Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 940

ตอนที่ 940 วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจของหนอนกินเทพ
ทั่วลำตัวราชันแมลงเม่าเปล่งแสงสีเงินสุกสว่าง เห็นได้ชัดว่าต่างจากพวกพ้อง มีพลังแห่งราชัน

ซ้ำมันยังเชี่ยวชาญวิชาลับจิตวิญญาณ คลื่นเสียงโจมตีที่ปลดปล่อยออกมาสามารถวิวัฒน์พลังอัศจรรย์ที่แตกต่าง น่าทึ่งถึงที่สุด

หากไม่ใช่เพราะกระดิ่งสีม่วงพวงนั้นที่อยู่ในมือแม่นางเยวี่ยสกัดกั้นพลังจิตวิญญาณชนิดนี้ เกรงว่าคงยืนหยัดไม่ไหวตั้งแต่ต้น

แม้จะเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ ณ ปัจจุบันของนางก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก

พลังของราชันแมลงเม่านั้นน่าสะพรึงเกินไป คลื่นเสียงดั่งกระแสน้ำ ครอบฟ้าคลุมดิน ทุกหย่อมหญ้าล้วนเป็นแสงรัศมีสีเงินเปล่งประกาย ซัดห้วงอากาศบริเวณนี้แตกเป็นเสี่ยงๆ

‘ก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว หากเอาอยู่ ก็เพียงพอจะทำให้พวกเจ้าเลื่อนระดับไปยังขั้นต่อไป นี่เป็นถึงวาสนาที่ยากจะได้รับครั้งหนึ่งเชียวนะ…’

หลินสวินกำชับอยู่ในใจ

พร้อมกันนั้น หนอนกินเทพที่ถูกหลินสวินใช้ ‘เคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอน’ เพาะเลี้ยงในห้วงนิมิตก็ตื่นจากการหลับใหล หลังจากได้ยินคำสั่งของหลินสวิน หนอนกินเทพที่มีขนาดเท่าเมล็ดข้าวเหล่านี้ต่างกระปรี้กระเปร่าผิดปกติ ไหวกระเพื่อมตื่นเต้น

ฟุ่บๆๆ!

เพียงชั่วครู่พวกมันก็พุ่งปราดออกไป ทะลวงผ่านห้วงอากาศอย่างไร้สุ้มเสียง โฉบไปทางราชันแมลงเม่าตัวนั้นที่กำลังต่อสู้กับแม่นางเยวี่ยในระยะไกล

ยามนี้จิตรับรู้ของหลินสวินปกคลุมเหล่าหนอนกินเทพ สัมผัสได้อย่างฉับไวว่าราชันแมลงเม่าตัวนั้นส่งเสียงกรีดร้องเล็กแหลมออกมาคล้ายกับตื่นตระหนก

“หนอนกินเทพ!! น่าชังนัก! พวกเจ้า… พวกเจ้าไม่ได้ตายสิ้นไปตั้งนานแล้วหรือ!?” ราชันแมลงเม่าส่งเสียงคำรามเดือดดาลคลุมเครือออกมา มีเพียงหนอนกินเทพเท่านั้นที่สามารถจับสัมผัสได้อย่างฉับไว

มันคล้ายกริ่งเกรงถึงขีดสุด ถึงกับละทิ้งแม่นางเยวี่ยโดยไม่ลังเล กระพือปีกสีเงินหนีอุตลุดออกไป

สิ่งนี้พาให้แม่นางเยวี่ยอึ้งงันมึนงง

ขณะเดียวกันนั้นหลินสวินก็ตกใจน้อยๆ เช่นกัน คิดไม่ถึงสักนิดว่าหนอนกินเทพที่เพิ่งอยู่ในขั้นแรก ซ้ำยังเป็นแค่ตัวอ่อนเท่านั้น แต่ถึงกับทำให้ราชันแมลงเม่าตัวนั้นกริ่งเกรงเช่นนี้ ยังไม่ทันโรมรันก็หนีโดยไม่คิดสู้เสียแล้ว!

