่นซัดสาด แพร่กระจายท่ามกลางฟ้าดิน แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับท่านย่ากระเรียนทองยังอกสั่นขวัญแขวน เกร็งไปทั้งตัว

วิเศษอัศจรรย์เกินไปแล้ว!

แต่ไม่นานเสียงที่ราวกับเสียงสวรรค์และเสียงเคาะระฆังดังขึ้น แผ่ออกไปในวงกว้าง

ทันใดนั้นเขาพยับครามหยุดคำราม ตั้งตระหง่านนิ่งงันอยู่ตรงนั้น ฟ้าดินทั้งผืนเงียบสงบ

พลันเห็นว่ากลางเขานั่นต้นโคมสำริดมรรคโบราณได้เปลี่ยนเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สูงเสียดฟ้าแล้ว ลำต้นซึ่งประหนึ่งหลอมจากสำริดทะลวงเมฆา ราวกับเสาที่ค้ำจุนฟ้าดินเอาไว้

กิ่งก้านหนาแน่นแผ่ขึ้นบนที่สูงในอากาศ ราวกับทางเดินสู่สวรรค์มากมาย

บนกิ่ง ดอกตูมที่ราวกับโคมสำริดมากมายตอนนี้พลิ้วไปตามสายลม ส่งเสียงธรรมอันเป็นธรรมชาติราวกับเสียงระฆัง

ชั่วพริบตาเดียวสรรพสิ่งนิ่งสงบ ฟ้าดินเคร่งขรึม กลุ่มผู้ฝึกปราณในระยะไกลราวกับยกภูเขาออกจากอก

เสียงธรรมที่ราวกับเสียงจากสวรรค์ล่องลอย มีพลังที่ทำให้จิตใจสงบ ทุกคนรู้สึกเพียงว่าร่างกายราวกับถูกชำระล้างรอบหนึ่ง นิ่งสงบสันติสุข ความคิดว่างเปล่าแจ่มแจ้ง

“มหัศจรรย์เกินไปแล้ว!”

กลุ่มผู้ฝึกปราณตะลึง ยิ่งรับรู้ได้ว่าเขาพยับครามไม่ธรรมดา สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ราวกับเป็นร่องรอยเทพที่แท้จริงแห่งหนึ่ง

“รีบดูเร็ว ดอกตูมสำริดเหล่านั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลง!” มีผู้ฝึกปราณอุทานด้วยความตกใจ

พลันเห็นว่าบนต้นโคมสำริดมรรคโบราณ ดอกตูมสำริดที่เดิมขนาดราวกำปั้น กลายเป็นขนาดประมาณโคมไฟ

กลีบทุกกลีบล้วนแฝงกลิ่นอายมหามรรค พรั่งพรูแสงมรรค ดูประหนึ่งมีชีวิต ปลดปล่อยพลังชีวิตอันสะดุดตา

“หลังจากดอกไม้บาน ก็คือช่วงเวลาที่ศุภโชคจะถือกำเนิด!” ท่านย่ากระเรียนทองพูดชัดทีละคำ สายตาเร่าร้อน

และในเวลานั้นเอง ผู้ฝึกปราณทุกคนต่างเห็นว่า หน้าต้นโคมสำริดมรรคโบราณที่ตั้งตระหง่านเสียดฟ้าปรากฏเงาร่างของผู้แข็งแกร่งมากมาย

เหล่าผู้กล้าที่ผ่านการทดสอบถกมรรคด่านที่ห้า เริ่มทยอยมาถึงหน้าต้นโคมสำริดมรรคโบราณแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย!

……

‘สูงมาก!’

หลินสวินเงยหน้า ในใจตกตะลึง

ตอนนี้เขาถูกเคลื่อนย้ายมาถึงใต้ต้นโคมสำริดมรรคโบราณพร้อมกับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ แล้ว

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง พลันเห็นลำต้นโบราณราวกับมังกรทะยานสู่ท้องฟ้า พลิ้วไหวอยู่บนฟากฟ้า กลับมองไม่ถึงจุดสิ้นสุดในแวบเดียว

ที่นี่เงียบสงบและสันติสุขมาก มีไอศักดิ์สิทธิ์ร่วงหล่นจากต้นไม้โบราณ

มองด้วยตาเปล่าก็สามารถมองเห็นว่า ดอกตูมสำริดที่ราวกับโคมไฟแต่ละดวงแขวนอยู่บนกิ่งก้านหนาแน่น

