เสียงร้องเล็กแหลมก้องกระหึ่มทั่วฟ้าดิน โจมตีจิตวิญญาณของผู้คนโดยตรง เปี่ยมด้วยพลังฉีกทึ้งเจาะทะลวงอันน่าพรั่นพรึง น่าผวาหาใดเปรียบ
พวกมันถูกหมอกสีเทาห่อหุ้ม พุ่งกรูกันเข้ามาทางยานสมบัติที่พวกหลินสวินอยู่!
ตูม!
พวกโค่วซิงลงมือโดยไม่ลังเล การโจมตีอันหนักหน่วงแผ่ออกไปยังห้วงอากาศห่างไกลหนแล้วหนเล่า
อานุภาพสุดแสนน่าทึ่ง แต่ประสิทธิภาพกลับพาให้ผู้คนฉงนสนเท่ห์
ก็เห็นแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจเหล่านั้นยังคงโถมเข้ามาตามเดิม ไม่ว่าการโจมตีจะรุนแรงและทรงพลังเพียงใดกลับไม่สามารถต้านพวกมันได้เลย ตรงข้ามพวกมันกลับฝ่าทะลวงเข้ามาอย่างง่ายดาย!
มีเพียงแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจเพียงส่วนน้อยที่ถูกบดขยี้สลายกลายเป็นผุยผง แต่เมื่อเทียบกับกองทัพแมลงเม่าที่ครอบฟ้าคลุมดินนั้นแล้ว ความสูญเสียนี้แทบไม่สลักสำคัญ
นี่เป็นเรื่องบัดซบเสียจนพาให้ผู้คนสิ้นหวัง เจ้าพวกเส็งเคร็งเหล่านี้น่าพิศวงเกินไป วิธีต่อสู้ธรรมดาทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย!
“นี่ก็คือแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจ มันวิวัฒน์มาจากพลังวิญญาณ กำเนิดโดยการกลืนกินเศษเสี้ยววิญญาณผู้แข็งแกร่ง ต้องระวังตัวให้มากๆ!” แม่นางเยวี่ยเอ่ยเตือน
ขณะที่พูดนางพลิกมือเรียว กลางฝ่ามือปรากฏกระดิ่งเล็กๆ พวงหนึ่งขึ้น มีทั้งหมดเก้าใบ แต่ละใบต่างดูเหมือนตีหลอมขึ้นจากกระจกแก้วสีม่วง พื้นผิวสลักลวดลายโบราณเช่น วิหคบุปผามัจฉาแมลง แว่นแคว้นภูผาธารา ฟ้าเสถียรดินขนานเป็นต้น
กระดิ่งเก้าใบถูกร้อยเข้าด้วยกันด้วยเชือกสีแดงที่มีรอยไหม้เส้นหนึ่ง ทันทีที่ปรากฏก็ส่งเสียงกังวานเสนาะหู ก้องสะท้อนทั่วฟ้าดิน
กรุ๊งกริ๊ง!
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคลื่นเสียงสีม่วงสว่างไสวแผ่กว้างออกไปวงแล้ววงเล่า วิวัฒน์เป็นเงากระบี่นับพันนับหมื่นกลางห้วงอากาศ ส่งเสียงหวีดหวิวแน่นขนัด
เงากระบี่แต่ละสายต่างสาดแสงสีม่วงงดงามออกมา ดุกร้าวไร้เทียมทาน รายล้อมด้วยพลังเจตจำนงมรรค ล้วนวิวัฒน์มาจากคลื่นเสียงบริสุทธิ์ทั้งหมด
เวลานี้เงากระบี่พันหมื่นพุ่งปราดออกไปพร้อมกันราวกับกระบี่หมื่นเล่ม ภาพนี้น่าตื่นตาอย่างแท้จริง มีพลังสะเทือนจิตใจผู้คน!
โครม!
เพียงชั่วขณะ กองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจที่เหมือนเมฆดำปกคลุมฟ้าดินก็ถูกแทงทะลุเป็นรูกลวงตัวแล้วตัวเล่าในชั่วพริบตา ไม่รู้ว่ามีแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจเท่าไรที่ถูกสังหารคาที่ ร่างแตกเป็นเสี่ยงกลายเป็นพยับหมอกสีเทาขุ่นและมลายหายไป
โค่วซิงและคนอื่นๆ ต่างอึ้งงัน ในใจสั่นสะท้าน กระดิ่งสีม่วงแวววาวพวงหนึ่งถึงกับสาดพลังสังหารน่าสะพรึงเช่นนี้ออกมา นี่เหนือจินตนาการของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
แม้แต่หลินสวิน เวลานี้ก็รู้สึกตกใจเช่นกัน จากนั้นจึงตระหนักได้ว่ากระดิ่งในมือแม่นางเยวี่ยพวงนั้นจะต้องเป็นยอดสมบัติคีตะอย่างแน่นอน
กระทั่งอาจเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นศาสตราจิตอย่างหนึ่ง!
ศาสตราจิต หล่อหลอมจากเจตวัตถุ ขับเคลื่อนด้วยพลังจิตวิญญาณ อานุภาพยากหยั่งถึง ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับยอดศาสตรามรรคราชัน!
‘น่าสนใจ ที่มาของแม่นางเยวี่ยผู้นี้เกรงว่าคงไม่ธรรมดาเป็นแน่ เพียงแต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ถึงต้องอาศัยความช่วยเหลือในการข้ามแม่น้ำพรมแดนสู่แดนชัยบูรพา…’
หลินสวินขบคิด
กริ๊งๆ!
