ซย่าจื้อปลดหมวกคลุมลง เผยให้เห็นใบหน้าที่ถูกบดบัง เครื่องหน้าทั้งห้าของนางงดงามถึงที่สุดประดุจผลงานชั้นเลิศจากสรวงสวรรค์
คิ้วงามราวน้ำหมึก เนตรดาราสุกสกาว ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่งราวมันแพะ ร่างแบบบางสูงโปร่ง ทั้งตัวนางเหมือนดอกบัวเขียวกลางฝนหมอกพร่ามัวดอกหนึ่ง มีความงดงามที่พาให้สรรพสิ่งบนฟ้าดินล้วนหม่นหมอง
งดงามผุดผ่องราวภาพเขียน!
ในใจอันธพาลเฒ่าตื่นตะลึงอย่างรุนแรง เท่าที่เขาดู ความงามของเด็กสาวผู้นี้เรียกได้ว่าเย้ยฟ้า สามารถล่มบ้านล่มเมืองได้อย่างแน่นอน
“ให้ตายสิ นี่เป็นเซียนสาวที่จากแดนเซียนหรือ…” อันธพาลเฒ่าพึมพำเสียงหลง
ซย่าจื้อชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่ง ดวงตาทรงจันทร์เสี้ยวใสกระจ่างเต็มไปด้วยความเย็นชาถึงที่สุด อันธพาลเฒ่าแข็งทื่อไปทั้งตัว ถึงกับรู้สึกหวาดผวาสะทกสะท้าน
ยามเขาได้สติกลับมาอีกครั้ง เงาร่างของซย่าจื้อก็หายไปนานแล้ว
“แม่หนูนี่… ทะ…ทำไมไม่เหมือนคนบนโลกนี้” อันธพาลเฒ่าหน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนพบเจอเรื่องยากยิ่ง
……
บนแท่นมรรค การต่อสู้กำลังปะทุอย่างดุเดือดและโหดเหี้ยม
ไป๋หลิงซีกระอักเลือดออกมาหลายครั้งแล้ว อาภรณ์สีขาวย้อมโลหิต แต่นางก็ยังคงแข็งขืน
ทว่าในที่สุดก็พลังไม่เพียงพอ ไม่อาจตั้งรับทุกคนไว้ได้
“หลินสวิน ข้าเพียงขอใช้หัวเจ้าครั้งเดียว เจ้าต้องสงเคราะห์ข้าให้ได้!” รอบกายซางเจี่ยมีสีทองเจิดจ้า ทวนศึกกวาดออกไปในอากาศ สังหารอย่างดุดัน
ตูม!
ไป๋หลิงซีเคลื่อนกายมารับการโจมตีนี้ไว้ เพียงแต่ที่ตามมาติดๆ คือการจู่โจมจากศัตรูหลายคน ทำให้นางกระอักเลือดออกจากปากอีกครั้ง สีหน้าซีดขาวจนแทบโปร่งแสง
“เจ้ารีบหนีไป! ไม่อยากอยู่แล้วหรือ!”
หลินสวินเพิ่งดึงจิตรับรู้กลับมาจากเจดีย์สมบัติไร้อักษรก็เห็นภาพนี้เข้า พลันโมโหจนเลือดแทบเต็มดวงตา
เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีกระตุ้นเจดีย์สมบัติไร้อักษร กลับยากจะสัมฤทธิ์ผล อาการบาดเจ็บรุนแรงเกินไปทำให้เขาไม่อาจทำต่อไปได้
“เจ้ากับข้าได้รู้จักกันครั้งหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ไม่อาจดูเจ้าตายไปต่อหน้าต่อตาได้แล้ว” ไป๋หลิงซีเอ่ยปาก เสียงเจือไปด้วยความอ่อนระโหย แต่กลับแน่วแน่อย่างผิดธรรมดา
“หึ! จนป่านนี้แล้วยังโง่มาช่วยเจ้าเด็กนี่ บอกเจ้าให้ เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
มู่เจี้ยนถิงถือกระบี่จู่โจมเข้ามา สีหน้าเหี้ยมเกรียมเย็นชา เขาแค้นหลินสวินถึงที่สุด เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะตาย ในใจเขาก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ในชั่วขณะเป็นตาย หลินสวินก็เร่งเร้าเสียงคำรามผูเหลา วงคลื่นสีทองแผ่กระจายออกฝืนรับการสังหารของมู่เจี้ยนถิงไว้ แต่ตัวเขากลับถูกสะเทือนจนกระอักเลือด ร่างกายโคลงเคลงแทบล้มลง
“แข็งใจต่อไปไม่ไหวแล้วหรือ”
หลี่ชิงฮวนฝ่าเข้ามาจากอีกด้านหนึ่ง เขารอบคอบและระมัดระวังมาก เมื่อโจมตีไม่โดนครั้งหนึ่งก็หายตัวถอยไป แต่ขอเพียงเขาออกโจมตี ต้องโหดเหี้ยมร้ายกาจถึงที่สุด
“มันเป็นของข้า!”
ซาเจี่ยตะคอก แสงทองพรั่งพรูทั่วกาย ทวนใหญ่ปกคลุมฟ้า โจมตีสังหารออกไปอย่างอุกอาจยิ่งนัก
“ตายซะ!”
และอีกด้านหนึ่ง มู่เจี้ยนถิงก็จู่โจมเข้ามาก่อนแล้ว!