เห็นได้ชัดว่าหนอนกินเทพเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจ!

หลินสวินไม่สนใจสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป ปล่อยให้หนอนกินเทพเก้าตัวไปไล่ล่าราชันแมลงเม่าตัวนั้น ส่วนเขาก็เคลื่อนไหวพุ่งสังหารแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจตัวอื่นต่อไป

เวลานี้สถานการณ์ในบริเวณนั้นเห็นได้ชัดว่าเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว พอราชันแมลงเม่าเผ่นหนี กองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมฟ้าดินนั้นก็เริ่มสับสนอลหม่าน เสมือนกองทัพที่สูญเสียการควบคุมกองหนึ่ง

สิ่งนี้ทำให้แรงกดดันของพวกโค่วซิงลดลงไปไม่น้อยในทันที พวกเขาก็แปลกใจเช่นกัน กองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจที่เดิมทีไหลทะลักเป็นอะไรไปเสียแล้ว

ครืน!

เวลานี้แม่นางเยวี่ยวกกลับขึ้นยานสมบัติอีกครั้ง สำแดงกระดิ่งสีม่วง ช่วยพวกหลินสวินสังหารแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจเหล่านั้นอีกแรง

เมื่อเป็นเช่นนี้กองทัพแมลงเม่าวิญญาณปีกปีศาจจึงเริ่มส่อแววพ่ายแพ้ ถูกพิฆาตชีวิตกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า

บรรดานักผจญภัยอย่างโค่วซิงฮึกเหิม เดิมทีพวกเขาล้วนรู้สึกถึงความสิ้นหวัง ไหนเลยจะคิดว่าสถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลง ภายใต้ความพลิกผันปั่นป่วนทำให้พวกเขามองเห็นความหวังในการรอดชีวิต

ส่วนหลินสวินเองก็ลอบถอนหายใจโล่งอก พึมพำในใจ หากรู้เช่นนี้แต่แรกก็คงส่งหนอนกินเทพไปไล่สังหารราชันแมลงเม่าตัวนั้นโดยตรง ไม่ต้องวุ่นวายเช่นนี้เลยสักนิด

พร้อมกันนั้นสีหน้าเคร่มขรึมของแม่นางเยวี่ยก็ทุเลาลงไม่น้อย ดวงตาใสกระจ่างคู่นั้นชำเลืองมองหลินสวินซึ่งอยู่ไม่ไกลอย่างใช้ความคิด จากนั้นจึงเอ่ยอู้อี้ทันใด “คิดไม่ถึงเลยว่าบนโลกนี้จะยังมีหนอนวิเศษบรรพกาลอย่างหนอนกินเทพอยู่อีก ครั้งนี้โชคดีเหลือเกินที่พวกมันเปลี่ยนภัยเป็นสวัสดิภาพ…”

“แม่นางเยวี่ยก็รู้จักหนอนกินเทพด้วยหรือ” หลินสวินกล่าวอย่างฉงนใจอยู่บ้าง

“นี่คือหนอนวิเศษที่อยู่ในสิบอันดับแรกสมัยบรรพกาล เคยกลืนกินวิญญาณแห่งอริยะที่แท้จริง น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ มีหรือข้าจะไม่รู้”

แม่นางเยวี่ยเอ่ยเสียงเบา “แต่ว่าเท่าที่ข้ารู้ หนอนกินเทพเป็นหนอนเทพพิทักษ์เผ่าของเผ่าราชันเร้นดาราในยุคบรรพกาล สูญพันธุ์ไปตั้งแต่สมัยบรรพกาลแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เห็นเงาร่างของพวกมันอยู่อีก”

หลินสวินลอบตกใจ แม่นางน้อยที่ดูป่วยออดๆ แอดๆ คนนี้ เห็นได้ชัดว่ารู้ความลับมากมาย แม้แต่เผ่าราชันเร้นดารานางก็ยังรู้จัก นี่เห็นได้ชัดว่าผิดปกติเกินไปแล้ว

