เสื้อผ้าของซุ่นไป๋เสวียนโบกสะบัดไปตามสายลม ผมยาวพลิ้วไหว มุมปากเหยียดโค้งเย่อหยิ่ง พูดเรียบๆ “ไป เรียกเทพมารหลินออกมา ข้าจะสู้กับเขาสักยก!”
บนยานสำเภา พวกของโค่วซิงต่างอึ้งงัน
เพิ่งโจมตีกลุ่มผู้แข็งแกร่งลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์จนยับเยิน ตอนนี้ชายหนุ่มที่ดูเย่อหยิ่งอย่างมากโผล่มาอีกคน ทำให้พวกเขาเหนือความคาดหมายจริงๆ
ทว่าแตกต่างจากคราวก่อน พวกเขารู้ฐานะของ ‘คุณชายหลินซย่า’ คนนั้นแล้วว่าไม่ใช่นักชำนาญวิญญาณอะไร แต่เป็นเทพมารหลินที่ตอนนี้ชื่อเสียงสะเทือนไปทั้งแดนฐิติประจิม!
ในฐานะผู้ฝึกปราณที่โตในแดนฐิติประจิม พวกเขารู้ดีอย่างที่สุดว่าชื่อเสียงของเทพมารหลินโด่งดังเพียงใด ทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนฐิติประจิมมากมายพูดถึงแล้วต่างหน้าเปลี่ยนสี เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
และเมื่อครู่นี้พวกเขาก็ได้เห็นแล้วว่าหลินสวินสังหารกลุ่มผู้แข็งแกร่งลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ ตอนที่เห็นว่าซุ่นไป๋เสวียนกระโดดออกมาประกาศกร้าวว่าจะสู้กับหลินสวิน สีหน้าของพวกเขาต่างแปลกพิกลขึ้นมา
หรือนี่เป็นคนโง่คนหนึ่ง
ไม่ใช่สิ ท่าทางดูเป็นผู้เป็นคน แต่เหตุใดจึงไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเช่นนี้
พวกเขาฉงนใจ สีหน้าอดแฝงความเวทนาไม่ได้ ราวกับกำลังมองคนซื่อที่ไม่มีความคิดคนหนึ่ง
ซุ่นไป๋เสวียนอึ้งไป รับรู้ได้อย่างฉับไวว่าบรรยากาศดูผิดปกติ คนพวกนั้นมองมาด้วยสายตาอะไรกัน น่ารังเกียจเกินไปหรือเปล่า
เขาตะคอก “นิ่งอยู่ทำไม รีบไป! ทำข้าหัวเสียเข้า ระวังจะเดือดร้อน!”
เพียงแต่พวกโค่วซิงได้ยินเช่นนี้ ไม่เพียงไม่ตกใจ สีหน้ากลับยิ่งดูเวทนา นี่มันคนโง่ที่โผล่มาจากไหนกัน รู้ทั้งรู้ว่าคุณชายหลินสวินอยู่ ยังจะร้องเอะอะคุยโวโอ้อวด อยากตายมากนักหรือไง
“เขาคงไม่ได้มาเพราะต้องการชื่อเสียงหรอกนะ ถึงอย่างไรตอนนี้แม้พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของคุณชายหลินสวิน พูดออกไปก็ยังเป็นเรื่องที่มีเกียรติ” เจ้าหน้าเขียวขมวดคิ้วพูด
“คงจะเป็นเช่นนั้น คนแบบนี้น่ารังเกียจที่สุด เพื่อชื่อเสียง แม้แต่ศีลธรรมก็ไม่สนใจแล้ว เกียรติของโลกผู้บำเพ็ญก็ถูกคนแบบนี้ทำลายนั่นแหละ” จงอางแดงไม่ปกปิดความเย้ยหยันของตนเลยสักนิด
“โลกเสื่อมเสียลงทุกวัน ใจคนก็ถดถอย เจ้าหมอนี่อยากมีชื่อเสียงจนบ้าไปแล้ว” โค่วซิงสีหน้าเคร่งขรึม โจมตีอย่างจริงจัง
ซุ่นไป๋เสวียนเบิกตาโพลง แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง เจ้าพวกนี้ถึงกับ… ถึงกับกล้ากล่าวโทษตนขนาดนี้
เขาโกรธจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา ฝึกปราณจนถึงตอนนี้ เขาถูกมองว่าเป็น ‘ราชันมารจอมก่อกวน’ ใครเห็นก็ต้องกลัว ไม่มีใครกล้าดูหมิ่น
แต่ตอนนี้กลับถูกมองว่าเป็นตัวตลกที่ไม่มีศีลธรรม อยากจะมีชื่อเสียง!
คนพวกนี้ไม่อยากอยู่แล้วหรือ
ซุ่นไป๋เสวียนสีหน้ามืดทะมึนลง!
