ก่อนหน้านี้พวกเขาละทิ้งการช่วงชิงศุภโชค ยังอยู่ด้านล่างต้นโคมสำริดมรรคโบราณ เพียงแต่เมื่อได้เห็นปรากฏการณ์ประหลาดศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นบนแท่นมรรคนั้น ก็อดใจไม่ไหวจนออกมาแล้ว
ที่น่าเสียดายก็คือผนึกต้องห้ามบนแท่นมรรคคลุมเครือ น่าหวาดหวั่นเกินไป ทำให้พวกเขาไม่อาจเข้าใกล้ ทำได้เพียงยืนสังเกตการณ์อยู่ตรงนี้
“อวี่หลิงคงถูกฟันแล้ว ในหมู่คนรุ่นเยาว์บนโลกนี้ยังมีใครต้านทานก้าวย่างของเทพมารหลินได้ไหม”
“ตำหนักอมตะน่ากริ่งเกรงเกินไปแล้ว สมกับเป็นยอดสมบัติอริยมรรคของแดนพิสุทธิ์อมตะ การโจมตีเมื่อครู่นั้นทำให้เทพมารหลินแทบประสบเคราะห์!”
“เด็กสาวคนนั้นเป็นใคร เหตุใดถึงทรงพลังเช่นนี้”
“นะนะนาง… ถึงกับฆ่าบุคคลแห่งยุคมากมายเพียงนี้!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น แม้ไม่อาจเข้าใกล้ยอดของแท่นมรรค แต่ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้กลับสามารถมองเห็นการประหัตประหารนองเลือดที่เกิดขึ้นด้านบนนั้นได้รางเลือน
กระทั่งเมื่อเห็นว่าลำพังซย่าจื้อเพียงผู้เดียวสังหารบุคคลแห่งยุคคนแล้วคนเล่าราวกับผักปลา ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ล้วนตระหนก ความหนาวยะเยือกผุดขึ้นมาในหัวใจ ขนพองสยองเกล้า
“ฮ่าๆ เด็กสาวผู้นั้นแข็งแกร่งปานนี้ แต่ดัน… ดันไม่มีคุณสมบัติช่วงชิงศุภโชคอันดับหนึ่ง คราวนี้กลายเป็นเรื่องเศร้าเสียแล้ว”
และเมื่อได้รู้ข่าวนี้ ก็มีคนอดไม่ได้ที่จะมีความสุขที่เห็นผู้อื่นเป็นทุกข์
แต่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นเขาก็หุบปาก นัยน์ตาขยายกว้าง นิ่งงันอยู่ตรงนั้นราวถูกสายฟ้าฟาด ในใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
ไม่เพียงแค่เขา ผู้แข็งแกร่งคนอื่นในที่นั้นต่างพากันเงียบเชียบไร้เสียง แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสียิ่ง เผยความหวั่นเกรงหาใดเทียบ
ในครรลองสายตาของเขาพวกเขา เทพมารหลินกับเด็กสาวลึกลับผู้นั้นรวมถึงไป๋หลิงซี เดินลงมาจากด้านบนแท่นมรรคแล้ว…
หลินสวินไม่สนใจพวกเขา พาซย่าจื้อกับไป๋หลิงซีเดินตรงดิ่งจากไปอย่างรีบร้อน
กระทั่งเงาร่างของพวกเขาหายไป ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ถึงกล้าผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย แต่ละคนต่างมีท่าทางราวยกภูเขาออกจากอก
ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือซย่าจื้อ ต่างใช้ผลการต่อสู้อันเจิดจรัสนองเลือดพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตน ไม่ใช่คนที่พวกเขาเหล่านี้จะกล้าวิจารณ์ต่อหน้าได้!
“ข่าวกระจายออกไปหรือยัง” มีคนเอ่ยปากขึ้นทันใด
“กระจายออกไปแล้ว”
“สามารถคาดการณ์ได้ว่า หลังจากเทศกาลโคมกถามรรคครั้งนี้ปิดฉาก ยามเทพมารหลินคนนั้นเดินออกไปจากเขาพยับคราม ต้องเผชิญหน้ากับเคราะห์สังหารที่คาดเดาได้ยากอีกครั้งหนึ่งแน่!”
“แต่ว่า นี่เขาไม่ได้ออกไปก่อนหรอกหรือ”
“ไม่ เขาออกไปไม่ได้หรอก เทศกาลโคมธรรมกถามรรคยังไม่ปิดฉากลง ใครก็ไม่อาจออกไปได้!”