นางเป็นใครกันแน่

‘คุณชาย บังอาจถามหนึ่งข้อ หนอนกินเทพพวกนี้เจ้าเป็นคนเพาะเลี้ยงหรือ’ ทันใดนั้นโสตประสาทหลินสวินก็มีเสียงสื่อจิตของแม่นางเยวี่ยดังขึ้นมา

‘ถูกต้อง’ หลินสวินสงบนิ่ง เขารู้ว่าเรื่องพวกนี้ปกปิดดวงตาเฉียบคมของอีกฝ่ายไม่ได้ ปิดบังไปก็รังแต่จะทำให้อีกฝ่ายเกิดความสงสัยต่อตน

‘เป็นเช่นนี้นี่เอง’ แม่นางเยวี่ยพยักหน้า ไม่ได้ถามเจาะลึก นางชาญฉลาดยิ่ง มองปราดเดียวก็ดูออกว่าหลินสวินหาได้ยินดีจะพูดคุยประเด็นนี้

‘คุณชาย หนอนชนิดนี้กร้าวแกร่งหาใดเปรียบ หากเพาะเลี้ยงไม่ถูกต้อง จะประสบกับการแว้งกัดของมันเอาง่ายๆ หวังว่าคุณชายจะระวังตัว’ นางเอ่ยเตือนหนึ่งประโยค

จากจุดนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้แม่นางเยวี่ยคนนี้อาจไม่เคยเห็นหนอนกินเทพ แต่กลับรอบรู้รายละเอียดของหนอนกินเทพเป็นอย่างดี!

‘ขอบคุณมาก’ หลินสวินยิ่งแน่ใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าภูมิหลังของหญิงสาวคนนี้ไม่ธรรมดา

แต่เห็นหลินสวินเยือกเย็นเช่นนี้ แม่นางเยวี่ยกลับอึ้งงัน คล้ายตระหนักถึงอะไรบางอย่าง กล่าวหัวเราะเยาะตัวเอง ‘ดูท่าข้าคงคิดมากไป ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของคุณชายกับเผ่าราชันเร้นดาราจะไม่ธรรมดา และสันทัดวิชาเพาะเลี้ยงหนอนชนิดนี้แต่แรกแล้ว’

หลินสวินคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าพลังหยั่งรู้ของอีกฝ่ายจะละเอียดอ่อนเช่นนี้ ตนยังไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ก็ถูกอีกฝ่ายเดาเค้าลางได้บางส่วนแล้ว!

แต่จวบจนบัดนี้เขากลับดูไม่ออกถึงที่มาของหญิงสาวคนนี้แม้แต่น้อย ข้อนี้ทำให้ในใจหลินสวินอดรู้สึกระวังตัวน้อยๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้

‘คุณชาย ถึงแม้ก่อนหน้านี้พวกเราจะไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไร แต่ยามนี้กลับลงเรือลำเดียวกัน นี่ก็คือพรหมลิขิตอย่างหนึ่ง ข้าเองก็ไม่อาจมีเจตนาร้ายใดๆ ต่อคุณชาย หวังว่าคุณชายอย่าได้กังวล’

ไม่อาจไม่พูด แม่นางเยวี่ยคนนี้ฉลาดเหลือแสน คล้ายกับมองทะลุความคิดในใจหลินสวิน จึงสื่อจิตอธิบายออกมา ดูจริงใจยิ่งอย่างเห็นได้ชัด ‘รอหลังจากคลี่คลายอันตรายตรงหน้านี้แล้ว ข้ายินดีจะสนทนากับคุณชายเป็นอย่างยิ่ง’

หลินสวินคลี่ยิ้ม พยักหน้าตอบรับ

อีกฝ่ายเปิดเผยยิ่ง แต่กลับทำให้หลินสวินไม่อาจไม่ยอมรับ นี่คือหญิงสาวคนหนึ่งที่เฉลียวฉลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมาอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์