ห่างออกไป ลั่วเจียที่เห็นภาพนี้ก็อดเผยสีหน้าประหลาดไม่ได้ พยายามกลั้นไม่ให้หัวเราะออกมา คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่เจอหลินสวินด้วยซ้ำ ซุ่นไป๋เสวียนก็ถูกกล่าวโทษโจมตีก่อนแล้ว
ในใจเขาคงกำลังจะคลั่งแล้วซินะ
ลั่วเจียรู้ดีว่าแม้ซุ่นไป๋เสวียนจะยโสโอหังและหยิ่งผยองมาก แต่กลับไม่สนใจไปสร้างความลำบากให้คนที่ไม่อยู่ในสายตาเขา จึงไม่ได้กังวลว่าซุ่นไป๋เสวียนจะคลั่งจนทำร้ายคน
“หุบปาก!” ซุ่นไป๋เสวียนตะเบ็งเสียง กลิ่นอายน่ากลัวพลุ่งพล่านทั่วร่างกาย ประกายศักดิ์สิทธิ์สีทองมากมายปรากฏขึ้น ขับเน้นให้ร่างเขาเป็นสีทองอร่ามทั้งตัว ราวกับเทพอย่างไรอย่างนั้น
พวกโค่วซิงแข็งทื่อไปทั้งตัว แต่กลับไม่ได้กลัว เพียงแค่แปลกใจมาก เจ้าโง่นี่ก็ดูเหมือนจะมีฝีมืออยู่บ้าง ถึงได้กล้ามาท้าทายคุณชายหลินสวินถึงแม่น้ำพรมแดน
“สหาย ข้าขอเตือนเจ้าสักประโยค รีบจากไปเถอะ บนโลกนี้มีวิธีที่ทำให้เจ้ามีชื่อเสียงมากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีทำให้ตนเองอับอายเช่นนี้”
โค่วซิงเตือน
“เจ้า… เจ้าบอกว่าข้าทำให้ตนเองอับอายเช่นนั้นหรือ” ซุ่นไป๋เสวียนชี้ตัวเองราวกับยากจะเชื่อ โกรธจนแผ่แสงสีทองทั่วร่างกาย แทบอยากจะฆ่าคน
“แม้คำพูดจะไม่น่าฟังไปบ้าง แต่ยาดีมักขมปาก ข้าเองก็หวังดีกับเจ้า ฟังคำเตือนของข้าสักครั้ง เจ้ายังอายุน้อย อย่าสูญเสียศักดิ์ศรีและศีลธรรมที่เป็นพื้นฐานที่สุดเพื่อชื่อเสียง เช่นนี้แม้สามารถมีชื่อเสียงได้ แต่จะถูกคนนินทาลับหลัง”
โค่วซิงคิดไปตามสัญชาตญาณว่า ที่ซุ่นไป๋เสวียนโกรธขนาดนี้เพราะถูกตนเปิดโปงความคิด จึงอายจนโกรธ
นี่ทำให้เขาอดหดหู่ใจไม่ได้ หนุ่มสาวสมัยนี้อวดดีและฉุนเฉียวขึ้นเรื่อยๆ เก็บอาการไม่อยู่เลยสักนิด
“สหาย รีบไปเถอะ หากคุณชายหลินถูกรบกวนเข้า ผลลัพธ์จะร้ายแรงมาก”
“เจ้าอายุยังน้อย อย่าทำเรื่องโง่ๆ หลงทางผิดเพียงครั้งเดียวจะกลายเป็นความชิงชังชั่วนิรันดร์ เจ้าจะต้องยืนหยัดให้ได้ อย่าหลงผิดในช่วงเวลาเช่นนี้”
เจ้าหน้าเขียวและจงอางแดงเองก็ส่งเสียงเตือนด้วยท่าทีจริงใจ
หลงผิด… หลงผิด… หัวสมองของซุ่นไป๋เสวียนมึนงง ใบหน้าเขียวไปหมด โกรธจนมือเท้าสั่น แผ่ไอสังหารที่น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ไปทั่วทั้งตัว
โดนดูถูกขนาดนี้ เขามีใจจะเปิดฉากสังหารแล้วจริงๆ น่าโมโหเกินไปแล้ว ดันเห็นเขาซุ่นไป๋เสวียนเป็นเด็กหนุ่มที่กำลังจะหลงผิดงั้นหรือ นี่หากเผยแพร่ออกไปจะต้องถูกหัวเราะเยาะอย่างแน่นอน!
ลั่วเจียไม่อาจมัวแต่มองดูความครื้นเครงได้อีก นัยน์ตาใสกระจ่างหดรัด สัมผัสได้ว่าซุ่นไป๋เสวียนกำลังจะระเบิดแล้ว หากเจ้าหมอนี่คลั่งขึ้นมา จะต้องได้เห็นเลือดอย่างแน่นอน!
แม่นางเยวี่ยที่เงียบดูอยู่ข้างๆ เองก็ไหวหวั่น ทั้งระแวงและระวังขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์