……
“พวกเราต้องออกไปให้เร็วที่สุด”
ระหว่างทาง หลินสวินขมวดคิ้วเคร่ง เขารับรู้ได้ถึงความรุนแรงของปัญหาเช่นกัน
เงาร่างซย่าจื้ออ้อนแอ้นอรชร เท้าเปลือยเปล่าของนางราวหยก เดินเคียงไหล่ข้างหลินสวิน ในมือขาวกระจ่างเรียวยาวถือร่มดำคันหนึ่ง มีกลิ่นอายเยียบเย็นสงบนิ่งอันเป็นเอกลักษณ์
“เพียงแต่ อิงตามประสบการณ์ในเทศกาลโคมกถามรรคที่ผ่านมา หากการช่วงชิงศุภโชคอันดับหนึ่งไม่ปิดฉากลง พวกเราเหล่าคนที่มาถึงหน้าต้นโคมสำริดมรรคโบราณคนไหนก็ออกไปไม่ได้”
คิ้วงามของไป๋หลิงซีมุ่นขึ้นเล็กน้อย อาภรณ์ขาวของนางเปื้อนเลือด ใบหน้าพริ้งเพราใสกระจ่างซีดขาว ดูอ่อนแรงอยู่บ้าง
การต่อสู้ก่อนหน้านี้ก็ทำให้นางได้รับบาดเจ็บอย่างมาก ทั้งอาการบาดเจ็บก็ไม่ได้ดีไปกว่าหลินสวิน
ยามไป๋หลิงซีพูดก็ชะงักไปเล็กน้อย นางรับรู้ได้อย่างเฉียบคมว่าเด็กสาวลึกลับข้างกายหลินสวินผู้นั้นกำลังประเมินนางอยู่
ไม่ใช่การประเมินอย่างลับๆ แต่เป็นการพินิจพิเคราะห์อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ในดวงตาจันทร์เสี้ยวสีดำสนิทราวราตรีนิรันดร์คู่นั้น เจือความเฉยชาอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีคลื่นอารมณ์ไหววูบแม้แต่น้อย
นี่ทำให้ไป๋หลิงซีอึ้งไป ออกจะไม่สบายใจเล็กน้อย
และในตอนนี้เอง ซย่าจื้อก็เอ่ยปากแล้ว เสียงกังวานราวกระดิ่งกระทบกัน “เจ้ากับหลินสวินมีความสัมพันธ์เช่นไรกัน”
วาจาเช่นนี้เดิมทีควรเป็นคำถามส่วนตัวนัก อีกทั้งต่อให้เอ่ยถาม ก็ควรไปถามหลินสวินถึงจะถูก
แต่เห็นได้ชัดว่าซย่าจื้อไม่เหมือนคนอื่น นางเอ่ยถามอย่างสงบนิ่ง เรียบง่ายและตรงไปตรงมาถึงเพียงนั้น ทำให้ไป๋หลิงซีอดอึ้งไม่ได้
“เพื่อนน่ะ”
ทันใดนั้นนางก็แย้มยิ้ม สังเกตเห็นว่าซย่าจื้อเหมือนจะใส่ใจหลินสวินมาก ดังนั้นถึงได้เอ่ยถามเช่นนี้ออกมา เสียแต่วิธีถามตรงไปตรงมาเกินไป
“เพื่อนหรือ” คิ้วงามสีดำขลับราวน้ำหมึกของซย่าจื้อมุ่นขึ้นอย่างยากสังเกตเห็น
“ใช่ เพื่อน” ไป๋หลิงซีรู้สึกประหลาดอยู่บ้าง หลินสวินกับเด็กสาวผู้นี้มีความสัมพันธ์เช่นไรกันแน่ เหตุใดนางถึงใส่ใจเรื่องแบบนี้ด้วย
แต่กลับเห็นว่าซย่าจื้อพยักหน้าแล้วพูดว่า “เป็นเพื่อนก็ดี”
จากนั้นนางก็ชักสายตากลับไป ไม่มองไป๋หลิงซีอีก คล้ายว่าแน่ใจกับคำตอบนี้ ทำให้นางหมดความสนใจจับจ้องไป๋หลิงซีไปแล้ว
ไป๋หลิงซียิ่งรู้สึกประหลาดยิ่งขึ้นไปอีก คิดไปคิดมา ก็ทำได้เพียงตัดสินว่าความสัมพันธ์ของหลินสวินกับเด็กสาวคนนี้ต้องไม่ธรรมดา
‘น่าสนใจจริงๆ ถ้าข้างกายหลินสวินมีสาวงามรู้ใจที่ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนบางคนเพิ่มขึ้นมา เกรงว่าเด็กสาวคนนี้จะไม่ยอมรับเป็นคนแรกกระมัง’
ความคิดประหลาดบังเกิดขึ้นในใจไป๋หลิงซี
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์