กระดิ่งสีม่วงส่งเสียงกังวานเสนาะหู ระลอกคลื่นเสียงแผ่ขยายกว้างวงแล้ววงเล่า บ้างก็กลายเป็นปราณกระบี่ที่เสมือนจริง บ้างก็กลายเป็นการโจมตีลับอันแสนมหัศจรรย์…
ถึงแม้พลังสังหารจะน่าตกใจหาใดเปรียบ แต่จำนวนแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจเหล่านั้นมีมหาศาลเกินไป ดำมะเมื่อมราวกับพยับเมฆ ครอบฟ้าคลุมดินเสมือนว่าฆ่าไม่จบไม่สิ้น
บรรดานักผจญภัยอย่างพวกโค่วซิงไม่กล้าชะล่าใจ ซัดโจมตีสุดกำลัง พวกเขาต่างรู้ดี หากไม่สามารถต้านการโจมตีของแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจได้ คราวนี้จะต้องพังพินาศอย่างแน่นอน!
‘ไม่ถูกสิ!’
หลินสวินกำลังเตรียมจะโจมตี จู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความไม่เข้าที ในส่วนลึกของกองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจนั้นยังซุกซ่อนกลิ่นอายน่าหวาดกลัวถึงขีดสุดอยู่ บงการทุกอย่างได้ราวกับผู้เป็นราชัน
ถึงแม้อีกฝ่ายจะซุกซ่อนอย่างเร้นลับถึงขีดสุด แต่ภายใต้การครอบคลุมของพลังจิตรับรู้มหึมาของหลินสวิน ก็ยังถูกจับได้อยู่ดี
ดังคาด ขณะเดียวกับที่หลินสวินค้นพบ จู่ๆ ในส่วนลึกของกองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจนั้นก็มีเสียงกรีดร้องเสียดฟ้าสายหนึ่งดังขึ้น ซัดสะเทือนห้วงอากาศในบริเวณนี้จนสั่นไหวรุนแรง ลำพังแค่คลื่นเสียงก็เพียงพอจะโหมพิฆาตยอดฝีมือในพื้นที่นี้ทั้งเป็นได้แล้ว!
โชคดีที่บนยานสมบัติมีกระดิ่งสีม่วงของแม่นางเยวี่ยคุ้มกันอยู่ คลื่นเสียงสีม่วงที่แผ่ขยายออกไปมีประสิทธิภาพสลายการโจมตีชนิดนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บรรดานักผจญภัยอย่างพวกโค่วซิงไม่ได้รับบาดเจ็บ
“ทุกคนระวังตัวด้วย มีราชันแมลงเม่าตัวหนึ่งบัญชาการอยู่ที่นี่!” แม่นางเยวี่ยก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกัน สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมถึงขีดสุด
ไกลออกไป ในส่วนลึกของกองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจปรากฏสิ่งมีชีวิตลำตัวสีเงินตัวหนึ่ง ดวงตาเจิดจ้าประหนึ่งเพชรสีเลือด สาดแสงแวววาวแปลกพิสดารน่าพรั่นพรึงผ่านพยับหมอกสีเทา กวาดมองมายังยานสมบัติ
มันน่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวกลับเสมือนราชันที่แท้จริง กระพือปีกแผ่คลื่นเสียงพลังวิญญาณสีเงินออกมาซัดกระแทกกับพลังกระดิ่งสีม่วงในมือแม่นางเยวี่ย
พรึ่บ!
เงาร่างแม่นางเยวี่ยไหววูบ ทะยานขึ้นกลางอากาศ กระดิ่งสีม่วงพวงนั้นถูกนางบังคับเต็มกำลัง พาให้ทั่วสรรพางค์กายของนางรายล้อมด้วยรัศมีสีม่วงสุกสกาว
นางไม่อาจไม่ต่อสู้กับราชันแมลงเม่าตัวนั้น หาไม่ทุกคนบนยานสมบัติลำนี้จะต้องพบหายนะเป็นแน่!
“ทุกคน สถานการณ์สุ่มเสี่ยง พวกเราจะต้องสู้สุดแรงเกิด ส่วนจะแพ้หรือชนะคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามเจตนาสวรรค์…” แม่นางเยวี่ยส่งเสียงถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง
สีหน้าของพวกโค่วซิงก็เคร่งขรึมถึงขีดสุดเช่นกัน นี่คือหายนะครั้งใหญ่ กระทั่งพาให้ผู้คนรู้สึกถึงความสิ้นหวัง หากสู้สุดใจอาจยังพอมีหวังรอดชีวิต หากไม่สู้ย่อมต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
โครม!
เพียงครู่เดียว แมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจก็กรูเข้ามา โถมขึ้นไปบนยานสมบัติประหนึ่งสายน้ำไหลเชี่ยว
และเวลานี้เอง พวกโค่วซิงจึงตระหนักได้ว่าสิ่งมีชีวิตประหลาดยุคบรรพกาลชนิดนี้น่าหวาดกลัวเพียงใด แต่ละตัวโหดเหี้ยมอำมหิตหาใดเปรียบ แกล้วกล้าไม่หวั่นตาย พุ่งโจมตีจิตวิญญาณของมนุษย์โดยตรง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์