แม้พวกมันไม่เบ่งบาน กลับเผยแสงมรรค พรั่งพรูแสงศักดิ์สิทธิ์ สว่างไสวราวกับสุริยันดวงน้อยมากมาย ส่งเสียงธรรมที่เป็นเหมือนเสียงสวรรค์ออกมา

ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งทุกคนทั้งหลินสวิน จี้ซิงเหยา อวี่หลิงคงต่างตะลึง ภาพตรงนั้นหาใช่คำว่าศักดิ์สิทธิ์เพียงสองคำนี้จะเปรียบเทียบได้

พิเศษเกินไปแล้ว ไม่เหมือนสิ่งที่โลกมนุษย์สามารถมีได้เลยสักนิด แต่เหมือนต้นไม้เทพในแดนเซียนตกลงมาในโลกมนุษย์!

“ดอกแห่งมรรคโบราณนับพันดอก นี่ไม่ใช่หมายความว่า มีศุภโชคมากถึงพันอย่างซ่อนอยู่ภายในหรือ”

มีผู้แข็งแกร่งใจสั่นพูดออกมา สายตาเร่าร้อน

“จะพูดเช่นนี้ก็ไม่ได้ พวกนั้นล้วนเป็นดอกตูม มีเพียงดอกที่สามารถเบ่งบานได้เท่านั้นจึงจะให้กำเนิดศุภโชค”

“แต่ในเทศกาลโคมกถามรรคที่ผ่านๆ มาไม่เคยมีดอกตูมมากมายขนาดนี้ สามารถคาดเดาได้ว่า ศุภโชคที่ถือกำเนิดในครั้งนี้จะต้องไม่น้อยแน่”

และมีผู้แข็งแกร่งอธิบายอย่างใจเย็น แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ บทสรุปที่ได้ก็ยังทำให้คนหวั่นไหว

“ในตำนาน ดอกแห่งมรรคโบราณนั่นบ้างหล่อเลี้ยงสมบัติหนึ่งเดียวในโลกเอาไว้ บางให้กำเนิดของล้ำค่าแห่งฟ้าดิน ถึงขั้นที่ยังมีประทับพลิกฟ้าไร้เทียมทานอยู่ภายใน…”

“แต่ในบรรดาศุภโชคมากมายนี้ กลับมีเพียงอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเป็นศุภโชคอันดับหนึ่ง ใครที่ได้ไป คนผู้นั้นก็จะเป็นผู้ชนะตัวจริงของเทศกาลโคมกถามรรคในครั้งนี้”

“ไม่ผิด ข้าจำได้ว่าตอนนั้นผู้อาวุโสมู่ซางเสวี่ยแห่งเรือนกระบี่เร้นปุจฉาเคยได้ศุภโชอันดับหนึ่งไป ได้รับ ‘รากเร้นฟ้าดิน’ ต้นหนึ่งไป”

เหล่าผู้กล้าสายตาร้อนระอุ ต่างควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่

เพียงแต่ดอกตูมบนต้นไม้เทพนั่นยังไม่บาน ตอนนี้พวกเขาล้วนกำลังอดทนรอ ไม่เช่นนั้นคงเข้าไปช่วงชิงในทันทีแล้ว

“แม่นางจี้ ไปดูด้านบนกับข้าเป็นอย่างไร” จู่ๆ อวี่หลิงคงก็ยิ้มพูด เชิญชวนจี้ซิงเหยา

จี้ซิงเหยาลังเลอยู่ครู่ แต่สุดท้ายก็พยักหน้า “ก็ดี”

“เช่นนั้นข้าจะปกป้องแม่นางจี้เอง!” อวี่หลิงคงยิ้ม ในขณะที่พูดสายตาก็เหลือบมองหลินสวินอย่างคล้ายไม่ได้ตั้งใจปราดหนึ่ง ก่อนจะผละออกไป

หลินสวินหรี่ตา เขารู้ว่านี่เป็นการเตือนและประกาศศึกอ้อมๆ!

ไม่นานเงาร่างของอวี่หลิงคงและจี้ซิงเหยาก็ก้าวขึ้นไปบนลำต้นของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่หนาใหญ่จนสิบคนมาได้ ก่อนจะเคลื่อนตัวไปยังด้านบน

ครืนโครม!

สามารถมองเห็นว่า ทันทีที่เงาร่างของทั้งสองพุ่งขึ้นไป บนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏสายฟ้าสีเงินน่ากลัวผ่าสังหารลงมาขวางทั้งสอง

ฮูม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์