ชั่วพริบตา รอบตัวหลินสวินทุกทิศก็ถูกโอบล้อมโดยสมบูรณ์ จะหลบก็ไม่ได้ จะหนีก็ไม่สามารถ
ส่วนไป๋หลิงซีก็ถูกล้อมไว้ ไม่ว่านางจะพุ่งโจมตีเช่นไรก็ไม่อาจฝ่าวงล้อมออกไปได้ นี่ทำให้นางกระวนกระวายถึงที่สุด รู้สึกไร้พลังขนาดนี้เป็นครั้งแรก
หลินสวินเคลื่อนที่ได้ยาก อย่างมากก็ฝืนทำได้เพียงใช้ดาบหักตั้งรับการจู่โจมส่วนหนึ่ง แต่กลับถูกพุ่งโจมตี ทำให้อาการบาดเจ็บของเขายิ่งรุนแรง เลือดสดๆ ในกายพรั่งพรูหลั่งไหล น่าตื่นตระหนกยิ่ง
“ไสหัวไป!” ไป๋หลิงซีต่อสู้ถวายชีวิต พุ่งออกไปทั้งซ้ายขวา แต่ก็ยังสลัดวงล้อมไม่ได้อยู่ดี กลับกัน เพราะนางร้อนใจจะฝ่าวงล้อม กลับได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
สวบ!
กระบี่มรรคลายสนของมู่เจี้ยนถิงฟันลงมา แทงเข้าที่กลางหลังหลินสวิน
“ไปตายซะ!” มุมปากหลี่ชิงฮวนปรากฏรอยยิ้มโหดเหี้ยม เขามั่นใจว่าหลินสวินจะต้องตายคาที่ในการโจมตีนี้
อีกด้านหนึ่งพวกซางเจี่ยก็ลงมือ ทำให้หลินสวินตกอยู่ในสถานการณ์คับขันในทันใด
เพียงแต่หลินสวินสีหน้าเยือกเย็นจนน่ากลัว ฝ่ามือของเขากำขวดหยกมันแพะขวดเล็กๆ ไว้ขวดหนึ่ง นี่คือขวดมหามรรคสุดหยั่ง เก็บพลังของกระบวนผนึกมรรคราชันอยู่เต็มเปี่ยมไว้ก่อนแล้ว
เขาหวั่นใจว่าบุคคลแห่งยุคเหล่านี้จะมีไพ่ตายน่ากลัวมาโดยตลอด ดังนั้นจึงยังไม่ได้ใช้สมบัตินี้สักที แต่ตอนนี้เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาไม่สนใจสิ่งอื่นแล้ว
“เหตุใดต้องฝืนทำเป็นแข็งแกร่งด้วย กังวลว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาหรือ ข้าไม่ใช่ตัวข้าสมัยก่อนแล้วนะ เจ้าไปพักผ่อนที่ด้านข้างเถอะ”
ในตอนนี้เอง จู่ๆ ร่มดำคันหนึ่งก็กางออกกำบังหลินสวินไว้ภายในนั้นราวกับจะตัดขาดออกจากทั้งโลก พร้อมกับเสียงกังวานรื่นหูนั้น
จากนั้นซย่าจื้อก็ปรากฏตัวในที่นั้น มือถือทวนม่วงเล่มหนึ่งกวาดโจมตีทั่วทิศอย่างสบายๆ
ปังๆๆ!
เสียงกระแทกดังลั่นจนหูแทบหนวกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง การโจมตีที่พุ่งเข้ามาจากรอบทิศล้วนถูกขจัดสิ้น แตกกระสานซ่านเซ็นเป็นละอองแสงกระจัดกระจาย
ส่วนพวกมู่เจี้ยนถิง หลี่ชิงฮวนที่พุ่งโจมตีมายิ่งคล้ายต้องอสนีบาต ร่างกายพากันสั่นสะท้าน รับการจู่โจมน่าหวาดหวั่นจนถอยหลังโซซัดโซเซ
เหตุไม่คาดฝันที่เข้ามาโดยกะทันหันนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่ง แทบจะปิดฉากลงในชั่วพริบตา
ส่วนในที่นั้น เงาร่างของหลินสวินถูกร่มดำบดบังไว้ ร่มเหมือนฝาปิด บังฟ้าห่มดิน ราวราตรีนิรันดร์ปกคลุมจักรวาล
เบื้องหน้าเขา เด็กสาวสวมเสื้อคลุมสีดำทั้งชุด หมวกปิดบังใบหน้า เผยให้เห็นเพียงคางขาวกระจ่างละเอียดลออ ผิวพรรณเปล่งปลั่งดุจมันแพะ ขับเน้นอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีดำ ให้ความรู้สึกงามตะลึงน่าตื่นตา
เงาร่างนางแบบบาง เท้าเปลือยเปล่าเรียวงาม ถือทวนยาวสีม่วงเล่มหนึ่งอยู่ ทั้งที่ตัวคนเดียวชัดๆ แต่เมื่อยืนอยู่ที่นั่น กลับมีมาดสง่างามโดดเด่นที่สามารถต้านทานลมฝนจากรอบทิศแปดด้านได้
นางเป็นใครกัน
พวกมู่เจี้ยนถิงล้วนสีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึม ก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบจะสังหารหลินสวินได้แล้ว แต่กลับถูกทำให้เสียเรื่อง ในใจต่างเดือดดาลจนไม่อาจยั้งไว้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์